นายสุเมธ องกิตติกุล นักวิชาการทีดีอาร์ไอ เปิดเผยผลศึกษา "โครงการอุบัติเหตุรถโดยสารสาธารณะ : ผลกระทบ การประกันภัย และการชดเชยเยียวยา" จากตัวอย่างผู้ประสบอุบัติเหตุ 252 ตัวอย่าง พบว่า ส่วนใหญ่ไม่รู้สิทธิที่ควรเรียกร้อง เงินเยียวยาอุบัติเหตุ และวงเงินชดเชยที่ได้รับไม่เพียงพอต่อค่ารักษาพยาบาลจริง
ขณะที่ระยะเวลาการเรียกร้องค่าเสียหายใช้เวลานาน โดยผู้ประสบเหตุที่อยู่ในการดูแลของมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค คดีความสามารถยุติได้ในชั้นศาลและไกล่เกลี่ยเรียกร้องค่าเสียหายใช้เวลาเฉลี่ยที่ 1 ปี 6 เดือน ถึง 2 ปี
สำหรับวงเงินคุ้มครองค่าเสียหายพบว่าไม่เหมาะสม โดยค่ารักษาพยาบาลที่ได้รับคุ้มครองจาก พ.ร.บ.ภาคบังคับ จำนวน 50,000 บาท ไม่เพียงพอสำหรับอาการบาดเจ็บร้ายแรง ดังนั้นจึงเสนอว่า ควรปรับเพิ่มเป็นการจ่ายตามจริงไม่เกิน 150,000 บาท ส่วนค่าสินไหมทดแทนการขาดรายได้ กรณีเสียชีวิต ทุพลภาพถาวร ควรเพิ่มจาก 200,000 บาท เป็น 400,000 บาท โดยจะนำผลการศึกษาและข้อเสนอส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย หรือ คปภ. รวมถึงกรมการขนส่งทางบก เพื่อกำหนดแนวทางเงินเยียวยาที่เหมาะสมต่อไป