วันนี้ ( 24 มิ.ย.2564) ชมรมเภสัชชนบท โดยเภสัชกรสุภนัย ประเสริฐสุข ประธานชมรมเภสัชชนบท ทำจดหมายเปิดผนึกถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ขอให้เร่งรัดส่งเภสัชกรใช้ทุนเข้าพื้นที่ปฏิบัติงาน เพื่อสนับสนุนภารกิจจัดการวัคซีนและยับยั้งการระบาด COVID19 โดยมีเนื้อหา ดังนี้
ตามที่กระทรวงสาธารณสุข ได้ดำเนินการจัดสรรตำแหน่งพนักงานราชการ โดยเปลี่ยนตำแหน่งและกำหนดตำแหน่งพนักงานราชการสำหรับจัดจ้างพนักงานราชการในตำแหน่งเภสัชกร ที่มีความประสงค์จะปฏิบัติงานชดใช้ทุนของกระทรวงสาธารณสุขมาตั้งแต่ปี 2563 และสำหรับในปี 2564 ยังคงพิจารณาการจ้างเป็นพนักงานราชการ แทนการบรรจุเป็นข้าราชการ จำนวน 350 ตำแหน่งนั้น
ชมรมเภสัชชนบท ได้ติดตามการดำเนินการเพื่อจัดส่งเภสัชกรซึ่งมีสัญญาชดใช้ทุน เพื่อไปปฏิบัติงานในพื้นที่ชนบทและต่างจังหวัดพบว่า โดยในปี 2564 นี้มี 62 จังหวัด 218 โรงพยาบาล 40 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดที่ยังขาดเภสัชกรไปเข้าสู่พื้นที่ปฏิบัติงานเพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาการระบาดของโรค COVID-19 กับทีมสหวิชาชีพต่างๆ
อีกทั้ง ไม่สามารถไปหมุนเวียน สับเปลี่ยนกับเภสัชกรในระบบซึ่ง มีการโยกย้ายแล้วในรอบปีนี้ ทำให้เกิดภาวะชะงักติดขัดในระบบยาของประเทศ โดยเฉพาะงานเร่งด่วนเวลานี้ที่ร่วมกันจัดการวัคซีน ระบบลูกโซ่ความเย็น การเตรียมยาฉีดวัคซีน การติดตามอาการภายหลังได้รับวัคซีน AEF! โดยปัญหาติดขัดคือ
1.คณะกรรมการบริหารพนักงานราชการ (คพร.) สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ยังไม่สามารถประชุม เพื่อสรุปแนวทางการคัดเลือกพนักงานราชการ ตำแหน่งเภสัชกรได้ ซึ่งชมรมเภสัชชนบทติดตามพบว่ากระทรวงสาธารณสุข ได้ทำเรื่องหารือตั้งแต่เมื่อ ธ.ค.2563
2.กระทรวงสาธารณสุข จะต้องใช้เวลาในการจัดการคัดเลือกและส่งตัวภายหลังได้รับแนวทางการคัดเลือกจาก สำนักงาน กพ.ประมาณ 2-3 เดือน ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่ากระทรวงสาธารณสุขจะสามารถส่งตัวเภสัชกรเข้าไปปฏิบัติงานในพื้นที่ต่างๆ ได้ประมาณ ก.ย.2564
ชมรมเภสัชชนบท ประเมินแล้วว่าระบบสาธารณสุขในพื้นที่ ประชาชน ผู้ป่วยจะเสียประโยชน์ได้รับผลกระทบ จากความล่าช้าในการจัดส่งเภสัชกรเข้าไปสมทบสหวิชาชีพในการปฏิบัติงาน เนื่องจากเภสัชกรในระบบโรงพยาบาลและหน่วยงานต่าง ๆ ได้โยกย้ายประจำปีแล้ว ทำให้เกิดภาวะชะงักของระบบงานขาดอัตรากำลังซึ่งมีไม่เพียงพออยู่แล้วมาโดยตลอด
อีกทั้งสถานการณ์การระบาด COVID-19 ที่ต้องมีอัตรากำลังมาทดแทนหมุนเวียนเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานในการนี้ ชมรมเภสัชชนบท จึงมีข้อเสนอต่อ พล.อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายอนุทิน ชาญวีกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ให้เร่งรัดสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน และกระทรวงสาธารณสุข ให้ปรับกระบวนการทำงานในขั้นตอนต่างๆ เพื่อให้สามารถจัดส่งเภสัชกรใช้ทุนเข้าไปปฏิบัติงานในพื้นที่ต่างๆ ภายใน 15 ก.ค.2564
ทั้งนี้ เพื่อให้มีเภสัชกรเข้าไปทำงานร่วมกับสหวิชาชีพในการดูแลผู้ป่วย การหมุนเวียนทดแทนอัตรากำลังเภสัชกรที่มีการโยกย้ายประจำปีไปแล้ว และสนับสนุนการจัดการวัคซีน ยับยั้งการระบาดของ COVID-19 ในพื้นที่ต่างๆ
