วันนี้ (15 ก.ค.2568) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง แถลงข่าวหลังการเข้าจับกุมสีกากอล์ฟ โดยสืบเนื่องมาจากวันที่ 18 มิ.ย.2568 ว่ามีลักษณะการกรรโชกทรัพย์พระเทพวชิรปาโมกข์ หรือ "เจ้าคุณอาชว์" พระราชาคณะชั้นเทพและอดีตเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ โดยได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมทำการสืบสวน มาทราบภายหลังว่าอดีตเจ้าอาวาสยินยอมเข้าพบสำนักพุทธฯ ก่อนหนีหายไป สปป.ลาว ก่อนข้ามกลับมาสึกที่ จ.หนองคาย
ส่วนผู้หญิงที่ทำการกรรโชกทรัพย์พบว่ามีความสัมพันธ์กับเจ้าคุณอาชว์เมื่อช่วงเดือน พ.ค.67 ก่อนจะห่างกันไป แต่ปรากฏว่าฝ่ายหญิงได้แจ้งว่ามีลูกที่เกิดกับเจ้าคุณอาวช์ และขอค่าเลี้ยงดู รวมกว่า 7 ล้านบาท 20 ปี

โดยจากการสืบสวนขยายผลเราก็มองว่าผู้หญิงที่ทำการกรรโชกทรัพย์ จากการตรวจสอบแล้วเบื้องต้นเขาเรียกรับทรัพย์สินจากเจ้าคุณอาชว์หลังมีความสัมพันธ์กันตั้งแต่เดือน พ.ค.2567 ก่อนจะห่างกันไป แต่ปรากฏว่าผู้หญิงกลับอ้างว่ามีลูก ขอค่าเลี้ยงดู 7,200,000 บาท เจ้าคุณอาชว์จึงตีตัวออกห่าง ซึ่งเราก็มาทราบอีกว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ปกติ
จึงได้ทำการสืบขยายผลเส้นทางการเงินต่อ ก่อนพบว่ามีเส้นทางการเงินเกี่ยวข้องกับพระหลายวัดมากมาย จึงได้เข้าตรวจค้นบ้านของสีกากอล์ฟ เพื่อตรวจยึดเครื่องมือสื่อสาร ทั้งโทรศัพท์ , โน้ตบุ๊ก และเอกสารต่างๆ ก่อนทำการตรวจสอบข้อมูลย้อนหลัง จนดูดข้อมูลออกมาได้สำเร็จ ว่ามีพระเข้ามาเกี่ยวข้องจำนวนมาก พบภาพและคลิปอีกจำนวนมาก ซึ่งเขาทำเพื่อกรรโชกทรัพย์หรือแบล็กเมล์ สิ่งที่เราต้องดำเนินการ ก็คือผู้หญิงคนนี้เป็นบุคคลอันตราย ที่เราต้องจับกุมให้ได้โดยเร็ว จนเราได้เร่งรัดที่สุดจนมาถึงวันนี้ที่มีการจับกุมสีกากอล์ฟได้
ทั้งนี้พระที่มีความผิดทางวินัยได้ทยอยลาสิกขาไปแล้ว 9 คน จากทั้งหมด 13 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่ได้เชื่อคำให้การทั้งหมด จะทำการสอบสวนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจำนวนไม่มีลดลง มีแต่เพิ่มขึ้น
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยังระบุว่าไม่มีเจตนาที่จะทำลายสถาบันพระพุทธศาสนา แต่ต้องหยุดยั้งกระบวนการก่อนที่จะทำให้เกิดความเสียหาย พร้อมยืนยันว่าจะดำเนินการกับทุกคนที่เข้ามาเกี่ยวข้อง หรือปฏิบัติไม่ถูกต้องตามพระธรรมวินัย จะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาโดยไม่มีการละเว้น
พระเสพเมถุนรวม 9 รูป เหลือยังไม่สึกอีก 1
