ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ตลท.จับตาสงครามตะวันออกกลาง คาดตลาดผันผวนระยะสั้น

เศรษฐกิจ
12:37
127
ตลท.จับตาสงครามตะวันออกกลาง คาดตลาดผันผวนระยะสั้น
อ่านให้ฟัง
07:17อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ตลาดหลักทรัพย์ฯ จับตาสถานการณ์ตะวันออกลางใกล้ชิด เชื่อมาตรการปรับเกณฑ์ Ceiling & Floor และ Dynamic Price Band ลงเหลือ 15% แค่ชั่วคราวเพื่อลดความผันผวนในการซื้อขาย ตลาดหุ้นไทยภาคเช้าปรับตัวลงกว่า 10 จุด ตามตลาดต่างประเทศ

วันนี้ ( 23 มิ.ย.2568) นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่าเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในภูมิภาคตะวันออกกลาง ส่งผลให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพของภูมิภาคและแนวโน้มเศรษฐกิจโลก ซึ่งความไม่แน่นอนดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจของผู้ลงทุนจากการที่ยังขาดข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าว จนอาจส่งผลกระทบต่อการซื้อขายหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ประกาศมาตรการชั่วคราวปรับเกณฑ์ Ceiling & Floor และ Dynamic Price Band ลงเหลือ 15% เพื่อลดความผันผวนในการซื้อขาย จากสถานการณ์ความรุนแรงดังกล่าว

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากผู้ลงทุนมีข้อมูลที่เพียงพอ และตลาดมีความผันผวนน้อยลง มีโอกาสที่จะปลดมาตรการชั่วคราวก่อนครบกำหนดวันที่ 27 มิ.ย. ได้

ทั้งนี้จากการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดมาอย่างต่อเนื่องช่วงบ่ายวันที่ 22 มิ.ย. ได้มีการประชุมคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯมีมติประกาศใช้มาตรการชั่วคราว เพื่อลดความผันผวนของการซื้อขาย และเพื่อให้นักลงทุนมีเวลาในการตัดสินใจวิเคราะห์ข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน โดยการปรับเกณฑ์ชั่วคราวดังกล่าวปัจจุบันมองว่าเพียงพอ คงไม่ได้ปรับลดเกณฑ์ไปมากกว่านี้

โดยก่อนหน้านี้ตลาดหลักทรัพย์ฯ เคยประกาศใช้มาตรการชั่วคราว จากเหตุการณ์ Liberation Day โดยมีความแตกต่างที่เหตุการณ์ดังกล่าวมีความชัดเจนว่ามีโอกาสกระทบต่อเศรษฐกิจและบริษัทจดทะเบียนโดยตรง แต่เป็นเซอร์ไพรส์ที่อัตราจัดเก็บภาษีของสหรัฐสูงกว่าที่หลายคนประเมิน

ขณะที่สถานการณ์ความรุนแรงในตะวันออกกลาง เชื่อว่ามีข่าวออกมาต่อเนื่อง และเห็นโอกาสที่จะเกิดการทวีความรุนแรงขึ้น นักลงทุนอาจ Price in ไประดับหนึ่งแล้ว ดังนั้นแหตุการณ์นี้อาจไม่ได้ผันผวนเหมือนช่วงต้นเดือนเม.ย. ที่เกิด Liberation Day แต่เพื่อลดความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นจึงมีการประกาศใช้มาตรการชั่วคราว

หน้าที่ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้องติดตามข้อมูลต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด ซึ่งวันนี้ยังไม่มีพัฒนาการที่ชัดเจน ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ต้องค่อย ๆ วิเคราะห์แต่ละเหตุการณ์ ก่อนที่จะเพิ่มหรือลดมาตรการใด ๆ เพื่อความเหมาะสม

ทั้งนี้ ด้วยสถานการณ์ต่าง ๆ ที่มีความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงยังไม่ได้แนวคิดในการตั้งเป็นทริกเกอร์อย่างชัดเจน แต่ยอมรับว่าวันนี้การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเร็วมาก หน้าที่ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ช่วยเป็นตัวกรองข่าวเพื่อมาสื่อสารให้ คงไม่ได้มีการชี้นำเหตุการณ์ อยากฝากบอกนักลงทุนต้องใจเย็น ในสถานการณ์ปัจจุบันบางทีต้องกลั่นกรองข้อมูลที่รับทราบก่อนตัดสินใจในการลงทุน

