1. หน้าแรก
ฟังเสียงแม่น้ำกก : ทางออกวิกฤตสารพิษข้ามพรมแดน

ฟังเสียงแม่น้ำกก : ทางออกวิกฤตสารพิษข้ามพรมแดน

22 พฤษภาคม 2568
530
2

สถานการณ์มลพิษในแม่น้ำกกและแม่น้ำสายเข้าขั้นวิกฤต หลังตรวจพบสารหนูเกินค่ามาตรฐาน ส่งผลกระทบวงกว้างทั้งชีวิตความเป็นอยู่ เศรษฐกิจ และก่อให้เกิดความหวาดหวั่นในหมู่ประชาชนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย ปัญหาดังกล่าวมีต้นตอมาจากการทำเหมืองในพื้นที่ต้นน้ำฝั่งประเทศเมียนมา ทำให้เกิดข้อเรียกร้องให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการแก้ไขอย่างจริงจังและยั่งยืน

 

แม่น้ำกก ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็น "แหล่งชีวิต" ของชาวเชียงใหม่และเชียงราย นาทีนี้กำลัง "ป่วยหนัก" จากการปนเปื้อนของสารพิษ โดยเฉพาะสารหนูและโลหะหนักอื่นๆ ที่มีระดับเกินค่ามาตรฐาน สถานการณ์นี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อวิถีชีวิตของประชาชนริมฝั่งแม่น้ำ จากเดิมที่เคยใช้น้ำในการอุปโภคบริโภค ทำการเกษตร หาปลา และใช้ในภาคการท่องเที่ยว กลับต้องหยุดชะงักลงอย่างสิ้นเชิง

 

อะไรคือผลกระทบที่เกิดขึ้น...เสียงจากตัวเเทนชาวบ้านและผู้เกี่ยวข้อง

 

เศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ธุรกิจแพริมน้ำและกิจกรรมท่องเที่ยวทางน้ำซบเซาอย่างหนัก นักท่องเที่ยวไม่กล้าลงเล่นน้ำหรือใช้บริการ สินค้าเกษตรจากพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ เช่น กระเทียมจากตำบลท่าตอน ไม่มีใครกล้าซื้อเพราะกังวลเรื่องสารตกค้าง 



วิถีชีวิตและสุขภาพ ประชาชนไม่สามารถหาปลาในแม่น้ำเพื่อบริโภคหรือขายได้เหมือนในอดีต เด็กๆ ถูกห้ามลงเล่นน้ำ และมีความกังวลว่าน้ำประปาที่ใช้น้ำดิบจากแม่น้ำกกและแม่น้ำสายจะไม่ปลอดภัยสำหรับการอุปโภคบริโภค เริ่มมีรายงานผู้ป่วยโรคผิวหนังที่อาจเกี่ยวข้องกับสารหนู 




ความไม่มั่นคงทางข้อมูล ประชาชนยังขาดข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับระดับการปนเปื้อนและแนวทางการปฏิบัติตน ทำให้เกิดความสับสนและกังวล แม้จะมีการเก็บตัวอย่างน้ำและปลาไปตรวจสอบโดยหน่วยงานภาครัฐ แต่ผลการตรวจสอบอย่างเป็นทางการยังไม่ถูกเปิดเผยออกมาอย่างชัดเจน

 



เสียงสะท้อนและข้อเสนอแนะจากผู้เกี่ยวข้อง

 

พี่ตุ้ยคุณจิรภัทร กันธิยาใจ ในฐานะผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านร่มไทย หมู่ที่ 14 .ท่าตอน .แม่อาย .เชียงใหม่ สะท้อนความเดือดร้อนของชาวบ้านว่าแม่น้ำกกที่เคยใสสะอาดจนลงเล่นน้ำได้ในเดือนกุมภาพันธ์ กลับขุ่นข้นจนไม่มีใครกล้าลงไปใกล้ ชาวบ้านที่ลงทุนไปกับการทำแพจำนวนมากต้องประสบภาวะขาดทุน เศรษฐกิจในพื้นที่พังทลาย สินค้าเกษตร ผลผลิตทางการเกษตรอย่างกระเทียม ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญของตำบลท่าตอนก็ไม่มีใครกล้าซื้อเพราะกังวลเรื่องสารตกค้าง และเรียกร้องให้ผู้มีอำนาจเข้ามาช่วยเหลือ

 

ดร.สืบสกุล กิจนุกร อาจารย์สำนักวิชานวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ชี้ว่าต้นเหตุของปัญหามาจากการเปิดหน้าดินทำเหมืองในประเทศเพื่อนบ้าน และเสนอให้มีการตรวจสอบสารโลหะหนักในแม่น้ำกก แม่น้ำสาย แม่น้ำรวก และแม่น้ำโขงอย่างต่อเนื่อง โดยการจัดตั้งศูนย์ตรวจสอบสารโลหะหนักที่จังหวัดเชียงราย นอกจากนี้ยังเสนอให้รัฐบาลเร่งเจรจาหลายฝ่าย ทั้งรัฐบาลเมียนมา กลุ่มชาติพันธุ์ และรัฐบาลจีน ที่มีบริษัทเอกชนเข้าไปรับสัมปทานเหมือง ทางออกที่เป็นไปได้คือการปรับปรุงเหมืองให้ได้มาตรฐาน หรือปิดเหมืองอย่างถาวรและฟื้นฟูระบบนิเวศ

คุณเพ็ญโฉม แซ่ตั้ง ผู้อำนวยการมูลนิธิบูรณะนิเวศ เน้นย้ำความสำคัญของการเปิดเผยข้อมูลข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการปนเปื้อน เพื่อให้สามารถประเมินสถานการณ์และวางแผนรับมือได้อย่างถูกต้อง แหล่งกำเนิดมลพิษอยู่ในประเทศเมียนมา ซึ่งการแก้ไขปัญหานอกเหนือจากกฎหมายไทย จำเป็นต้องอาศัยกลไกการเจรจาระหว่างประเทศ โดยอาจต้องมี 3 ฝ่ายคือ ไทย เมียนมา และจีน และเสนอให้มีการประเมินความเสียหายทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นเพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการเจรจา

ดร.พูนศักดิ์ จันทร์จำปี ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การที่ดินทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร มองว่ารัฐบาลยังดำเนินการแก้ไขปัญหาล่าช้าและ "สอบตก" ในเรื่องนี้ เนื่องจากปัญหาการปนเปื้อนไม่ใช่เรื่องใหม่ และควรมีการดำเนินการตรวจสอบและวางมาตรการตั้งแต่เกิดเหตุน้ำท่วมใหญ่ที่แม่สาย เห็นด้วยกับการเจรจาหลายฝ่าย แต่ยอมรับว่าเป็นเรื่องยากเนื่องจากความขัดแย้งในพื้นที่ เสนอให้มีการติดตั้งระบบติดตามตรวจสอบคุณภาพน้ำแบบออนไลน์ในจุดอ่อนไหวบริเวณชายแดน และเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาระยะยาว 3 ระดับ คือ การมีข้อตกลงระหว่างประเทศ (International Treaty) การมีกรอบความร่วมมือระดับลุ่มน้ำ และการออกกฎหมายภายในประเทศที่สอดคล้องกับข้อตกลงระหว่างประเทศ โดยอาจต้องอาศัยบทบาทขององค์การสหประชาชาติ (UN) เข้ามาช่วยให้ความรู้และกำหนดมาตรฐานการทำเหมือง

ขณะที่คุณศยามล ไกรยูรวงศ์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ชี้ว่าพื้นที่เชียงรายเป็นที่ราบลุ่มน้ำท่วมถึง และการทำเหมืองแบบเปิดหน้าดินในพื้นที่ต้นน้ำที่เป็นภูเขาสูงในเมียนมา ทำให้เกิดปัญหาดินโคลนถล่มและสารพิษปนเปื้อน เสนอให้ใช้กลไกของคณะกรรมการลุ่มน้ำโขงในการจัดการปัญหาตาม ...ทรัพยากรน้ำ และหากเป็นการเจรจาระดับประเทศ ควรใช้เวทีคณะกรรมการลุ่มน้ำแม่โขง-ล้านช้าง ซึ่งมีจีนเป็นสมาชิกอยู่ด้วย รวมถึงการผลักดันเรื่องสิทธิในสิ่งแวดล้อมผ่านปฏิญญาสิ่งแวดล้อมในอาเซียน

 

หลายฝ่ายได้เสนอแนวทางแก้ไขที่สำคัญไว้ดังนี้

 

การเข้าถึงข้อมูลและการมีส่วนร่วมของประชาชน ดร.สืบสกุล ย้ำว่าสิ่งสำคัญอันดับแรกคือการให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร โดยเฉพาะข้อมูลการตรวจสารโลหะหนัก หน่วยงานราชการมักจะผูกขาดการตรวจสอบและการสื่อสารข้อมูล ทำให้เกิดความล่าช้า ควรส่งเสริมให้ประชาชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถเข้าถึงชุดตรวจคุณภาพน้ำได้ด้วยตนเอง การทำงานร่วมกันระหว่างสถาบันการศึกษาในพื้นที่กับกรมควบคุมมลพิษจะช่วยให้การตรวจสอบรวดเร็วและต่อเนื่องยิ่งขึ้น 