ขณะที่ พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. กล่าวว่า ก่อนหน้านี้มีข้อมูลว่าสีกากอล์ฟเคยก่อเหตุในพื้นที่ จ.พิจิตร ตำรวจจึงนำข้อมูลมาเปรียบเทียบและเห็นว่าสีกากอล์ฟมีแผนประทุษกรรมในลักษณะนี้มาดั่งเดิม ตำรวจจึงกลับมาดูข้อมูลทางการเงินและพบว่ามีพระสงฆ์จำนวนมากโอนเงินให้กับสีกากอล์ฟ หลังจากนั้นจึงแกะข้อมูลมาเรื่อยๆ และเข้าค้นบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งเหตุแห่งการเข้าค้นเพราะสีกากอล์ฟได้รับเงินส่วนหนึ่งมาจากวัดตรีทศเทพ อย่างไรก็ตามได้รับความร่วมมือจากสีกากอล์ฟที่ให้ข้อมูลตามที่ปรากฏเป็นข่าว
ทั้งนี้ มีพระจำนวนมากที่เข้ามาเกี่ยวข้อง โดยได้แยกกลุ่มพระเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 เป็นกลุ่มที่สีกากอล์ฟยอมรับว่าเสพเมถุนด้วยกันรวม 9 รูป โดยจำนวนนี้ลาสิกขาแล้วแต่ละรูปคงเหลืออีก 1 รูปคือเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก , กลุ่มที่ 2 เป็นกลุ่มที่มีความสัมพันธ์ในเชิงชู้สาว ในลักษณะที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง ซึ่งในพระธรรมวินัยถือว่าร้ายแรง ซึ่งกลุ่มนี้มีอยู่ 3 รูป ส่วนกลุ่มที่ 3 เป็นกลุ่มพระที่ประพฤติตนไม่เหมาะสม ไม่สมควร
ตำรวจได้ไล่ลำดับความสำคัญทั้ง 3 กลุ่ม โดยกลุ่มแรกที่จำเป็นจะต้องนำเข้าสู่กระบวนการสอบสวนคือ กลุ่มที่มีเส้นเงินและเสพเมถุน โดยได้เข้าสอบสวนพระและนำข้อมูลในบางเรื่องที่สามารถดูได้ให้พระรูปนั้นๆ ดู เมื่อพระเหล่านั้นเห็นพยานหลักฐานต่างๆ ก็สมัครใจลาสิกขาตามที่ปรากฏเป็นข่าว
ล่าสุดวันนี้ (15 ก.ค.) ตำรวจได้นำพยานหลักฐานเท่าที่ปรากฏเห็นชัดคือ วัดชูจิตฯ ซึ่งอดีตเจ้าอาวาสนำเงินของวัดเข้าบัญชีตัวเองแล้วโอนให้กับสีกากอล์ฟจำนวนหนึ่ง ตำรวจจึงนำข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ไปขอหมายศาลอาญาทุจริตกลางและดำเนินการจับกุมในข้อหา 3 ข้อหา ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน
สำหรับการตรวจสอบเส้นทางการเงินของสีกากอล์ฟ พบมีเงินหมุนเวียน 385 ล้านบาท ในรอบ 3 ปี แต่ขณะนี้ถอนออกไปจากบัญชีเกือบทั้งหมด คงเหลืออยู่ประมาณ 8,000 บาท โดยพบว่าเจ้าตัวมีการนำเงินบางส่วนไปเล่นพนันออนไลน์ ซึ่งส่วนนี้เป็นหน้าที่ของกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บช.สอท. กำลังดำเนินการ โดยเบื้องต้นพบว่าสีกากอล์ฟนำเงินไปเล่นพนันสูงสุดถึง 500,000 บาท

ป.ป.ท.เชื่อมีผู้เสียหายเพิ่มขึ้น
นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. กล่าวว่า พระสงฆ์เป็นที่พึ่งทางจิตใจของประชาชนมาอย่างยาวนาน แต่การที่มีพระบางรูปประพฤติผิด ไม่ควรทำให้ประชาชนเสื่อมศรัทธาในพระพุทธศาสนา
สิ่งสำคัญในเวลานี้คือการชำระสะสางปัญหาที่เกิดขึ้น และเป็นโอกาสอันเหมาะสมในการทบทวน ปรับปรุง และพัฒนากฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สามารถดูแลศาสนาและสังคมได้อย่างยั่งยืน การศึกษาความผิดพลาด เพื่อนำมาแก้ไขในปัจจุบันและวางแนวทางในอนาคต เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะแบบนี้อีก