ขณะที่ นายพิชัย ชุณหวชิร รมว.คลัง โพสในแพลตฟอร์ม X ว่า เมื่อวานนี้ ผมได้ติดตามสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลางอย่างใกล้ชิด พร้อมหารือร่วมกับคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อประเมินผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับตลาดทุนไทย ผมขอเรียนว่า คณะกรรมการตลาดฯ มีมติให้ใช้ 2 มาตรการชั่วคราว เพื่อดูแลเสถียรภาพของตลาดและสร้างความมั่นใจให้กับผู้ลงทุนในช่วงเวลาที่ทั่วโลกเผชิญกับความไม่แน่นอน ได้แก่: ลดกรอบเพดานราคาหลักทรัพย์ (Ceiling & Floor) จากเดิม ±30% เหลือ ±15%

สำหรับตลาด SET, mai และ TFEX ลดกรอบราคา Dynamic Price Band รายหลักทรัพย์ จาก ±10% เหลือ ±5% เพื่อลดความผันผวนของราคาระหว่างวัน มาตรการเหล่านี้จะมีผลระหว่างวันที่ 23–27 มิ.ย. 2568 เท่านั้นครับ

ขอย้ำว่า สิ่งที่ทำไม่ใช่การปิดกั้นตลาดหรือชะลอการลงทุน แต่เป็นการให้ “เวลา” กับนักลงทุนได้วิเคราะห์ข้อมูลอย่างรอบด้าน เพื่อรองรับความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นจากปัจจัยภายนอก ผมเชื่อมั่นว่า ตลาดทุนไทยยังแข็งแกร่ง และเราจะผ่านสถานการณ์นี้ไปด้วยกัน ด้วยความเข้าใจและความร่วมมือจากทุกฝ่าย

ขณะที่นายณรงค์เดช จันทรไพศาล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไอร่า กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงจากความกังวลทั้งปัจจัยในประเทศและต่างประเทศ มองว่าประเด็นหลัก คือ ตลาดหุ้นไทยมีปัญหาเชิงโครงสร้างอยู่แล้วพอมีปัจจัยเข้ามารบกวนก็ปรับตัวลงทันที โดยเฉพาะสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลางที่มีความรุนแรงมากขึ้น

สำหรับปัจจัยในประเทศ เริ่มเห็นความเสี่ยงทางการเมืองที่อาจมีผลกระทบในระยะถัดไป โดยเฉพาะความไม่มีเสถียรภาพของรัฐบาล ความไม่แน่นอนทางการเมือง แม้ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีมาตรการชั่วคราวกำหนดซิลลิ่ง-ฟลอร์ลดลงเหลือ 15% จากเดิม 30% ตั้งแต่วันนี้ (23 มิ.ย.) และแรงซื้อหุ้นพลังงานยังประคองตลาดไว้ระดับหนึ่งก็ตาม

มาตรการชั่วคราวของตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อป้องกัน Panic โดยส่วนตัวเห็นว่าอาจมาผิดทาง เพราะที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยซึมตัวลงต่อเนื่อง ตลาดหุ้นไทยภาคเช้าปรับตัวลงกว่า 10 จุด ตามตลาดต่างประเทศ 

แม้ Valuation ถูกลงเหลือ Forward P/E 11 เท่า จากก่อนหน้านี้อยู่ที่ 13-14 เท่า แต่ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ยังน่ากังวล ก็ทำให้หุ้นไทยขาดเสน่ห์เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นต่างประเทศอย่างเวียดนาม ฮ่องกงที่ P/E ใกล้เคียงกัน ทำให้เห็นแรงขายของต่างชาติอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ กฎเกณฑ์บางอย่างอาจไม่เท่าเทียมกับตลาดต่างประเทศ อย่างระบบเทรดที่ล้าหลังส่วนใหญ่ใช้ AI กันไปหมดแล้วแต่บ้านเรายังถูกจำกัด

อ่านข่าว:

ศึกนอก-ศึกใน รุมตลาดหุ้นไทยดิ่ง ดัชนี SET เปิดเช้าร่วงกว่า 11 จุด

หุ้นไทยรับไม่ไหว! คลิปเสียงนายกฯ-ฮุน เซน ชนวนวิกฤตความเชื่อมั่น