ฟีฟ่าเดย์ มีผลต่ออันดับโลกของทีมชาติไทย
หลายคนอาจไม่ทราบว่า การเล่นนัดอุ่นเครื่องมีความสำคัญ เพราะเมื่ออันดับโลกดีขึ้น นักเตะจะได้รับการการันตีในการย้ายไปเล่นยังลีกต่างประเทศด้วยโดยเฉพาะในยุโรป หรือในอังกฤษ เพราะเขาจะดูจากอันดับของทีมชาติประกอบการตัดสินใจ การจัดอันดับโลกระบบใหม่เริ่มใช้มาตั้งแต่ปี 2006 ซึ่งฟีฟ่าจะคำนวนคะแนนจากการแข่งขันในทัวร์นาเมนท์ต่างๆตามลำดับความสำคัญ แต่ต้องเป็นเกมการแข่งขันที่ฟีฟ่าให้การรับรอง รวมถึงเกมส์อุ่นเครื่องของทีมชาติในวันที่ฟีฟ่ากำหนดไว้ในปฏิทินให้เป็นวันฟีฟ่าเดย์ซึ่งในแต่ละปีจะมีทั้งหมด 7 วัน
ผลการแข่งขันจะถูกนำมารวมกับคะแนนแมตช์การแข่งขัน โดยมีปัจจัยอื่นประกอบเช่นคะแนนของทีมต่างๆ และคะแนนในภูมิภาคหรือในแต่ละทวีปที่ถูกกำหนดไว้แล้ว เช่นหากแข่งกับทีมที่อันดับโลกต่ำกว่ามากคะแนนที่นำมาคูณก็น้อยลงไป แต่หากแข่งกบทีมที่มีอันดับโลกสูงกว่าจะได้คะแนนมากขึ้น
ในทัวร์นาเมนท์ที่ฟีฟ่าให้การรับรองหากชนะจะได้ 3 คะแนน และถ้าชนะในการดวลจุดโทษได้ 2 คะแนน แต่ถ้าเสมอได้ 1 คะแนน และหากแพ้ในการดวลจุดโทษจะได้ 1 คะแนนเท่ากัน หลังจากนั้นจะมาดูคะแนนความสำคัญของรายการที่ลงเล่น หากเป็นเกมอุ่นเครื่องตามปกติได้คะแนนเพิ่มคูณด้วย 1 เท่า ส่วนรายการที่จะได้คะแนนมากที่สุด คือการเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลก ซึ่งจะได้คะแนนคูณ 4 เท่า ยิ่งเตะในเกมส์ที่ฟีฟ่ากำหนดมากก็มีคะแนนเพิ่มมากขึ้น
ตัวอย่างการคิดอันดับโลกให้คุณผู้ชมได้เข้าใจง่ายขึ้น ในนัดอุ่นเครื่องที่ทีมชาติไทยจะพบกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตในวันที่ 29 มกราคม ซึ่งเป็นวันฟีฟ่าเดย์ หากทีมชาติไทยชนะสหรัฐอาหรับเอมิเรตด้วยสกอร์เท่าไหร่ก็ตาม ทีมไทยจะมีคะแนนจากนัดนี้ 268.32 คะแนน ก่อนจะนำไปคิดค่าเฉลี่ยเพื่อจัดอันดับโลกอีกครั้ง โดยผลชนะไทยจะได้ 3 แต้ม คูณกับคะแนนของเกมส์อุ่นเครื่องที่มี 1 คะแนน คูณกับคะแนนของทีมยูเออีที่มีคะแนน 104 แต้ม และคูณกับคะแนนความสำคัญของทวีป 0.86 คะแนน ทำให้เห็นว่าการอุ่นเครื่องทุกนัดตามวันที่ฟีฟ่ากำหนด มีผลอย่างยิ่งต่ออันดับโลกของทีมชาติไทย ความจริงแล้วไทยเคยขึ้นไปสูงสุดถึงอันดับ 42 ของโลกในยุคที่ปีเตอร์ วิธ คุมทีมในปี 2541