วันนี้ (26 ก.พ.2563) เมื่อเวลา 18.30 น.สำนักข่าว Al Jazeera English รายงานว่าผ่านทาง @AJEnglish ว่าเหตุการณ์จลาจลที่เกิดขึ้นกลางกรุงนิวเดลี เมืองหลวงของอินเดีย จากการประท้วงต่อต้านกฎหมายสถานะพลเมืองฉบับแก้ไข (Citizenship Amendment Act) ซึ่งเปิดทางให้ผู้ที่ไม่ใช่มุสลิมจาก 3 ประเทศเพื่อนบ้านมุสลิม สามารถขอรับสถานะพลเมืองอินเดียขึ้น
โดยล่าสุดมีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 21 คนหลังจากเหตุการณ์เริ่มบานปลายมาตั้งแต่วันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา การปะทะดังกล่าวเกิดขึ้น ในระหว่างที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ เดินทางเยือนประเทศอินเดีย
A saffron flag was raised over a mosque in India’s capital after it was set on fire.#DelhiViolence death toll rises to 21, as police are accused of looking the other way while Muslims are targeted. pic.twitter.com/0R6ciBvI18
— Al Jazeera English (@AJEnglish) February 26, 2020
การชุมนุมต่อต้านกฎหมายสัญชาติของอินเดีย เพื่อส่งสัญญาณความไม่พอใจต่อรัฐบาลอินเดียไปยังประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งการประท้วงเกิดขึ้นห่างอออกเพียง 11 ไมล์ จากสถานที่ต้อนรับทรัมป์ ซึ่ง นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ให้การต้อนรับ
เหตุการชุมนุมครั้งนี้ มีรายงานว่ามีการเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้แก๊สน้ำตาสลายกลุ่มผู้ชุมนุม และทำให้มีผู้เสียชีวิตเบื้องต้น 21 คนและผู้บาดเจ็บ 150 ราย จากการปะทะด้วยจากการขว้างปาหิน และกระสุนปืนและทำให้เกิดการปะทะรุนแรง สร้างความเสียหายอย่างรุนแรง

ผู้ประท้วงรวมตัวกันไปตามถนนที่กระจัดกระจายไปตามก้อนหินหลังเกิดการปะทะกันระหว่างผู้สนับสนุนและฝ่ายตรงข้ามของกฎหมายสัญชาติใหม่ที่พื้นที่ Bhajanpura ของนิวเดลีเมื่อวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา มีการวางเพลิงมัสยิดในเขตชาฮาดรา
