วันนี้ (27 ส.ค.2563) ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก เรื่อง “ COVID-19 การติดเชื้อซ้ำครั้งที่ 2” โดยระบุว่า พบข้อมูลการติดเชื้อซ้ำครั้งที่ 2 ในประเทศฮ่องกง เนเธอร์แลนด์ และเบลเยียม ซึ่งการติดเชื้อที่ฮ่องกงแสดงให้เห็นชัดเจนว่า การติดเชื้อครั้งแรก เป็นสายพันธุ์ V แต่การติดเชื้อครั้งที่ 2 เป็นสายพันธุ์ G ซึ่งเป็นคนละสายพันธุ์กันกับครั้งแรก
การติดเชื้อห่างกัน 4 เดือนครึ่งในการติดเชื้อครั้งแรก มีการตรวจวัดภูมิต้านทาน ไม่สามารถตรวจพบภูมิต้านทานในช่วง10 วันแรกของการติดเชื้อครั้งแรก มาตรวจอีกครั้ง 1ใน 3 วันแรกของการติดเชื้อครั้งที่ 2 ก็ยังไม่พบภูมิต้านทาน ภูมิต้านทานเริ่มเกิดขึ้นหลังวันที่ 5 ไปแล้ว ของการติดเชื้อครั้งที่ 2
อย่างไรก็ตาม ทั้ง 3 คนที่ติดเชื้อในประเทศต่างๆ ซ้ำครั้งที่ 2 อาการไม่รุนแรง ไวรัสโคโรน่าที่พบในโรคทางเดินหายใจตัวอื่น ภูมิต้านทานเกิดขึ้นไม่ได้อยู่ยาวนาน ก็พบว่าเป็นแล้วเป็นซ้ำได้อีก ภูมิต้านทานของ COVID-19 จากการศึกษาของศูนย์ไวรัส ในผู้ที่ติดเชื้อแล้ว หลัง 4 สัปดาห์ ตรวจไม่พบประมาณร้อยละ 10 โดยเฉพาะผู้ที่มีอาการน้อย ภูมิต้านทานจะสูง ในผู้ที่มีอาการมากหรือมีปอดบวม การกลับมาติดเชื้อซ้ำ จึงมีความเป็นไปได้ โดยเฉพาะผู้ที่ติดเชื้อแล้วมีภูมิต้านทานต่ำ หรือตรวจไม่พบภูมิต้านทานเกิดขึ้นในการกลับมาเป็นซ้ำใหม่ หากมีอาการน้อย หรือ เป็นเพียงแค่หวัดก็น่าจะยอมรับได้ แต่ที่สำคัญจะเป็นผู้แพร่กระจายเชื้อ ยังต้องมีการศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดมากกว่านี้
ข้อมูลดังกล่าวจะมีผลต่อการศึกษาในบทบาทของวัคซีนในการป้องกันโรค การศึกษาระบบภูมิต้านทาน และการคงอยู่ของระบบภูมิต้านทานของ COVID-19 จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการป้องกันโรคด้วยวัคซีนที่จะมีมาในอนาคต
