สนช.ลงมติถอดถอน
นายวิชา มหาคุณ กรรมการคณะกรรมการปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะผู้กล่าวหาแถลงเน้นย้ำถึงพฤติการณ์การกระทำผิดที่มีการวางแผนอย่างเป็นขั้นตอน พร้อมย้ำด้วยว่า ป.ป.ช.พิจารณาคดีตามพยานหลักฐานโดยปราศจากอคติ ขณะที่นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะผู้ถูกกล่าวหาตั้งข้อสังเกตว่ามีความพยายามในการใช้การลงมติถอดถอนหรือไม่ถอดถอนของ สนช. เพื่อให้มีผลเกี่ยวโยงไปถึงคดีอาญาที่กำลังดำเนินการอยู่
สำหรับการลงมติของ สนช.ในวันนี้ จะพิจารณาลงมติถอดถอนหรือไม่ถอดถอนนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายภูมิ สาระผล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายมนัส สร้อยพลอย อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ด้วยวิธีการลงคะแนนในคูหา
ส่วนคะแนนเสียงตามข้อบังคับการประชุม ผู้ถูกกล่าวหาจะถูกถอดถอนหากมีการลงมติ 3 ใน 5 ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดหรือ 132 เสียง ซึ่งมีการคาดการณ์ว่ากรณีของนายบุญทรง และนายภูมิน่าจะถูกลงมติถอดถอน เนื่องจากการแถลงปิดคดีเมื่อวานนี้ไม่สามารถชี้แจงได้อย่างชัดเจนว่าการระบายข้าวในขณะนั้นเป็นการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐจริงหรือไม่ ซึ่งคาดว่าผลการลงมติน่าจะใกล้เคียงกับกณีการถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีครั้งที่ผ่านมา คือ 190 เสียง
ส่วนกรณีนายมนัสมีความเป็นไปได้ว่าอาจไม่ถูกลงมติถอดถอน เนื่องจากเป็นเพียงข้าราชการระดับสูงที่ต้องปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาล และหากเทียบเคียงกับกรณี ป.ป.ช.ไม่ดำเนินการถอดถอนคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา อดีตผู้ว่าการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ออกจากตำแหน่ง ก็มีความเป็นไปได้ว่าอาจใช้เหตุผลเดียวกันคือทั้งคู่ได้พ้นจากตำแหน่งไปแล้ว