ชาวปาเลสไตน์ร่วมใจส่งนักร้องคว้าชัย Arab Idol

ศิลปะ-บันเทิง
24 มิ.ย. 56
15:05
292
Logo Thai PBS
ชาวปาเลสไตน์ร่วมใจส่งนักร้องคว้าชัย Arab Idol

การประกวดร้องเพลง Arab Idol กลายเป็นเวทีแสดงออกซึ่งความรักชาติของชาวปาเลสไตน์ เมื่อคนทั้งชาติต่างร่วมใจกันส่งคะแนนโหวตให้กับตัวแทนของประเทศ จนหนุ่มวัย 23 ปีจากค่ายลี้ภัยในกาซ่า คว้าชัยในการประกวดร้องเพลงอันดับ 1 ของโลกอาหรับ

สำเนียงการร้องสไตล์อาหรับช่วยให้ I Want It That Way เพลงดังของ Backstreet Boys ไพเราะยิ่งขึ้น ช่วยให้ โมฮัมเมด แอสเสฟ นักร้องหนุ่มวัย 23 ปีจากปาเลสไตน์ ชนะใจสาวๆ ได้ไม่ยาก แต่บทเพลงรักชาติในแต่ละรอบที่เขาร้องได้อย่างกินใจ คือปัจจัยสำคัญส่งให้เพื่อนร่วมชาติทั่วโลกร่วมใจส่งคะแนนโหวต จนเขากลายเป็นชาวปาเลสไตน์คนแรกที่คว้าชัยจากการประกวด Arab Idol รายการประกวดร้องเพลงอันดับ 1 ของโลกอาหรับในปีนี้

ความขัดแย้งทางการเมืองในตะวันออกกลาง เกือบทำให้ โมฮัมเมด แอสเสฟ ไม่มีโอกาสแม้จะได้แสดงความสามารถ เมื่อเขาถูกทางการอียิปต์กักตัวบริเวณทางเข้าพรมแดนถึง 2 วัน กว่าจะได้รับอิสรภาพ ประตูหน้าอาคารที่ใช้เป็นสถานที่คัดเลือกก็ปิดลงแล้ว เขาจึงปีนกำแพงเข้าไป แต่การไม่มีหมายเลขผู้สมัครทำให้เขาหมดสิทธิ์ ท่ามกลางความผิดหวังเขาได้ร้องเพลงต่อหน้าผู้สมัครรายอื่น จนผู้สมัครที่มาจากปาเลสไตน์คนหนึ่งยอมสละสิทธิ์ให้ เพราะเชื่อว่าแอสเสฟมีโอกาสที่จะนำความสำเร็จมาสู่ปาเลสไตน์ได้มากกว่า

เมื่อได้เข้ารอบ แอสเสฟพิสูน์ตนเองว่าคู่ควรกับโอกาสที่ได้รับ จนชาวปาเลสไตน์ทั้งในกาซ่า และเวสต์แบงก์ต่างหันมาสนับสนุนเขาอย่างล้นหลาม บริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์ของปาเลสไตน์ 2 แห่งยอมลดค่าบริการสำหรับผู้โหวตให้แอสเสฟ

ธนาคาร Bank of Palestine ร่วมออกคะแนนโหวตให้ถึง 350,000 ครั้ง ร้านกาแฟในเวสต์แบงก์ร่วมรณรงค์ส่งคะแนนโหวตเท่ากับกาแฟที่ขายได้ในแต่ละวัน โดย มาห์มุด อับบาส ประธานาธิบดีปาเลสไตน์ได้เรียกร้องให้สถานทูตปาเลสไตน์กระตุ้นให้ชาวปาเลสไตน์ยังต่างแดนร่วมกันโหวตอย่างพร้อมเพรียง

ชัยชนะครั้งประวัติศาสตร์ของโมฮัมเมด แอสเสฟ ช่วยลบรอยบาดหมางทางการเมืองระหว่างชาวปาเลสไตน์ในฝั่งฉนวนกาซ่า และเวสต์แบงก์ของอิสราเอล เมื่อชาวปาเลสไตน์ต่างออกมาร่วมฉลองความสำเร็จครั้งนี้อย่างถ้วนหน้า โดยมารดาของแอสเสฟซึ่งไปเชียร์ลูกชายถึงขอบเวที ยอมรับว่ารู้สึกภูมิใจทั้งในฐานะผู้เป็นแม่ และชาวปาเลสไตน์คนหนึ่ง เพราะชัยชนะของแอสเสฟแสดงให้เห็นว่าแม้จะอยู่ทางกลางสงคราม แต่ปาเลสไตน์ก็สร้างนักร้องที่ประสบความสำเร็จได้

จำนวนชาวปาเลสไตน์ที่ออกมาฉลองตามท้องถนน มีมากกว่าการรวมตัวทางการเมืองครั้งใดๆ ที่เคยเกิดขึ้นในดินแดนนี้ ซึ่งองค์กรศาสนา และการเมืองตำหนิว่าชาวปาเลสไตน์ควรนำความกระตือรือร้นเช่นนี้ไปต่อต้านการยึดครองดินแดนของอิสราเอลมากกว่า แต่ โมฮัมเมด แอสเสฟ มองว่าเครื่องมือในการปฏิวัติไม่ได้จำกัดแต่ปืนไรเฟิล ไม่ว่าพู่กันของศิลปิน, มีดผ่าตัดของแพทย์ หรือจอบเสียมของชาวนา ก็สามารถใช้เรียกร้องเสรีภาพได้ตามแต่ความถนัดของคนแต่ละอาชีพ ซึ่งสำหรับเขา เสียงร้องคือเครื่องมือสร้างสันติภาพแก่บ้านเกิดที่ดีที่สุด


แท็กที่เกี่ยวข้อง:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง