เส้นทางมวยไทยของ
สมรักษ์ ขึ้นชกมวยไทยครั้งแรกขณะอายุได้ 7 ขวบกับค่ายณรงค์ยิม ก่อนจะย้ายไปอยู่ค่ายศิษย์อรัญ โดยขึ้นชกมวยไทยในชื่อ พิมพ์อรัญเล็ก ศิษย์อรัญ เมื่อเจนสังเวียนมากขึ้น จึงขึ้นชกเวทีมาตรฐานทั้งราชดำเนิน และลุมพินี
โดยมีโอกาสขึ้นชกกับนักมวยชื่อดังยุคนั้นหลายคน เช่น ชาติชายน้อย ชาวไร่อ้อย, ช้างน้อย ศรีมงคล และบัวขาว ป.พิสิษฐ์เชษฐ์ จนปี 2538 จึงขึ้นชกมวยไทยครั้งสุดท้าย ชนะน็อค สุวิทย์เล็ก ส.สกาวรัตน์ ยก 4 ค่าตัวสูงสุดอยู่ที่ราว 180,000 บาท
หลังจากนั้น จึงหันมาเอาดีด้านมวยสากลสมัครเล่น และเข้าสู่ทีมชาติครั้งแรก ในโอลิมปิกปี 2535 ก่อนจะสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกีฬาไทยคนแรกที่คว้าเหรียญทองโอลิมปิกได้สำเร็จในปี 2539 ทำให้กลายเป็นซุปเปอร์สตาร์ไปในทันที ก่อนที่จะเลิกชกในปี 2547 เมื่อทำผลงานได้ไม่ดีในโอลิมปิกอีก 2 ครั้งต่อมา
อย่างไรก็ตาม เมื่อปีที่แล้ว สมรักษ์สร้างความฮือฮาอีกครั้ง เมื่อหวนกลับมาขึ้นชกมวยไทย พบกับ ยอดวันเผด็จ สุวรรณวิจิตร อดีตยอดนักมวยไทย ในนัดพิเศษที่เวทีราชดำเนิน ซึ่งสมรักษ์เป็นฝ่ายชนะไปในยกที่ 3 และเก็บเงินค่าผ่านประตูได้เกือบ 3,000,000 บาท ปลุกกระแสมวยไทยที่ซบเซาให้กลับมาคึกคักได้อีกครั้งหนึ่ง
และกับนัดล่าสุดเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม ปีที่แล้ว สมรักษ์ กลับมาชกมวยไทยเป็นนัดที่ 2 แต่แพ้คะแนนจอมโหด หมอเบสกมลา ในศึกวันสถาปนาเวทีมวยลุมพินี
แท็กที่เกี่ยวข้อง: