#กอดลาว เรื่องเล่าจากอัตตะปือ

ภัยพิบัติ
15 ส.ค. 61
17:02
1,020
Logo Thai PBS
#กอดลาว เรื่องเล่าจากอัตตะปือ
เรื่องเล่าจากอัตตะปือ ประเทศลาว หลังเขื่อนเซเปียนฯ แตก โดยทีมข่าวไทยพีบีเอสที่ปัจจุบันยังอยู่ในพื้นที่...ເປັນກຳລັງໃຈຊ່ອຍພີນ້ອງຊາວລາວ ພວກເຮົາຈະບໍ່ຖິ້ມກັນ

ข้าพเจ้ามาท่าฮับศพแม่ทุกมื้อ

6 ส.ค.61

แสงคำ แก้วเซเปียน ทหารลาวกองบัญชาการอัตตะปือ 1 ผู้สูญเสียทั้งพ่อ และแม่จากเหตุเขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อย มารอรับร่างของแม่ทุกวัน จะรอจนกว่าจะเจอ

ข้าพเจ้ามาฮับ ท่าฮับศพแม่ทุกมื้อ ตั้งแต่ 7 โมงเช้า ฮอด 19 โมงแลง จนกว่าจะซอกหาศพแม่พ้อ

แสงคำเล่าว่า พ่อ-แม่ อาศัยอยู่บ้านแสงจัน เมืองสนามไซ พื้นที่ท้ายเขื่อน น้ำที่พัดมาแรงทำให้บ้านล้มทับร่างเสียชีวิตทันที

ส่วนแม่หนีตายไปเกาะอยู่บนต้นไม้ แต่ระหว่างที่รอคนมาช่วยแม่ของแสงคำ กลับตกต้นไม้ลอยหายไปกับสายน้ำ

ขณะนี้ลาวมีผู้เสียชีวิต 34 คน และสูญหายอีก 100 คน การค้นหาลาวทำวิธีเดียว คือ เดินเท้าลุยโคลน

แม้แทบไม่มีความหวัง แต่ผู้บัญชาการเก็บกู้ภาคสนาม จะค้นหาจนสุดความสามารถ เพราะในแต่ละวันจะมีญาติผู้สูญหายมารอรับศพไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาทุกวัน

นาฬิกาปลุกมีชีวิต

10 ส.ค.61

นาฬิกาปลุกมีชีวิตในช่วงตี 5 ของวันนี้ ภายในศูนย์อพยพปินดง เมืองสะหนามไซ แขวงอัตตะปือ

เสียงร้องไห้ที่ทารกสื่อสารแทนคำพูดบอกถึงอาการไข้ ในศูนย์อพยพปินดงมีชาวบ้านสมองใต้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุเขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อยแตก อพยพมาอยู่ที่นี่กว่า 100 ครอบครัว พักอาศัยภายในเต็นท์ผ้าใบ

สภาพอากาศที่มีฝนตกตลอดทั้งคืน บวกกับเด็กถูกฉีดยาเมื่อวานนี้ ทำให้เด็กร้องไห้แต่เช้าตรู่ ทีมแพทย์ที่พักอยู่ภายในโรงหมอชั่วคราว ที่ถูกปรับเปลี่ยนมาจากห้องเรียน ต้องรีบดีดตัวจากความง่วงเพื่อทำการรักษา ตามเสียงร้องขอของเด็กวัยทารก

การแพทย์ในพื้นที่เช่นนี้ค่อนข้างจำเป็น เนื่องจากสะพานที่จะข้ามไปยังเมืองสะหนามไซ ที่มีโรงหมอ (โรงพยาบาล) ที่ใกล้ที่สุดนั้นสะพานข้ามแม่น้ำขาด หากจะเดินทางอีกเส้น ก็ต้องเดินกว่า 100 กิโลเมตร จึงจะถึงโรงหมอของเมืองปากเซ

อยู่อย่างไรในเต็นท์

13 ส.ค.61

มาดูชีวิตความเป็นอยู่ประสบภัยน้ำท่วมลาว เหตุเขื่อนเซเปียนฯ แตก ในเต็นท์ผู้ประสบภัยช่วงกลางคืนเขาอยู่กันอย่างไร

 

เรื่องของ “หมู” แต่ไม่ “หมู”

15 ส.ค.61

วันนี้ทีมข่าวลงพื้นที่บ้านใหม่ ไปเจอเจ้าหมูน้อยนอนหายใจรวยริน พร้อมแผลเหวอะหวะคล้ายถูกกัด มีแมลงวันตอมจำนวนมาก

คุยกับพี่เอฟช่างภาพ จะอุ้มหมูกลับมาด้วย พี่เอฟเดินไปหาผ้าจะมาอุ้มหมู แต่เจ้าหมูก็ร้องผวาตลอด
เราพยายามช่วยชีวิตหมูน้อย..เอาน้ำให้กิน แต่ก็จนปัญญาหมูน้อยไม่ยอมกินอะไรเลย

จากนั้นทีมข่าวไปเจอสัตวแพทย์ แต่เชี่ยวชาญดูแลหมาในพื้นที่ที่กำลังพาสุนัขตำรวจมาค้นหาร่างผู้สูญหาย เราวิ่งไปตามหมอให้มาดู

หมอก็ตามมาและประเมินแผล บอกว่าถูกหมารุมกัดแน่ๆ แผลขนาดนี้น่าจะไม่รอดแล้ว กัดถึงไส้ บอกให้เราตัดใจ และไปทำงานต่อ...

เราถามหมอมีสัตวแพทย์ในแขวงอัตตะปือไหม หมอบอกมีแต่คงไม่สามารถรักษาหมูตัวนี้ได้ เพราะอุปกรณ์การรักษาน่าจะไม่มี ถ้าจะไปต้องขับรถไปไกลถึงเวียงจัน 700 กิโลเมตร

เพื่อให้เราสบายใจหมอบอกจะช่วยอย่างเต็มที่ หมูตัวนี้หมอบอกว่าจะบอกให้ทหารนำไปดูแลต่อ อย่างน้อยให้ไปอยู่ในร่ม ให้เขาจากไปโดยที่ไม่มีอะไรมาทำร้ายซ้ำอีก...

นับว่าเป็นเรื่องเศร้าของวันนี้ที่หงุดหงิดใจ สะเทือนใจอย่างบอกไม่ถูก ไม่รู้จะอธิบายยังไง อุปสรรคเยอะเหลือเกินกับการช่วย 1 ชีวิต แต่เราทำอะไรไม่ได้ในสภาพพื้นที่ที่มีข้อจำกัด และเกิดภัยพิบัติรุนแรง

 

สร้าง “บ้านใหม่” ใกล้บ้านหลังเดิม

15 ส.ค.61

วันนี้ลาวเจอวิกฤตทุกข์ซ้ำรอบ 2 ถนนทางหลวงเข้า-ออก เมืองสนามไซ แขวงอัตตะปือ ถูกน้ำท่วมสูง น้ำได้ล้อมรอบเมืองสนามไซไว้หมด

มวลน้ำมหาศาลที่มาจากฝน และเขื่อนเซกะมานกำลังไหลลงแม่น้ำเซกอง ทำให้บ้านเรือนชาวบ้านในเมืองสนามไซที่อยู่ติดกับริมแม่น้ำเซกองถูกน้ำท่วมบางส่วนแล้ว

เราตื่นมาวันนี้พร้อมกับความตกใจ แต่ก็ไม่เหนือความคาดหมายว่าจะเกิดน้ำท่วมรอบเมืองสนามไซ

เราเห็นผู้ประสบภัยกำลังสร้างบ้านหลังใหม่ ไม่ไกลจากบ้านหลังเดิมที่พวกเขาอาศัยอยู่ เพราะน้ำเอ่อท่วมพื้นที่ราบลุ่ม ทำให้ตลอดทั้งคืนพวกเขาไม่ได้หลับไม่ได้นอนกันเลย

ตอนนี้แววตาทุกคนมีความกังวลกลัวว่าน้ำในแม่น้ำเซกองจะเอ่อเข้าท่วมพื้นที่เศรษฐกิจเมืองสนามไซ ทุกคนบอกไม่เคยพบ ไม่เคยเจอฝนที่ตกหนัก ราวกับคนร้องไห้สะอื้นไม่ยอมหยุดในรอบหลาย 10 ปี

แม้แต่ทีมข่าวเองยอมรับเลยว่านอนผวากับเสียงฝนที่ตกแบบเราก็ไม่เคยเจอ เราเชื่อมาโดยตลอดว่าตกแบบนี้ ไม่นานน้ำจะเอ่อขึ้นมาแน่ แล้วก็จริง...เราได้รับรายงานจากทหารที่อยู่ศูนย์บัญชาการบ้านใหม่ว่า น้ำท่วมแคมป์ทหารแล้ว เมื่อวานเราสามารถเข้า-ออกได้แต่วันนี้น้ำท่วมแล้ว

เดินทางเข้า-ออกไม่ได้ ความช่วยเหลือจะมาต่อยังไง...

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง