ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"โรม" ชงญัตติด่วน จี้นายกฯ ปราบสแกมเมอร์ ดึงนานาประเทศร่วม

การเมือง
17:58
118
"โรม" ชงญัตติด่วน จี้นายกฯ ปราบสแกมเมอร์ ดึงนานาประเทศร่วม
"โรม" ชงญัตติด่วน จี้นายกฯ ปราบสแกมเมอร์ ดึงนานาประเทศร่วมปฏิบัติการ ไม่ใช่แค่เดินไปคุย หวั่นไทยกลายแหล่งฟอกเงิน ชี้เลือกตั้งรอบหน้าอาจมี 4 พรรค คือ สีส้ม สีแดง สีน้ำเงิน และสีดำ

วันนี้ (30 ต.ค.2568) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 เป็นประธานในการประชุม นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคประชาชน ได้เสนอญัตติด่วนด้วยวาจาเรื่อง แนวทางการปราบปรามเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางไซเบอร์ การค้ามนุษย์และการฟอกเงิน เพื่อส่งให้นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีพิจารณาเพื่อแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วนในวาระแห่งชาติ

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ปัญหาเรื่องสแกมเมอร์มีความร้ายแรงเป็นปัญหาที่สร้างความเสียหายทั่วโลก ไม่ต่ำกว่า 2 ล้านล้านบาท รายได้ของแก๊งสแกมเมอร์ที่ตั้งอยู่ในประเทศต่าง ๆ เช่น กัมพูชามีรายได้สูงถึง 60% ของ GDP ในประเทศ หากดูข้อมูลในรายงานหลายฉบับ จะพบว่าฐานที่ตั้งของแก๊งสแกมเมอร์หลัก ๆ อยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งเมียนมา กัมพูชา เวียดนาม และจากข้อมูลที่ได้มาระบุว่าฐานปฏิบัติการของสแกมเมอร์ที่ยืนยันได้ในประเทศกัมพูชามีมากถึง 53 ฐาน และที่ยังยืนยันไม่ได้เป็นสถานที่ต้องสงสัยอีกเกือบ 50 ฐาน เรากำลังพูดถึงอุตสาหกรรมสแกมเมอร์ เครือข่ายที่มีความร้ายแรงและมีขนาดใหญ่ สร้างความเสียหายให้คนทั่วโลก

"ต้องยอมรับว่าสแกมเมอร์เป็นเรื่องใกล้ตัว หากดูจากข้อมูลของหน่วยงานในไทย พบว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นในไทย ถึง 1.15 แสนล้านบาทแล้ว ความเสียหายวันนี้เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้คนไทยจนลง ก่อให้เกิดปัญหาบ้านเมืองเป็นปัญหาสังคม วิกฤตที่หน่วยงานต่าง ๆ ไม่สามารถหาคำตอบหรือวิธีการแก้ปัญหาได้อย่างชัดเจน"

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนเองดีใจที่รัฐบาลได้ประกาศเรื่องสแกมเมอร์เป็นวาระแห่งชาติ แต่คำถามคือการพูดว่าเป็นวาระแห่งชาติ จะไม่มีความหมายถ้าสุดท้ายไม่ได้นำไปสู่การแก้ปัญหาอย่างแท้จริง ในรัฐบาลที่แล้วได้เริ่มปฏิบัติการทลายแก๊งสแกมเมอร์ในเมียวดี ตอนนั้นการทลายเป็นสัญญาณที่ดีนำไปสู่การตัดไฟตัดอินเทอร์เน็ต และหยุดยั้งในการส่งน้ำมันมากกว่านั้นเป็นสัญญาณที่ดีในการควบคุมการเข้าออกชายแดนให้เกิดผลอย่างมีนัยยสำคัญ ความน่าเสียดายคือเราทำอยู่แค่นั้นและหยุดลง และน่าเสียดายว่าการขยายผลเพื่อนำไปสู่การทลายเครือข่ายไม่เกิดขึ้น นั่นคือความผิดพลาดประการที่ 1

ความผิดพลาดที่ 2 ในเวลานั้นแก๊งสแกมเมอร์ใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน สิ่งที่เรียกร้องมาตลอดคือจะจัดการอย่างไรกับไทยเทา ทำแค่ย้ายตำรวจ ไม่ได้ขยายหรือดำเนินคดีกับบรรดาไทยเทาอย่างจริงจัง ซึ่งยืนยันว่าเจ้าหน้าที่รัฐรู้อย่างแน่นอน ไม่แม้แต่จะดำเนินคดีกับคนที่ชื่อ หม่อง ชิต ตู ถ้าเรื่องนี้สำคัญจริง ๆ ทำไมไม่ดำเนินการอย่างเอาจริงเอาจัง บอกเป็นการนับหนึ่ง ก็อาจถูกสงสัยว่าเป็นเพียงเพื่อเอาใจบางประเทศเท่านั้นแต่ไม่ได้ใส่ใจถึงการแก้ปัญหาระงับความเสียหายที่เกิดขึ้น ถ้าเราไม่มีความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชาสงสัยจริง ๆ ว่าเราจะมีการเอาจริงเอาจังเรื่องแก๊งสแกมเมอร์หรือไม่

