นายกฯ เสนอปฏิรูปการเมืองและกฎหมาย
ทันทีที่เดินทางกลับจากภารกิจต่างประเทศ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์แสดงความเป็นห่วงสถานการณ์การชุมนุมทางการเมือง และย้ำให้การชุมนุมเป็นไปอย่างสงบตามกรอบกฎหมาย พร้อมปฏิเสธแนวคิดการจัดตั้งสภาปฏิรูปการเมือง เพื่อสร้างความปรองดอง โดยยังคงเห็นว่าการใช้เวทีรัฐสภาพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมถือเป็นความเหมาะสมแล้ว
แต่เมื่อเวลา 18.00 น. สำนักนายกรัฐมนตรี ได้เผยแพร่คำแถลงการณ์ของนายกรัฐมนตรี โดยยืนยันถึงความพยายามที่จะใช้กลไกตามระบอบประชาธิปไตยสร้างความปรองดอง แต่ก็น่าเสียใจที่มีกลุ่มการเมืองต้องการเคลื่อนไหวบนถนน เพื่อเรียกร้องให้มีการปฏิวัติรัฐประหาร และใช้ความรุนแรง ด้วยเหตุนี้จึงจำเป็นต้องประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง
และด้วยสถานการณ์ความเห็นต่างที่เกิดขึ้น จึงเสนอเปิดเวทีระดมความเห็นในสัปดาห์หน้า ก่อนประมวลทุกข้อเสนอ เพื่อนำไปสู่การปฏิรูปการเมือง ปฏิรูปกฎหมาย และวางพื้นฐานระบบการเมืองตามระบอบประชาธิปไตยอย่างยั่งยืน
ขณะที่ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย หรือ ศอ.รส.อาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.ความมั่นคง แถลงประกาศคำสั่ง รวม 3 ฉบับ มีสาระสำคัญ ห้ามบุคคลหรือกลุ่มบุคคลใด เข้า-ออก บริเวณทำเนียบรัฐบาล, รัฐสภา และบริเวณโดยรอบ และห้ามใช้เส้นทางคมนาคม หรือการใช้ยานพาหนะ รวมถึงห้ามนำอาวุธออกนอกเคหสถาน
นอกจากนี้ ศอ.รส. ยังได้นำอุปกรณ์ควบคุมฝูงชน อันประกอบไปด้วย ปืนยิงกระสุนยาง,แก๊สน้ำตา และอุปกรณ์ประจำกายของเจ้าหน้าที่ มาแสดงยืนยันระหว่างแถลงคำสั่ง เพื่อชี้ให้เห็นว่าหลักปฏิบัติ และการใช้อุปกรณ์เป็นไปตามหลักสากล
ขณะที่นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันว่าพรรคไม่มีมติให้สนับสนุนมวลชน ในการร่วมชุมนุมกับกลุ่มบุคคลที่เรียกตัวเองว่า กองทัพประชาชน แต่ถือเป็นสิทธิ์ของประชาชนที่จะร่วมชุมนุมกับกลุ่มใด และชี้ว่าการเดินหน้าผลักดันร่างกฎหมายนิรโทษกรรมกำลังเกิดผลตรงข้ามการสร้างความปรองดอง โดยเฉพาะการใช้กฎหมายพิเศษควบคุมการชุมนุม
นายไทกร พลสุวรรณ หนึ่งในคณะบุคคลที่เรียกตัวเองว่า คณะเสนาธิการร่วมของกองทัพประชาชน ยืนยันว่ามีความพร้อมในการจัดการชุมนุมในวันที่ 4 สิงหาคม ซึ่งมีผู้เข้าร่วมชุมนุมทยอยเดินทางเข้ากรุงเทพมหานครแล้ว และจะเปิดเผยเวลา และสถานที่ในวันพรุ่งนี้ (3 ส.ค.)
และหลังสมาชิกวุฒิสภาอภิปรายแสดงความเป็นห่วงต่อสถานการณ์การชุมนุมในที่ประชุมวุฒิสภานัดแรก ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวชี้แจงถึงความจำเป็น และยืนยันถึงหลักปฏิบัติตามหลักสากล