วันนี้ (15 ก.ค.2561) ศึกฟุตบอลโลก 2018 นัดชิงชนะเลิศ ตราหมากรุก "โครเอเชีย" ที่ดับฝันอังกฤษสร้างประวัติศาสตร์ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศครั้งแรก มาพบกับตราไก่ "ฝรั่งเศส" ที่เฉือนชนะเบลเยียมเข้าสู่นัดชิงชนะเลิศในรอบ 12 ปี
เริ่มเกมโครเอเชียเปิดเกมบุกอย่างต่อเนื่อง แต่กลับเป็นฝรั่งเศสที่เหนือกว่าโดยได้ประตูขึ้นนำโครเอเชีย 1-0 ในนาทีที่ 19 จากจังหวะเปิดโค้งเข้ามาของอองตวน กรีซมันน์ แล้วมาริโอ มานด์ซูคิชโหม่งแฉลบเข้าประตูตัวเองไป

ถัดมาไม่ถึง 10 นาที โครเอเชีย อีวาน เปริซิช ยิงตีเสมอให้โครเอเชียตามฝรั่งเศส 1-1 ในนาทีที่ 28 ต่อมานาทีที่ 35 ฝรั่งเศสได้ลุ้นจุดโทษจากจังหวะแฮนด์บอลล์ของเปริซิชในเขตโทษ และเป็นอองตวน กรีซมันน์ยิงเข้าไปทำให้ฝรั่งเศสทิ้งห่างโครเอเชียอีกครั้ง 2-1 ประตู ในนาทีที่ 38
เริ่มครึ่งหลัง พอล ป็อกบา ทำประตูพาฝรั่งเศสทิ้งห่างโครเอเชีย 3-1 ในนาทีที่ 59 ถัดมาอีก 6 นาที ฝรั่งเศสทิ้งห่างโครเอเชีย 4-1 ประตู ในนาทีที่ 65 จากการยิงของ คิลิยัน เอ็ม บัปเป้

โครเอเชียไม่ยอมแพ้ตีตื้นมาเป็น 2-4 จากลูกยิงของมานด์ซูคิช ในนาทีที่ 69 จบเกมฝรั่งเศส ชนะ โครเอเชีย 4-2 ประตูฝรั่งเศสคว้าแชมป์ในศึกฟุตบอลโลก 2018 ไปครองได้สำเร็จ

นับเป็นแชมป์โลกสมัยที่ 2 ของฝรั่งเศส หลังจากเคยเป็นแชมป์ครั้งแรกในปี 1998 รวมเวลาถึง 20 ปีในการกลับมาคว้าแชมป์ได้อีกครั้ง