"ผมติดตามจนมารู้ว่าแม้กระทั่งในช่วงเวลาไม่นานมานี้การตัดไฟฟ้า ตัดอินเทอร์เน็ต หรือแม้แต่การระงับยับยั้งไม่ให้น้ำมันทั้งระบบของเราไปที่สแกมเมอร์ ก็ไม่ได้เกิดขึ้นจริง สุดท้ายคนที่ตัดกลายเป็นกัมพูชาเอง วันหนึ่งถ้าเขากลับมาต่อใหม่ก็กลับไปสู่สภาพเดิม"

นายรังสิมันต์ ยังกล่าวว่า มีการฟอกเงินเพื่อเอาเงินเหล่านี้เปลี่ยนเงินดําเป็นเงินขาวแล้วเอาเงินเขาไปซื้อธุรกิจซึ่งประเทศไทยในวันนี้กำลังเป็นฮับ ซึ่งในการประชุม IPU ที่ผ่านมาแค่เราเสนอเรื่องนี้ ก็ได้รับการตอบรับจากหลายประเทศนำไปสู่การพูดคุยยกระดับ ตลอด 5 ปีที่ผ่านมาสหภาพรัฐสภา เขาไม่สามารถที่จะผ่านวาระเร่งด่วนได้ครั้งนี้คือครั้งแรกในรอบ 5 ปีที่ประเทศไทยเป็นผู้เสนอและได้รับการตอบรับอย่างท่วมท้น ประเทศส่วนใหญ่บนโลกนี้เห็นว่าเรื่องนี้มีความสำคัญและเป็นเรื่องใหญ่ของมนุษยชาติ คำถามคือแล้วเราทำอะไรเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหา

"ผมเห็นบทบาทของนายกรัฐมนตรีที่ไปประชุมยังประเทศมาเลเซีย ให้สัมภาษณ์และให้ข่าวตลอดเวลา ว่าตัวเองพร้อมที่จะทำให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพต่อการกวาดล้างแก๊งค์สแกมเมอร์ ประเทศไทยจะขออาสาในเรื่องนี้ แต่ความจริงที่โหดร้าย ทางการสหรัฐอเมริการ่วมปฏิบัติการกับสหราชอาณาจักรยึดอายัดคริปโต 5 แสนล้านบาท แต่ประเทศไทยที่อยู่ติดกับกัมพูชาทำอะไรไม่ได้ ต้องรอให้ประเทศอื่นมาจัดการ สำหรับผมนี่คือความน่าอับอาย ของเกียรติภูมิของชาติที่ไม่สามารถเป็นผู้นำในการจัดการเรื่องนี้ได้"

นายรังสิมันต์ ระบุว่า ในที่ประชุมกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐฯ ได้ถามหน่วยงานอย่างสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เรื่อง "ปริ้นซ์ กรุ๊ป" ขยับอย่างไรบ้าง แต่ได้คำตอบว่ายังไม่มีหน่วยงานใดส่งมาเพื่อให้ ปปง.ทำ นี่คือความจริงอันโหดร้าย เราไม่สามารถจัดการเคสที่ใหญ่ระดับโลกอย่าง "ปริ้นซ์ กรุ๊ป" ได้เลย

"ผมนึกไม่ออกเลยว่าประเทศของเราถ้าไม่ได้ประโยชน์อะไรจากแก๊งสแกมเมอร์ ทำไมถึงไม่ดำเนินการ ส่วนตัวผมคิดว่าสิ่งที่เป็นเขื่อนกั้นไม่ให้กลไกของรัฐสามารถดำเนินการได้ ผมถึงสงสัยว่ามันต้องมีนักการเมืองเทา เจ้าหน้าที่รัฐเทาที่ทำให้เรื่องเหล่านี้ไม่สามารถเกิดขึ้นได้" นายรังสิมันต์กล่าว"

นายรังสิมันต์ ระบุว่า หากนายกรัฐมนตรีอยากเป็นเจ้าภาพ ดึงหลายประเทศเข้ามาร่วม ไม่ใช่แค่เดินไปคุย แต่ต้องมีรูปธรรมมากกว่านี้ จึงขอเสนอในเรื่องนโยบาย ไม่ว่าจะเป็น MOU หรือข้อตกลงร่วมกับประเทศต่าง ๆ และต้องกำหนดประกาศให้สาธารณชนได้ทราบว่าจะใช้เวลาเท่าใด ต้องมีแผนปฏิบัติการออกมา ต้องมีศูนย์ที่เรียกว่ายุทธการบูรณาการมอนิเตอร์ 24 ชั่วโมง แชร์ข้อมูล ใช้กลไก ICC นำกัมพูชาขึ้นไปสู่ศาลอาญาระหว่างประเทศ

วันนี้ในรัฐบาลปัจจุบันใครคือแม่ทัพของการแก้ปัญหาเรื่องนี้ เพราะนายกรัฐมนตรีคนเดียวเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ต้องการคนที่เป็นหัวหน้านำไปสู่ความรับผิดชอบและแก้เรื่องนี้อย่างเป็นรูปธรรม รวมทั้งงบประมาณเพื่อซื้อเครื่องมือ รวมถึงกรอบเวลา และการวัด KPI อีกข้อหนึ่งคือเรื่องความเชื่อมั่น ตนเข้าใจดีว่าการตั้งรัฐบาลนี้เป็นวิธีการที่ไม่เคยเห็นมาก่อน มีรัฐบาลเสียงข้างน้อย แล้วเข้าใจว่าเมื่อนายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรีก็มีความพยายามไปรวบรวมเสียงให้ได้มากที่สุด

"วันนี้เมื่อข้อมูลหลักฐานชี้ชัดว่ามีนักการเมือง มีคนระดับรองนายกรัฐมนตรีถูกเชื่อมโยงไปกับแก๊งสแกมเมอร์ แต่หนีการตอบคำถามกรรมาธิการ ไม่ออกมาชี้แจง ไม่กล้าที่จะเผชิญหน้ากับฝ่ายค้าน เพื่อที่จะเคลียร์ความจริงว่าท่านไปเกี่ยวข้องกับคนอย่าง เบน สมิธ ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของสมเด็จฮุน เซน ได้อย่างไร ท่านไม่กล้าที่จะเผชิญหน้าความจริงเรื่องนี้ หมายความว่าความเชื่อมั่นที่ประชาชนเขามองอยู่ ก็ตั้งคำถามว่ารัฐบาลนี้จะแก้ปัญหาเรื่องสแกมเมอร์ได้อย่างไร"

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า หากเป็นแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ภาพธุรกิจของไทยจะเกิดการแข่งขันกับธุรกิจที่มีเงินไม่จำกัดว่าเป็นเงินสีเทา กระทบเป็นลูกโซ่ กิจการของคนไทยจะค่อย ๆ ถูกซื้อโดยกลุ่มทุนเทา ประเทศไทยกำลังถูกทุนเทายึดประเทศ ส่วนการเลือกตั้งรอบนี้พรรคการเมืองที่แข่งขันอาจมีอยู่ 4 พรรค มีสีส้ม สีแดง สีน้ำเงิน และมีสีดำ เผลอ ๆ เงินเหล่านี้ลงสู่การเลือกตั้งทั้งระบบแล้วทำลายประเทศ ยึดอำนาจรัฐของประเทศ หน่วยตรวจสอบทั้งหมดก็ทำอะไรไม่ได้

นายรังสิมันต์ ตั้งคำถามว่ารัฐบาลอยากปราบสแกมเมอร์จริงหรือไม่ หากอยากปราบสิ่งที่รัฐบาลต้องทำลำดับแรกคือการร้อยเรียงทุกหน่วยงาน กำหนดโครงสร้าง KPI กำหนดมือปราบให้ชัด งบประมาณ เข้าใจว่ามีกฎหมายบางฉบับที่ค้างอยู่ที่กระทรวงการคลัง ซึ่งจะทำให้อำนาจของ กลต.เข้าถึงผู้ที่ได้รับประโยชน์ที่แท้จริงของบริษัทต่าง ๆ ซึ่งบางครั้งใช้บริษัทบังหน้า สิ่งเหล่านี้จะนำไปสู่การปราบสแกมเมอร์อย่างแท้จริง เนื่องจากประชาชนคาดหวัง

"ผมคาดหวังกับนายกฯ ให้ทำหน้าที่สมกับความคาดหวังของประชาชน อย่าให้ประชาชนต้องเสียความคาดหวังซ้ำแล้วซ้ำอีก ไม่เช่นนั้นประเทศไทยคงจะตกอยู่ภายใต้อาณาจักรสีเทา อาณาจักรเงามืดที่ยึดประเทศของเรา"

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง: