วันนี้ (2 พ.ค.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ร่วมตรวจสอบกัญชาของกลาง น้ำหนัก 1 ตัน ที่ตรวจยึดได้จากลุ่มผู้ค้ายาเสพติด
นายนิยม กล่าวว่า กัญชาของกลางล็อตนี้ถือเป็นล็อตแรกที่ถูกนำมาตรวจสกัดหาสาร 2 ชนิดหลัก ที่สามารถสกัดเป็นยารักษาผู้ป่วยได้ คือ การสกัดหาสาร CBD (Cannabidiol) และสาร THC (Tetrahydrocannabinol) โดยสาร CBD ทำหน้าที่ช่วยลดอาการคลื่นไส้อาเจียน ลดการอักเสบบวมโตของแผล หรือเนื้องอก ระงับเซลล์มะเร็งที่กำลังเติบโต ระงับการเกร็ง หรือชักกระตุก และสามารถสร้างภูมิคุ้มกันในระบบประสาทได้ ส่วนสาร THC มีผลในทางประสาท ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย เคลิบเคลิ้ม และช่วยให้อยากอาหาร
ผลการตรวจพบว่า มีสารทั้ง2 ชนิด ซึ่งขั้นตอนจากนี้คือกระบวนการตรวจหาสารโลหะหนักและยาฆ่าแมลง ซึ่งเป็นสารก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย หากการตรวจสอบพบว่ามีการปนเปื้อนของโลหะหนักและยาฆ่าแมลง กัญชาทั้งหมดจะถูกทำลายทิ้งตามขั้นตอน เพราะจะไม่สามารถนำเข้าสู่การทำยารักษาโรคได้
สำหรับการใช้กัญชาของกลาง เข้าสู่กระบวนการตรวจหาสารสกัดทำยารักษาโรค เบื้องต้นจะดำเนินการในระหว่างรอผลผลิตจากโรงเรือนที่ตรงตามมาตรฐานการปลูกของรัฐ เพื่อให้ทันต่อความต้องการของผู้ป่วย ซึ่งของกลางทั้งหมด ป.ป.ส. ได้ประสานไปยังหน่วยจับกุมของกลางเพื่อชะลอการเผาทำลาย ขณะนี้มีจำนวนทั้งหมด 43 คดี รวม 22 ตัน และจะทยอยส่งให้ ป.ป.ส. ตรวจสกัด
นอกจากนี้ นายนิยม เปิดเผยภาพรวมของการยื่นขอครอบครองกัญชาทั่วประเทศ ขณะนี้มีมากกว่า 6,000 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยในกลุ่มอัลไซเมอร์ ชักเกร็ง พร้อมเชิญชวนให้ประชาชนยื่นขออนุญาตครอบครองกัญชา ก่อนจะหมดเขตในวันที่ 21 พ.ค.นี้ ยืนยันไม่มีการยึดของกลางและไม่มีการทำประวัติติดตามจับกุม เพราะมุ่งเน้นเพื่อประโยชน์ทางการรักษาโรค