ค่ายเพลงเสริมความแข็งแรงเรื่องการหารายได้

จุดเริ่มต้นของค่ายเพลงกับความมุ่งมั่นจากจุดเริ่มต้นที่มีแค่ศิลปินอย่างโต้ง Save Da Last Piece และนายทุน เต้ง - พิชัย จิราธิวัฒน์ รวมกับพนักงานแล้วยังไม่ถึงสิบคนเท่านั้น หากปัจจุบันมีนักร้องนักดนตรีที่อยู่ในสัญญาถึง 25 ศิลปิน นี่คือส่วนหนึ่งของการเปิดตัวฉลองครบรอบ 20 ปี ค่ายเพลงดัง SPICYDISC ซึ่งประกาศว่ากำลังจะมีแผนจัดคอนเสิร์ตและกิจกรรมพิเศษที่จะค่อย ๆ เปิดตัวมาตลอดทั้งปีนี้ โดยบรรดาศิลปินและผู้บริหารค่ายก็ย้ำเป้าหมายสำคัญว่าอยากเป็นพื้นที่ที่ให้อิสระ ให้ศิลปินได้แสดงฝีมือกันอย่างเต็มที่กลยุทธ์สร้างความแข็งแรงด้านการหารายได้อีกหนึ่งเคล็ดลับที่ทำให้ ค่ายเพลงสามารถยืนระยะมาอย่างยาวนานถึง 20 ปี ไม่ใช่แค่เรื่องของการทำเพลงฮิตเพียงอย่างเดียวเท่านั้น หากต้องประกอบไปด้วยช่องทางหารายได้หลายๆ ทาง ไม่ว่าจะเป็นการจัดคอนเสิร์ต เทศกาลดนตรี หรือแม้แต่การจัดตลาดนัดสินค้างานฝีมือ รวมไปถึงการเปิดบริษัทรับผลิตเพลงโฆษณา - การตลาด ซึ่งคือส่วนสำคัญไม่น้อยในฐานะรายได้ที่ช่วยหล่อเลี้ยงศิลปินและคนทำงานเบื้องหลังตลาดเพลงไทยในปัจจุบันรายงานจากสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ หรือ CEA ระบุว่าอุตสาหกรรมเพลงไทย หรือ T-POP มีมูลค่าตลาดอยู่ราว 3,000 - 3,500 ล้านบาท หากกว่าร้อยละ 92 มาจากรายได้การสตรีมมิ่งในแพลตฟอร์มต่างๆ และมีเพียงร้อยละ 8 เท่านั้นที่มาจากการขายสินค้าที่ระลึกของศิลปิน อย่างไรก็ตาม มีคนในวงการวิจารณ์ว่านี่อาจเป็นตัวเลขที่ไม่ถูกต้อง เพราะอุตสาหกรรมเพลงไทยยุคปัจจุบันเกี่ยวพันอยู่กับหลายธุรกิจ ทั้งโชว์บิสซิเนสและการโฆษณาประชาสัมพันธ์