องค์กรพิทักษ์สิทธิมนุษยชนสากล สอบที่เก็บอาวุธเคมีในซีเรีย ก่อนนำไปทำลาย
ผู้สังเกตการณ์ซีเรีย เดินหน้าปฏิบัติหน้าที่ตรวจสอบสถานที่เก็บอาวุธเคมีในซีเรีย เพื่อนำไปทำลายตามข้อตกลงที่ซีเรียมีต่อประชาคมโลก ขณะที่มีการเปิดเผยรายงานสถานการณ์สิทธิมนุษยชน พบว่า ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายต่อต้าน ต่างกระทำการเข้าข่ายอาชญากรสงครามทั้งสองฝ่าย
องค์กรพิทักษ์สิทธิมนุษยชนสากล เปิดเผยรายงานสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในซีเรีย ท่ามกลางสงครามกลางเมืองที่รุนแรงระหว่างกองทัพรัฐบาลและกลุ่มกบฏ พบว่า ทั้งสองฝ่ายต่างกระทำการที่เข้าข่ายอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ โดยเมื่อเร็วๆ นี้
มีการเปิดเผยรายงานว่า กลุ่มกบฏซีเรีย สังหารพลเรือนอย่างน้อย 190 คน และลักพาตัวพลเรือนอีก 200 คน ระหว่างก่อเหตุโจมตีหมู่บ้านเมืองลาตาเกีย ชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนี่ยน ที่เป็นที่อาศัยของชาวซีเรียนิกายอลาวีต นิกายเดียวกับนายบาชาร์ อัล อัดซ้าด ประธานาธิบดีซีเรีย
ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง และเป็นอาชญากรสงคราม เพราะมีการวางแผนก่อเหตุอย่างเป็นระบบ / ขณะที่ทหารฝ่ายรัฐบาลก็กระทำการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นรุนแรงเข้าข่ายอาชญากรสงครามเช่นกัน ข้อกล่าวหาต่อกลุ่มกบฏ มีขึ้นในขณะที่รัฐบาลนายอัล อั้ดซ้าด เริ่มได้รับการยอมรับจากประชาคมโลกอีกครั้ง หลังจากให้ความร่วมมือกับกลุ่มผู้สังเกตการณ์อาวุธเคมี ในขั้นตอนทำลายอาวุธเคมี
เมื่อวานนี้ (11 ต.ค.) ผู้เชี่ยวชาญองค์กรเฝ้าระวังอาวุธเคมีต้องห้าม (OPCW) ออกเดินทางจากโรงแรมเพื่อตรวจสอบสถานที่เก็บอาวุธเคมีของซีเรีย ซึ่งเป็นการทำตามแผนทำลายอาวุธเคมีซีเรียให้แล้วเสร็จภายในกลางปีหน้า
ภารกิจของ OPCW ที่ดำเนินการเพื่อทำลายอาวุธเคมีของประเทศต่างๆมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อปี 2540 เพื่อบังคับให้เป็นไปตามอนุสัญญาว่าด้วยอาวุธเคมี ทำให้องค์กรแห่งนี้ได้รับรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพประจำปีนี้ ในการประกาศผลรางวัลเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา