นบข.ลดราคาสินเชื่อจำนำยุ้งฉาง ข้าวเปลือกเจ้า ข้าวเปลือกเหนียว และข้าวเปลือกปทุมธานี เหลือต่ำสุดตันละ 5,800 บาท จากเดิมต่ำสุด 8 พันบาท หลังราคาตลาดร่วงหนัก เหลือแค่ 5-6 พันบาท อ้างถ้าคงราคาสูง ห่วงชาวนาขายขาด ไม่ไถ่ถอนออก เป็นภาระรัฐต้องนำออกขาย
วันนี้ (20 พ.ย.2568) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) ที่มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เมื่อวันที่ 18 พ.ย.68 มีมติทบทวนโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 68/69 (จำนำยุ้งฉาง) โดยให้ลดราคาสินเชื่อข้าว 3 ชนิด ได้แก่ ข้าวเปลือกเจ้า ข้าวเปลือกปทุมธานี และข้าวเปลือกเหนียว ให้สอดคล้องกับราคาตลาดปัจจุบัน ที่อยู่ในระดับต่ำกว่าราคาที่เคยอนุมัติโครงการนี้ไว้ตั้งแต่รัฐบาลชุดก่อนเมื่อเดือน ส.ค.2568
สำหรับราคาสินเชื่อที่ปรับลดลงนั้น ข้าวเปลือกเจ้า ปรับลดเหลือตันละ 5,800 บาท จากที่อนุมัติไว้ครั้งก่อนที่ตันละ 8,000 บาท, ข้าวเปลือกปทุมธานี เหลือตันละ 7,600 บาท จากเดิมตันละ 9,000 บาท และข้าวเปลือกเหนียว เหลือตันละ 8,600 บาท จาเดิมตันละ 10,000 บาท ส่วนข้าวเปลือกหอมมะลิ และข้าวเปลือกหอมนอกพื้นที่ ยังคงเท่าเดิมที่ตันละ 13,000 บาท และตันละ 11,500 บาท อย่างไรก็ตาม เกษตรกรที่มียุ้งฉาง จะได้ค่าฝากเก็บตันละ 1,500 บาทเหมือนเดิม โดยมีระยะเวลาการเก็บ 1–5 เดือน เป้าหมาย 3 ล้านตันข้าวเปลือก
สาเหตุหลักที่ปรับลดราคา เนื่องจากวัตถุประสงค์หลักของโครงการนี้ เพื่อให้เกษตรกรชะลอการขายข้าว ออกสู่ตลาด ซึ่งอาจฉุดให้ราคาลดลงได้ แต่ให้นำมาฝากเก็บไว้โดยรัฐให้ค่าฝากเก็บ และให้สินเชื่อชะลอการขายโดยไม่ใช่การซื้อนำตลาด เพื่อให้เกษตรกรมีเงินไปใช้จ่ายในระหว่างฝากเก็บ เมื่อราคาข้าวสูงขึ้น จึงค่อยมาไถ่ถอนออกไปขาย แต่ปัจจุบัน ราคาข้าวเปลือกทั้ง 3 ชนิดลดลงมากเหลือตันละ 5,000-6,000 บาท หากรัฐบาลยังคงราคาสินเชื่อไว้ในระดับสูง เกษตรกรอาจไม่มาไถ่ถอนออก ส่งผลให้ข้าวที่ฝากเก็บจะกลายเป็นภาระของรัฐบาลที่ต้องนำออกมาขายเองเหมือนโครงการรับจำนำในอดีต ซึ่งจะถือว่า ผิดวัตถุประสงค์โครงการ และเป็นภาระต่องบประมาณด้วย
นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ที่ประชุม นบข.ยังเห็นชอบมาตรการข้าวไทยสู่เศรษฐกิจอนาคต โดยเน้นการบริหารจัดการข้าวขาวที่มีส่วนเกินได้แก่ โครงการดูดซับข้าวเปลือกนาปี ปี 68/69 เป้าหมาย 3 ล้านตันข้าวเปลือก วงเงินจ่ายขาด 1,680 ล้านบาท โดยให้ 3 หน่วยงาน ได้แก่ องค์การตลาดเพื่อการเกษตร (อ.ต.ก.) หรือองค์การคลังสินค้า (อคส.) และสหกรณ์การเกษตร เร่งจัดหาคำสั่งซื้อข้าวในประเทศ
พร้อมกับ ประสานโรงสี หรือผู้ค้าข้าว เข้าไปรับซื้อข้าวเปลือกจากชาวนาในราคานำตลาด และจะนำข้าวเปลือกทำเป็นข้าวสารบรรจุถุง จำหน่าย ให้หน่วยงานที่มีความต้องการใช้จริง เช่น กรมราชทัณฑ์ กองทัพ และหน่วยงานรัฐอื่นๆ สำหรับเงินจ่ายขาด 1,680 ล้านบาท จะดำเนินการตลอดฤดูกาลผลิตปี 68/69 แบ่งเป็นการให้โรงสีรับซื้อราคานำตลาดตันละ 300 บาท ส่วนอีก 200 บาทจะเป็นค่าปรับปรุงและหรือแปรสภาพข้าว และที่เหลืออีก 60 บาทเป็นค่าบริหารจัดการของ อคส., อ.ต.ก. และสหกรณ์การเกษตร
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบเดินหน้า มาตรการระยะยาวเพื่อปรับปรุงโครงสร้างการผลิต โดยเฉพาะการศึกษาการปรับเปลี่ยนพื้นที่การเพาะปลูกข้าวนาปรังบางส่วน เพื่อให้มีความเหมาะสมกับพื้นที่และความต้องการของตลาด โดยกำหนดกรอบไว้ที่ 1 ล้านไร่
อ่านข่าว :
"คลัง" รับมีแผนขึ้นภาษี VAT ในปี 71 หากเศรษฐกิจไทยพร้อม
น้ำท่วมภาคกลางกระทบราคาผักภาคใต้ ผักชีพุ่งกิโลละ 300 บาท
พาณิชย์เตรียมเจรจาคอฟโก้ ข้าว G to G 5 แสนตัน ดันส่งออกข้าวทั้งปีทะลุเป้า