องค์คณะผู้พิพากษา ในศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตามรัฐธรรมนูญ และตามกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จะประกอบไปด้วย ผู้พิพากษาในศาลฏีกา ซึ่งดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่า ผู้พิพากษาในศาลฏีกา หรือผู้พิพากษาอาวุโส และเป็นผู้ที่ได้รับเลือกโดยที่ประชุมใหญ่ในศาลฎีกา เป็นรายคดี คดีละ 9 คน
สำหรับองค์คดีผู้พิพากษา 9 คน ในคดีปล่อยปละละเลย ทำให้เกิดทุจริต ในโครงการรับจำนำข้าว เป็นเหตุรัฐเสียหายที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย ประกอบไปด้วย
คนแรก"นายชีพ จุลมนต์" ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนคดี ซึ่งขณะนี้ คือ "ว่าที่ประธานศาลฎีกาคนใหม่" และจะมีผลในวันที่ 1 ต.ค.นี้
คนที่ 2 นายธนฤกษ์ นิติเศรณี ขณะนี้ก็เป็นว่าที่ประธานศาลอุทธรณ์คนใหม่ ที่จะมีผลในวันที่ 1 ต.ค.นี้ เช่นกัน และนอกจากจะเป็น 1 ใน 9 ผู้พิพากษาในคดีอดีตนายกรัฐมนตรีแล้ว
นายธนฤกษ์ ยังเป็นผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนคดีทุจริตระบายข้าวแบบจีทูจี ที่นายบุญทรง เตริยาภิรมย์และพวก รวม 28 คน ตกเป็นจำเลยอยู่ด้วย
คนที่ 3 นางอุบลรัตน์ ลุยวิกกัย ปัจจุบันเป็นประธานแผนคดีสิ่งแวดล้อมในศาลฎีกา แต่วันที่ 1 ต.ค.นี้ จะขยับเป็นรองประธานศาลฎีกา ลำดับที่ 1 เช่นเดียวกับนายธนสิทธิ์ นิลกำแหงคนนี้ ก็กำลังเป็นว่าที่รองประธานศาลฎีกา ลำดับที่ 2
และว่าที่รองประธานศาลฎีกาลำดับที่ 3 ก็เป็นผู้พิพากษาในคดีนี้ด้วย นั่นคือ "นายไสลเกษ วัฒนพันธุ์" ขณะที่ผู้พิพากษาคนที่ 6 "นายโสภณ โรจน์อนนท์" ก็เป็นว่าที่รองประธานศาลฎีกา ลำดับที่ 4 ขณะที่นายวิรุฬ แสงเทียน เป็นรองประธานศาลฏีกา อีกคนหนึ่ง
ส่วนคนที่ 8 คือนายพิศล พิรุณ ขณะที่กำลังเป็น ว่าที่ประธานแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งก็จะมีผลในวันที่ 1 ต.ค.นี้
และคนสุดท้าย คนที่ 9 นายธานิศ เกศวพิทักษ์ คนนี้ ผู้พิพากษาในศาลฏีกา ซึ่งเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งประธานแผนกคดีผู้บริโภคในศาลฏีกา ก็เคยดำรงตำแหน่งเป็น 1 ใน 9 ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่พิจารณาคดียุบพรรคไทยรักไทย แต่เป็น 1 ใน 3 เสียงข้างน้อย ที่ไม่เห็นด้วยกับการเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยในครั้งนั้น