ยอมรับว่าการกระทำผิดที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ส่งผลกระทบต่อความมั่นคง เพราะศาสนาเป็นหนึ่งในเสาหลักสำคัญของประเทศ และการกระทำของบุคคลบางกลุ่มได้สร้างความสะเทือนต่อความมั่นคงทางศรัทธา
นายภูมิวิศาล ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า จากกรณีที่เกิดขึ้น เชื่อว่ายังมีผู้เสียหายเพิ่มเติม และอยากเชิญชวนผู้ที่คิดว่าตนเองอาจเกี่ยวข้องหรือได้รับผลกระทบจากการกระทำของสีกากอล์ฟ ให้เข้ามาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ ไม่ว่าจะเดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หรือประสานผ่านสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
ในฐานะคณะทำงานที่เกี่ยวข้อง ป.ป.ท. ยังไม่เชื่อว่าจะมีผู้เสียหายเพียงเท่าที่ปรากฏในปัจจุบัน และมีความเป็นไปได้สูงว่าจะยังมีอีกจำนวนหนึ่งที่ยังไม่ได้ออกมาแสดงตัว
จึงขอให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบเข้ามาให้ข้อมูล เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปด้วยความรวดเร็ว โปร่งใส และเป็นธรรมที่สุด
สิ่งสำคัญที่สุดในเวลานี้คือการให้ความจริงได้ปรากฏอย่างครบถ้วน และเปิดโอกาสให้ผู้เสียหายทุกคนได้รับความยุติธรรมอย่างเท่าเทียม
เปิดแผนประทุษกรรม "สีกากอล์ฟ"
ด้าน พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา อดีต ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนา จ.พิจิตร เข้าร้องทุกข์ดำเนินคดีกับสีกากอล์ฟ ฐานฉ้อโกง และในวันเดียวกันก็มีอดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธร (ลาสิกขาบทแล้ว) เข้าร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม ให้ดำเนินคดีกับสีกากอล์ฟ ฐานรีดเอาทรัพย์และทำให้เสื่อมเสียเสรีภาพ
โดยเหตุการณ์เริ่มตั้งแต่ ปี 2561 อดีต ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนา จ.พิจิตร มีเรื่องราวร้องเรียน เกี่ยวกับเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร เสพเมถุนกับสีกากอล์ฟและการประพฤติมิชอบเรื่องเงินตั้งแต่ปี 2559 แล้วเรื่องยังไม่มีการดำเนินการให้เรียบร้อย ทางอดีต ผอ.สำนักพุทธจังหวัดพิจิตร ก็ได้ทำหนังสือขอตรวจสอบไปยังเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร แต่ปรากฏว่า เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร ได้ทำหนังสือร้องเรียนกลับไป จนนายสมศักดิ์ ถูกย้ายไปที่อื่น จนเกษียณอายุราชการปี 2564
จากนั้น อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ จ.พิจิตร ก็มีการสืบสวนต่อปี และในปี 2565 เรื่องเกี่ยวข้องกับการเสพเมถุนประพฤติมิชอบ และการทุจริตเรื่องเงิน เพราะสำนักงานพระพุทธศาสนายังไม่ได้ดำเนินการ และพยายามจะหาข้อมูลจากสีกากอล์ฟจนได้เบอร์สีกากอล์ฟมา และสีกากอล์ฟยืนยันว่ามีข้อมูลมีหลักฐาน มีคลิป ที่เกี่ยวพันกันจริงกับเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร แต่ตอนนั้นสีกากอล์ฟไม่ยอมให้หลักฐาน
