วันนี้ (13 มี.ค.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ พระราชบัญญัติ หรือ พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ.2562 เมื่อวานนี้ (12 มี.ค.) โดยจะมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป หรือวันนี้ เว้นแต่การจัดเก็บภาษีสำหรับที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตาม พ.ร.บ.นี้ ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไป
สำหรับบทบัญญัติกฎหมายนี้ มีเนื้อหา 98 มาตราและบทเฉพาะกาล มีเนื้อหาที่สำคัญ เช่น มาตรา 37 ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างให้จัดเก็บภาษีตามอัตรา ดังนี้ 1.ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์ในการประกอบเกษตรกรรมให้มีอัตราภาษีไม่เกินร้อยละ 0.15 ของฐานภาษี 2.ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์เป็นที่อยู่อาศัยให้มีอัตราภาษีไม่เกินร้อยละ 0.3 ของฐานภาษี 3.ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์อื่นนอกจากข้อ 1 หรือ 2 ให้มีอัตราภาษีไม่เกินร้อยละ 1.2 ของฐานภาษี
และ 4.ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง ที่ทิ้งไว้ว่างเปล่าหรือไม่ได้ทำประโยชน์ตามควรแก่สภาพให้มีอัตราภาษีไม่เกินร้อยละ 1.2 ของฐานภาษี สำหรับอัตราภาษีที่ใช้จัดเก็บให้ตราเป็นพระราชกฤษฎีกา โดยจะกำหนดเป็นอัตราเดียว หรือหลายอัตราแยกตามมูลค่าของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างก็ได้ แต่ต้องไม่เกินอัตราภาษีที่กำหนด
นอกจากนี้ จะกำหนดแยกตามประเภทการใช้ประโยชน์หรือตามเงื่อนไขในแต่ละประเภทการใช้ประโยชน์ก็ได้ ในกรณีที่ อปท.ใดประสงค์ที่จะจัดเก็บภาษีในอัตราที่สูงกว่าอัตราภาษีที่กำหนด ให้มีอำนาจตราข้อบัญญัติท้องถิ่นกำหนดอัตราภาษีที่ใช้จัดเก็บภายในเขต อปท.ได้แต่ต้องไม่เกินอัตราที่กำหนด นอกจากนี้ มาตรา 41 บัญญัติว่า ในกรณีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ใช้เป็นที่อยู่อาศัย และมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ให้ได้รับยกเว้นมูลค่าของฐานภาษีในการคำนวณภาษีไม่เกิน 50 ล้านบาท
ส่วนมาตรา 43 กรณีที่ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ต้องเสียภาษีเป็นที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ทิ้งไว้ว่างเปล่าหรือไม่ได้ทำประโยชน์ตามควรแก่สภาพเป็นเวลา 3 ปีติดต่อกัน ให้เรียกเก็บภาษีสำหรับที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างในปีที่ 4 เพิ่มขึ้นจากอัตราภาษีที่จัดเก็บตามมาตรา 37 (4) คือ ไม่เกินร้อยละ 1.2 ของฐานภาษี ให้เก็บเพิ่มในอัตรา ร้อยละ 0.3 และหากยังทิ้งไว้เป็นเวลาติดต่อกัน ให้เพิ่มอัตราภาษีอีก ร้อยละ 0.3 ในทุก 3 ปี แต่อัตราภาษีที่เสียรวมทั้งหมดแล้ว ต้องไม่เกินร้อยละ 3