ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

สหภาพฯ NT ร้อง กสทช.ยุติประมูลคลื่น หวั่นเอกชนผูกขาด

เศรษฐกิจ
12:03
211
สหภาพฯ NT ร้อง กสทช.ยุติประมูลคลื่น หวั่นเอกชนผูกขาด
อ่านให้ฟัง
06:12อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
สหภาพฯ NT ยื่นหนังสือต่อ กสทช. ยุติการประมูลคลื่น โดยแสดงความกังวลจะเกิดการผูกขาดและไม่ถูกจัดสรรให้เกิดประโยชน์แก่ชาติและประชาชน

วันนี้ (23 มิ.ย.2568) สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ จัดการประชุมชี้แจงขั้นตอนการประมูลและการประมูลรอบสาธิตคลื่นความถี่ 4 ย่านความถี่ ได้แก่ 850, 1500, 2100 และ 2300MHz ซึ่งจะมีการประมูลในวันที่ 29 มิ.ย.นี้

ขณะเดียวกันมีตัวแทนสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ (สร.ทช.) ได้เข้ามาแสดงจุดยืนคัดค้านและยื่นข้อเรียกร้องต่อสำนักงาน กสทช. ให้ยุติการประมูลคลื่นครั้งนี้ ด้วยสภาพการแข่งขันในตลาดเอื้อให้เอกชนที่มีเงินทุนได้ประมูลคลื่น หวั่นผูกขาด และจะทำให้รัฐวิสาหกิจอย่าง NT ไม่มีคลื่นในมือสำหรับให้บริการโครงสร้างพื้นฐานของรัฐและบริการประชาชน ในขณะที่เอกชนกลับมีคลื่นเต็มมือ จึงเสนอให้พิจารณาจัดสรรคลื่นใหม่สำหรับบริการประชาชนด้วย

หนังสือของสหภาพแรงงาน NT ระบุเหตุผลในการคัดค้านการประมูลคลื่นความถี่ ดังนี้

1. คลื่นความถี่เป็นทรัพยากรของชาติที่ กสทช.ควรจะกำกับดูแลเพื่อประโยชน์สูงสุด

2. ราคาประมูลไม่เหมาะสม โดยการประมูลเกิดขึ้นในช่วงที่ผู้ประกอบการไม่ได้ขาดแคลนคลื่นความถี่ 5G ที่จะให้บริการ และมีการกำหนดราคาประมูลขั้นต่ำที่ต่ำกว่าการประมูลในอดีต โดยไม่มีเงื่อนไขชัดเจนในการลดราคาค่าบริการให้กับประชาชน

3. ส่งเสริมการผูกขาดในตลาด เพราะเหลือผู้ให้บริการรายใหญ่เพียง 2 รายเท่านั้นและอาจคงอยู่ยาวนานถึง 15 ปี ตามระยะเวลาการอนุญาตใช้คลื่น

4. ความสำคัญของโครงข่ายสื่อสารในฐานะโครงสร้างพื้นฐาน แม้บริการสื่อสารโทรคมนาคมจะไม่ใช่บริการสาธารณูปโภคพื้นฐานโดยตรง แต่โครงข่ายสื่อสารโทรคมนาคมเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของบริการบรอดแบนด์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบาย Thailand 4.0 เพื่อพัฒนาประเทศสู่เศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล (Digital Economy)

สร.ทช. ชี้ว่า ไม่ควรมองบริการสื่อสารไร้สายเคลื่อนที่เป็นเพียงธุรกิจการแข่งขัน แต่ควรมองว่าเป็นการสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นต่อการพัฒนาสังคม เพื่อลดช่องว่างดิจิทัล (Digital Divide) และให้ประชาชนเข้าถึงบริการได้อย่างเท่าเทียมและเสมอภาค และเสนอให้ใช้รัฐวิสาหกิจ หรือ บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ ในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล

จากเหตุผลที่กล่าวมา สร.ทช. เสนอให้ กสทช. พิจารณาทางเลือกอื่นนอกเหนือจากการประมูลคลื่นความถี่ โดยเสนอแนวทางดังนี้

1. ขยายระยะเวลาการอนุญาตให้ บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ ให้ กสทช.พิจารณาดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 14 ม.ค.2563 ที่ให้รัฐสนับสนุนคลื่นความถี่ที่เหมาะสมในการทำภารกิจแก่ บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ ซึ่งเกิดจากการควบรวมกิจการของ บมจ. ทีโอที และ บมจ. กสท โทรคมนาคม โดยสั่งการให้ กสทช.ขยายระยะเวลาการอนุญาตให้ บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ ใช้คลื่นความถี่ที่เคยจัดสรรให้ (ย่าน 850 MHz, 2100 MHz และ 2300 MHz) ซึ่งกำลังจะสิ้นสุดลง เพื่อให้สามารถใช้อุปกรณ์โครงข่ายได้อย่างต่อเนื่อง และป้องกันไม่ให้อุปกรณ์เหล่านี้กลายเป็นเศษซากที่หมดมูลค่าการใช้งาน

2. พิจารณาแก้ไขกฎหมายเพื่อการจัดสรรคลื่นความถี่ที่เป็นประโยชน์ โดยในระยะยาว สร.ทช.เสนอให้พิจารณาแก้ไขกฎหมายเพื่อให้มีเกณฑ์ในการจัดสรรคลื่นความถี่ด้วยวิธีการอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อชาติและประชาชน เช่น การแข่งขันโดยการเสนอรูปแบบการทำธุรกิจ (Business Model) และการจัดสรรคลื่นความถี่ให้รัฐวิสาหกิจ (บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ) เพื่อใช้งานในการประกอบกิจการ เช่นเดียวกับที่หน่วยงานทหารและหน่วยงานรัฐอื่น ๆ ได้รับการจัดสรรคลื่นความถี่ไปใช้งานโดยไม่ต้องผ่านการประมูล

ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมการสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลให้กับหน่วยงานรัฐต่าง ๆ การใช้งานในมิติความมั่นคงของประเทศ และการส่งเสริมธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมให้เป็นตลาดแข่งขันอย่างเสรีและเป็นธรรมอย่างแท้จริง ไม่ใช่การผูกขาดธุรกิจโดยผู้ประกอบการเพียง 1-2 ราย

อ่านข่าว

ย้อนรอยนมโรงเรียน 33 ปี ชิงสิทธิ งบฯ หมื่นล้าน

เปิดสถิติการค้า-การลงทุน ไทยเกินดุลกัมพูชา 5 หมื่นล้านบาท