น้ำท่วมหนักในออสเตรเลีย เม็กซิโก และสหรัฐฯ
สหรัฐฯ เผชิญกับพายุหิมะครั้งรุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ ขณะที่ออสเตรเลียและเม็กซิโกต้องเผชิญกับน้ำท่วมและดินถล่มพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงใต้ในรัฐควีนสแลนด์ของออสเตรเลียเผชิญกับน้ำท่วมหนัก หลังมีฝนตกติดต่อกันนาน 24 ชั่วโมง แม่น้ำหลายสายเอ่อท้นตลิ่งไหล่ท่วมบ้านเรือนและถนน ทำให้รถยนต์หลายคันติดอยู่กลางน้ำ หน่วยกู้ภัยต้องทำงานอย่างเร่งด่วน เพื่อช่วยคนที่ติดอยู่ในรถออกมา
ส่วนที่ประเทศเม็กซิโกต้องเผชิญกับพายุหลงฤดู ทั้งที่ขณะนี้เป็นฤดูหนาว แต่กลับมีฝนตกลงมาอย่างหนักในเมืองโตลูก้า ทางตอนกลางของประเทศ เป็นเหตุให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่ม มีผู้เสียชีวิตจากภัยธรรมชาติในครั้งนี้อย่างน้อย 29 คน สูญหายอย่างน้อย 20 คน
ขณะที่พื้นที่เชิงเขาทางตอนเหนือของนครลอสแองเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐฯ ประสบปัญหาโคลนถล่มเพราะพายุฝน ส่งผลให้บ้านเรือนอย่างน้อย 41 หลังเสียหายหนัก ประชาชนกว่า 500 คน ต้องอพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย
ด้านเมืองชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติค ตั้งแต่รัฐเพนซิลวาเนียไปจนถึงทางตอนใต้ของรัฐเวอร์จิเนีย ขาวโพลนไปด้วยหิมะ นับเป็นหิมะที่ตกหนักที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ของสหรัฐฯ จนนายบารัค โอบาม่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ พูดติดตลกว่า นี่คือ "สโนว์มาเกดอน" หรือหิมะวันสิ้นโลก ขณะที่ทางการสหรัฐฯ เตือนประชาชนให้เก็บตัวอยู่ในบ้าน เพื่อเปิดทางให้เจ้าหน้าที่กวาดหิมะออกจากถนนให้เสร็จก่อนถึงวันจันทร์ ซึ่งประชาชนจะเริ่มออกไปทำงาน
อย่างไรก็ตาม ก็มีประชาชนบางส่วนที่นอกจากจะไม่เชื่อคำเตือนของทางการสหรัฐฯ แล้ว ยังจัดการแข่งขันปาหิมะอีกด้วย โดยคนกลุ่มนี้นัดหมายกันผ่านเว็บไซท์เฟซบุ๊ค มานัดเจอกันที่วงเวียนดูปองท์ในกรุงวอชิงตันดีซี ซึ่งปิดการจราจรเนื่องจากหิมะตกหนัก หลายคนเตรียมสู้ศึกปาหิมะโดยปั้นหิมะเป็นก้อนไว้ขว้างฝ่ายตรงข้าม ทั้งนี้ กรุงวอชิงตันดีซีต้องเผชิญกับหิมะที่ตกหนักที่สุดในรอบ 90 ปี