การจัดตั้งศูนย์ตรวจสอบคุณภาพน้ำถาวร  ดร.สืบสกุล เสนอให้รัฐบาลจัดตั้งศูนย์ตรวจสอบคุณภาพน้ำประจำจังหวัดเชียงราย เพื่อติดตามตรวจสอบในระยะยาว เนื่องจากโลหะหนักสามารถสะสมอยู่ได้นานหลายปี

การเจรจาระหว่างประเทศ การเจรจาระหว่างประเทศเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากปัญหาเกิดจากเหมืองในเมียนมา ซึ่งมีบริษัทจีนเข้าไปสัมปทาน ดังนั้นอย่างน้อยต้องมี 3 ประเทศร่วมเจรจา ได้แก่ ไทย เมียนมา และจีน กลไกคณะกรรมการลุ่มน้ำโขงเหนือ ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายเป็นประธาน ควรเข้ามาจัดการปัญหาในเบื้องต้น นอกจากนี้ คณะกรรมการแม่น้ำโขงล้านช้าง ซึ่งจีนมีส่วนร่วมก็ควรมีบทบาทในการแก้ไขปัญหา 





มาตรการรับมือและการจัดการความเสี่ยง รัฐบาลควรมีมาตรการเตรียมพร้อมและจัดการความเสี่ยงหากเกิดสถานการณ์มลพิษรุนแรง เช่น การประกาศแจ้งประชาชน และมาตรการ 1-2-3-4 เพื่อรับมือ ควรมีระบบมอนิเตอร์ออนไลน์บริเวณชายแดนที่เป็นจุดอ่อนไหว เพื่อเฝ้าระวังคุณภาพน้ำตลอดเวลา 



การปรับปรุงหรือปิดเหมือง มีข้อเสนอสองทางเลือกหลักคือการปรับปรุงเหมืองในประเทศเพื่อนบ้านให้มีมาตรฐานสิ่งแวดล้อม หรือปิดเหมืองอย่างถาวรและฟื้นฟูต้นน้ำ อย่างไรก็ตาม การปรับปรุงเหมืองอาจไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะไม่มีสารโลหะหนักปนเปื้อนอีก ขณะที่การปิดเหมืองถาวร แม้จะเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับชาวเชียงราย แต่ก็เป็นเรื่องที่ทำได้ยากในทางปฏิบัติ 




บทบาทขององค์กรระหว่างประเทศ ดร.พูนศักดิ์ มองว่า UN (UNDP) อาจเข้ามาช่วยได้ โดยให้ความรู้และแนวทางปฏิบัติในการทำเหมืองที่ถูกต้องตามหลักสิ่งแวดล้อม

การทำงานร่วมกันของทุกภาคส่วน ปัญหานี้เป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องการความร่วมมือจากทุกฝ่าย ทั้งภาครัฐ ภาคประชาชน สถาบันการศึกษา และสื่อมวลชน เพื่อกระตุ้นให้รัฐบาลตื่นตัวและแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง

 

พี่ตุ้ย จิรภัทร ชาวบ้านต.ท่าตอน อ.แม่อาย ได้กล่าวทิ้งท้ายด้วยความรู้สึกที่แม่น้ำกกที่เคยเป็นชีวิตของชาวบ้าน ไม่สามารถกลับไปใช้ได้เหมือนเดิม การแก้ไขปัญหานี้เป็นโจทย์ที่ยากและซับซ้อน แต่จำเป็นต้องอาศัยบทบาทนำของรัฐบาลไทยในการแก้ไขปัญหาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เพื่อให้แม่น้ำกกกลับมามีชีวิตอีกครั้ง

 

นี่คือส่วนหนึ่งของการเเลกเปลี่ยนกัน ติดตามเนื้อหาแบบเต็มได้ใน รายการฟังเสียงประเทศไทย ตอน  เราจะอยู่กันแบบนี้ใช่ไหม ? สารพิษข้ามแดน แม่น้ำกก - แม่น้ำสายวัน เสาร์ 24 พฤษภาคม 2568 เวลา 17.30 - 18.00 น.

 

ขอบคุณภาพจาก ศูนย์ข่าวไทยพีบีเอสภาคเหนือ โกวิทย์ บุญธรรม

 

สิ่งแวดล้อม
ชุมชน-สังคม
บทความ
ภาคเหนือ
แม่น้ำกก
เชียงราย
เชียงใหม่
สายน้ำติดเชื้อ
แชร์บทความ

ฟังเสียงประเทศไทย

ฟังเสียงประเทศไทย

บทความแนะนำ