ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"ดีเอสไอ" ส่งความเห็นสั่งฟ้องคดี "บิลลี่" ให้อัยการ

อาชญากรรม
11 ส.ค. 63
15:55
2,079
Logo Thai PBS
"ดีเอสไอ" ส่งความเห็นสั่งฟ้องคดี "บิลลี่" ให้อัยการ
กรมสอบสวนคดีพิเศษ มีความเห็นแย้ง เตรียมส่งความเห็น พร้อมสำนวนการสอบสวนในคดีการฆาตกรรม "บิลลี่"แกนนำกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย ให้อัยการสูงสุดพิจารณา หลังก่อนหน้านี้มีความเห็นสั่งไม่ฟ้องนายชัยวัฒน์ และพวกใน 7 ข้อหา

วันนี้ (11 ส.ค.2563) พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวว่า ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่กองบริหารคดีพิเศษ นำสำนวนการสอบสวนกรณีการฆาตกรรม นายพอละจี  รักจงเจริญ หรือบิลลี่ แกนนำชุมชนกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย พร้อมความเห็นของอธิบดีดีเอสไอ ส่งให้อัยการสูงสุด เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย

สำหรับคดีนี้ ดีเอสไอมีความเห็นควรฟ้องเจ้าหน้าที่ 4 คน ในหลายคดี รวมความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนด้วย และได้ส่งสำนวนไปยังอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุดต่อมา สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 1 มีหนังสือแจ้งคำสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหา พร้อมส่งสำนวนการสอบสวน และความเห็นมายังอธิบดีดีเอสไอ เพื่อพิจารณาว่าจะเห็นด้วยหรือไม่

แต่หลังตรวจพิจารณาพยานหลักฐานในสำนวนการสอบสวน ทั้งพยานบุคคล พยานเอกสาร พยานวัตถุ และพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ประกอบความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ กับความเห็นของพนักงานอัยการ ที่ประกอบการออกคำสั่งไม่ฟ้องแล้ว เห็นว่า ยังไม่อาจเห็นพ้องด้วยกับคำสั่งไม่ฟ้องของพนักงานอัยการ อธิบดีดีเอสไอ จึงให้ส่งความเห็น พร้อมสำนวนการสอบสวนไปยังอัยการสูงสุด เพื่อพิจารณาตามกฎหมายต่อไป 

ย้อนไทม์ไลน์ 7 ข้อหาที่สั่งไม่ฟ้อง

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมา พนักงานอัยการ ได้พิจารณาสำนวนคดีแล้ว มีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง นายชัยวัฒน์และพวกใน 7 ข้อหาจาก 8 ข้อหา โดยมีความเห็นสั่งฟ้อง นายชัยวัฒน์กับพวก ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ มาตรา 157 กรณียึดน้ำผึ้งป่าของบิลลี่ แล้วปล่อยตัวไปโดยไม่นำตัวส่งให้ตำรวจดำเนินคดีในข้อหาลักของป่า

ส่วน 7 ข้อหาที่อัยการ สั่งไม่ฟ้องนายชัยวัฒน์ ผู้ต้องหาที่ 1 นายบุญแทน บุษราคัม ผู้ต้องหาที่ 2 นายธนเสฎฐ์ หรือ ไพฑูรย์ แช่มเทศ ผู้ต้องหาที่ 3 และนายกฤษณพงษ์ จิตต์เทศ ผู้ต้องหาที่ 4 ในข้อหา ดังนี้ 1.ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และเพื่อจะเอาหรือเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดจากการที่ตนได้กระทำความผิดอื่น เพื่อปกปิดความผิดอื่นของตนหรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้

2.ข้อหาร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย เป็นเหตุให้ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวถูกกักขังหรือต้องปราศจากเสรีภาพในร่างกายนั้นถึงแก่ความตาย

3.ข้อหาร่วมกันโดยมีอาวุธข่มขืนใจผู้อื่นให้ยอมให้หรือยอมจะให้ตนเองหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สิน โดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือโดยขู่เข็ญว่าจะทำอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกขู่เข็ญหรือบุคคลที่สาม จนผู้ถูกข่มขืนใจยอมเช่นว่านั้น

 

4.ข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์ โดยมีอาวุธปืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิดติดตัวไปด้วยเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

5.ข้อหาร่วมกันโดยทุจริตหรือเพื่ออำพรางคดีกระทำการใดๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อม ในบริเวณที่พบศพก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป

6.ข้อหาร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต

7. ข้อหาร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งใดโดยมิชอบข่มขืนใจเพื่อให้บุคคลใดมอบทรัพย์ให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ย้ายด่วน ! 4 จนท.แก่งกระจานช่วงปี 57 เปิดทางสอบ "คดีบิลลี่"

เก็บตกสำนวนคดี "บิลลี่" ก่อนจะถึงศาล?

"อัยการ" ยังไม่ยื่นฟ้อง "ชัยวัฒน์-พวก" ข้อหา ม.157 ปล่อยตัวบิลลี่

อัยการสั่งไม่ฟ้อง "ชัยวัฒน์-พวก” คดีฆาตกรรม "บิลลี่”

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง