วันนี้ (2 มิ.ย.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดชิงชนะเลิศ ที่สนามเอสตาดิโอ เมโทรโปลิตาโน่ ของทีม แอตเลติโก มาดริด ลิเวอร์พูล พบ สเปอร์ส โดย เจอร์เก้น คล็อปป์ หวังล้างอาถรรพ์ หลังต้องเป็นฝ่ายแพ้ในเกมนัดชิงชนะเลิศ ฟุตบอลถ้วยทุกรายการมาแล้ว 6 นัดติดต่อกัน ขณะที่ เมาริซิโอ โปเชตติโน่ หวังพาทีมคว้าแชมป์ หลังพา สเปอร์ส ทะลุถึงรอบชิงชนะเลิศ ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ แต่เริ่มเกมมาแค่ 23 วินาที แฟนบอลลิเวอร์พูลได้เฮกันลั่น เมื่อ ซาดิโอ มาเน่ เปิดบอลติดแขน มุสซ่า ซิสโซโก้ ทำให้ ผู้ตัดสินเป่าให้จุดโทษทันที และเป็น โมฮัมเหม็ด ซาล่าห์ ยิงเข้าไปไม่พลาด ให้ ทีมขึ้นนำก่อน 1-0 ตั้งแต่นาทีแรกของการแข่งขัน
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijM75aX9gcephNqNqMaOOInFB3logq.png)
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijM75aX9gcephNqNqFQIzvrnZ3vwjy.png)
หลังเสียประตู สเปอร์ส มีโอกาสทำเกมรุกหลายครั้ง แต่ยังตามตีเสมอไม่สำเร็จ จนกระทั่งเข้าสู่ช่วงท้ายเกม นาที 87 แยน แฟร์ทองเก้น กองหลังสเปอร์ส เคลียร์ลูกเตะมุมไม่ขาด บอลไปเข้าทาง ดิว็อค โอริกี้ ตัวสำรอง ได้โอกาสยิงด้วยซ้ายในกรอบเขตโทษเป็นประตูย้ำชัย ให้ ลิเวอร์พูล ชนะ สเปอร์ส 2-0 คว้าเเชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มาครองเป็นสมัยที่ 6 มากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของทีมในยุโรป รองจาก เรอัล มาดริด แชมป์ 13 สมัย และเอซี มิลาน แชมป์ 7 สมัย
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijM75aX9gcephNqNqEOACNeMYUN4ME.png)
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijM75aX9gcephNqNqJBo2rMMjUWC2X.png)
ขณะที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ โค้ชของทีม ลิเวอร์พูล ชาวเยอรมัน ให้สัมภาษณ์หลังพาทีมคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่ โดย คล็อป กล่าวชื่นชมลูกทีม ที่สู้กันอย่างสุดใจ แม้แทบจะไม่เหลือแรงวิ่ง พร้อมยอมรับว่ารู้สึกโล่งอกที่ยุติอาถรรพ์ คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ครั้งแรก หลังต้องเป็นฝ่ายผิดหวังในนัดชิงชนะเลิศ รายการนี้เมื่อปี 2013 และปี 2018 และยกให้ค่ำคืนดังกล่าว เป็นค่ำคืนที่ดีที่สุดในอาชีพการคุมทีม
![เจอร์เก้น คล็อปป์](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijM75aX9gcephNqNqHv399DW9Xq2nX.png)
เจอร์เก้น คล็อปป์
เจอร์เก้น คล็อปป์
![เมาริซิโอ โปเชตติโน่](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijM75aX9gcephNqNp9IP2DJmliWzBf.png)
เมาริซิโอ โปเชตติโน่
เมาริซิโอ โปเชตติโน่
ขณะที่ เมาริซิโอ โปเชตติโน่ ยอมรับว่า ทั้งตัวเขาและลูกทีมเป็นรองคู่แข่งเรื่องประสบการณ์ในเกมนัดชิงชนะเลิศ แต่ยังชื่นชมนักเตะที่ทุ่มเทกันเต็มที่ แม้จะโชคร้ายเป็นฝ่ายตามหลังตั้งแต่ต้นเกม และเชื่อว่าความพ่ายแพ้ในครั้งนี้ จะช่วยให้กระตุ้นให้ลูกทีมฮึดสู้ จนได้กลับมาลงเล่นในเกมนัดชิงชนะเลิศอีกครั้ง เหมือนอย่าง ลิเวอร์พูล คู่แข่ง ที่แพ้นัดชิงชนะเลิศปีที่แล้ว ก่อนจะมาแก้มือสำเร็จในปีนี้