แซกโซโฟนในโลกมืด
มาย ฮาร์ท วิล โก ออนด์ เพลงที่ยังคงจับใจ ยงสิทธิ์ ยงค์กมล ทำให้เด็กชายวัย 5 ขวบ ที่มีเพียงโลกมืด ได้รู้จักกับโลกของดนตรี แม้เวลาจะผ่านไปนานเกือบ 20 ปี แต่เขายังคงเล่นได้อย่างไพเราะ ด้วยเพราะไม่สามารถอ่านโน๊ตดนตรีได้ จึงต้องใช้การจำจนขึ้นใจ
เริ่มต้นเพราะความต้องการของครอบครัว ที่พ่อแม่อยากให้ทำกิจกรรม และเชื่อว่าดนตรีเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ยงสิทธิ์จึงมีโอกาสได้สัมผัสกับเครื่องดนตรีที่หลากหลาย แต่เพราะเอกลักษณ์ของแซกโซโฟน ที่มีทั้งเสียงทุ้มและสูง สร้างสรรค์และพัฒนาทำนองได้มากกว่าเครื่องดนตรีอื่นๆ จึงทำให้เขาหลงรักเครื่องเป่าชนิดนี้ และเริ่มฝึกฝนอย่างจริงจัง
ดวงตาที่บอดสนิทและรับแสงได้เล็กน้อยเพียงข้างเดียว ทำให้ไม่สามารถเรียนและเขียนทฤษฎีดนตรีได้ จึงต้องอาศัยการฟังเป็นส่วนใหญ่ และใช้โน๊ตอักษรเบลช่วย หลังจากเข้าศึกษาที่คณะดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ยงสิทธิ์เริ่มเรียนแซกโซโฟน อย่างมีแบบแผนมากขึ้น จนได้รับรางวัลชนะเลิศอาเซียนซิมโฟนิคแบนด์คอมเพทิชั่น และรางวัลเหรียญทองเยาวชนดนตรีแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 14 ปี 2553 โดยมีเฉ็น หลี่ อาจารย์สอนแซกโซโฟน เป็นผู้ให้คำแนะนำ
เฉ็น หลี่ กล่าวว่า เขาสอนยงสิทธิ์ด้วยวิธีการ ใช้คำพูดอธิบาย เขาต้องเรียนรู้จากหู และต้องฟังอย่างเดียว เวลาสอน จะเล่นให้ฟังช้าๆ ซ้ำๆ เหมือนกับการเรียนรู้ของเด็กน้อยว่าจะเริ่มพูดยังไง แบบตัวต่อตัว ทำให้เพลงช้าลง แต่ไม่ได้ไปเปลี่ยนแปลงจังหวะและทำนอง และแม้ว่าจะใช้เวลานานกว่าคนอื่น แต่เพราะเขาเรียนรู้ด้วยการจำใส่ใจ จึงง่ายมากที่เขาจะเข้าถึงก้นบึ้งของดนตรีได้อย่างแท้จริง
ยงสิทธิ์ กล่าวว่า ถ้าครูมีใจที่จะสอนคงต้องใช้มาตรฐานที่ยืดหยุ่นบ้าง ใช้ใจที่บริสุทธิ์อยากช่วย อยากพัฒนา อยากเห็นสิ่งดีๆ เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ คนที่เรียนถ้ามีจิตวิญญาณ และความอยากอยู่แล้ว เชื่อว่าเป็นสิ่งที่ทำได้
ด้วยหวังให้ผู้พิการทั่วไป มีโอกาสเล่นดนตรีอย่างถูกต้องเหมือนกับตน ยงสิทธิ์ จึงอยากเป็นอีกแรงบันดาลใจ ให้คนสิ้นหวังลุกขึ้นสู้ พร้อมกระตุ้นผู้เกี่ยวข้อง หันมาสนใจและสนับสนุนคนพิการ ได้เรียนรู้ดนตรีอย่างจริงจัง เพราะอาจมีศิลปินฝีมือดี รอการฝึกฝนทักษะทางดนตรีเช่นเขาอีกคน