จนปี 2566 สีกากอล์ฟ ก็ติดต่อกลับไปยัง อดีต ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนา จ.พิจิตร คนนี้ แล้วอ้างว่าป่วยหนัก ต้องผ่าตัด และขอยืมเงิน 400,000 บาท มาใช้ แต่ในแชตไลน์มีการพูดคุยกันในลักษณะ ถ้าไม่ให้เงินก็ไม่ให้ข้อมูล ซึ่ง อดีต ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนา จ.พิจิตร ก็อยากได้ข้อมูลที่จะเอามาดำเนินการ และเห็นว่าเป็นข้อมูลสำคัญจึงโอนเงินให้ 400,000 บาท แต่วันรุ่งขึ้นสีกากอล์ฟก็ทักไลน์มาขออีก 50,000 บาท โดยอ้างว่า เงินไม่พอเพราะถูกบัตรเครดิตตัดไปทำให้ไม่พอจ่ายค่าผ่าตัด แต่ อดีต ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนา จ.พิจิตร ไม่ได้ให้เงินไป แล้วสีกากอล์ฟก็หายไป
จนมาทราบภายหลังว่า สีกากอล์ฟ ไม่ได้ผ่าตัดจริงและไม่ได้มีข้อมูลที่จะให้จริง จึงถือเป็นเรื่องของการฉ้อโกง
ทั้งนี้จากกรณี อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ มาร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับสีกากอล์ฟ ฐานรีดเอาทรัพย์ และทำให้เสื่อมเสียเสรีภาพ เมื่อวันที่ 13 ก.ค.2568
โดยพฤติการณ์ คือ สีกากอล์ฟ พยายามจะเข้าหาเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ ผ่านทางผู้ช่วยเจ้าอาวาส จนติดต่อพูดคุยกันทางไลน์ และมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวได้ระยะหนึ่ง ก็ทักมาขอเงิน 15,000 บาท อ้างว่า จะเอาไปมัดจำเซรามิกที่นำเข้าจากต่างประเทศ และเมื่ออดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสไม่มีให้ สีกากอล์ฟ ก็ข่มขู่อ้างว่าจะเปิดเผยเรื่องที่มีการเสพเมถุนกัน จะทำให้เสียหายถูกจับสึกและลงโทษทางวินัย ทำให้จำเป็นที่อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสต้องโอนไปให้ 8,000 บาท มีหลักฐานเกี่ยวกับเรื่องการเงินชัดเจนและยังพบพฤติการณ์ ที่บังคับให้อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ ทำหนังสือร้องเรียนเจ้าคุณอาชว์ ด้วย จึงถือเป็นการข่มขืนใจให้ผู้อื่นกระทำการใดไม่กระทำการใด กระทบต่อเสรีภาพ
ทำให้ พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม ได้รวบรวมพยานหลักฐาน จนขอศาลอาญา ออกหมายจับสีกากอล์ฟ ฐาน รีดเอาทรัพย์ และ ทำให้ผู้อื่นเสื่อมเสียเสรีภาพ โดยหลังจากนี้ พนักงานสอบสวน บก.ป. จะแจ้งข้อกล่าวหา และสอบสวนดำเนินคดี และนำส่งศาลไปตามขั้นตอน
ทั้งนี้ขอประชาสัมพันธ์ด้วยว่า หากมีผู้ถูกหลอกลวงจากสีกากอล์ฟก็สามารถที่จะมาร้องที่กองบังคับการปราบปรามได้
อ่านข่าว :
รวบแล้ว "สีกากอล์ฟ" ตามหมายจับ 3 ข้อหาหนัก
แจ้ง 2 ข้อหา "อดีตเจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ" โอนเงินวัด 3.8 แสนให้สีกา
“พระ จ.พิษณุโลก” ทำพิธีสามีจิกรรม แต่ “เจ้าคณะจังหวัด” ยังหายตัว