ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

แบก 2.6 หมื่นชีวิตสัตว์ป่า หั่นงบฯ ดูแลจาก 90 ล้านเหลือ 10 ล้าน

สิ่งแวดล้อม
15:26
5,673
แบก 2.6 หมื่นชีวิตสัตว์ป่า หั่นงบฯ ดูแลจาก 90 ล้านเหลือ 10 ล้าน
กรมอุทยานฯ โอดงบฯ ดูแลสัตว์ป่าถูกลดงบฯ จากก่อนโควิดได้ปีละ 90 ล้านบาท เหลือ 10 ล้านบาท สวนทางสัตว์ของกลางเพิ่ม สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า ยอมรับเงินไม่พอ ต้องใช้อย่างน้อยปีละ 55 ล้าน ดูแลสัตว์ในสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่า 2.6 หมื่นตัว แต่ยืนยันสัตว์ต้องกินอิ่ม

จากกรณีมูลนิธิสืบนาคะเสถียร เรียกร้องรัฐบาลเร่งแก้ปัญหาวิกฤตงบประมาณดูแลสัตว์ป่าในสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าทั่วประเทศ หลังพบปีนี้งบค่าอาหารถูกลดลงเข้าขั้นวิกฤต

นายสมปอง ทองสีเข้ม ผอ.สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า หน่วยงานที่ดูแลสัตว์ป่า ทั้งสัตว์ป่าของกลาง สัตว์ป่าพลัดหลง และพ่อแม่พันธุ์ ของกรมอุทยานฯ มีทั้งหมด 27 แห่ง แบ่งเป็นสถานีเพาะเลี้ยง 23 แห่ง ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่า 3 แห่ง และศูนย์ศึกษาและพัฒนาการจัดการสัตว์ป่า 1 แห่ง มีสัตว์อยู่ในความรับผิดชอบดูแล 26,000 ตัว

 

งบฯ ภาพรวมกรมอุทยานฯ ถูกตัดลดไปกว่า 1,000 ล้านบาท กระทบทุกส่วนทุกกิจกรรม ซึ่งกรมฯ จึงต้องจัดสรรว่าสิ่งใดจำเป็นเร่งด่วนก็ให้กระทบน้อยที่สุด หรือดึงส่วนอื่น ๆ เข้ามาเสริม ก่อนสถานการณ์ COVID-19 สำนักอนุรักษ์ฯ มีเงินรายได้เกี่ยวกับสัตว์ป่า ประมาณปีละ 90 ล้านบาท แต่ปัจจุบันลดมาเหลือปีละ 10 กว่าล้านบาท หากมีเม็ดเงินมาเติมเต็มก็จะเสริมสภาพคล่องในการทำงานมากขึ้น

ผอ.สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า ยอมรับว่า งบประมาณในปี 2565 ค่อนข้างไม่เพียงพอ เช่นเดียวกับปี 2564 ซึ่งกรมอุทยานฯ แก้ปัญหาด้วยการแบ่งเงินจากส่วนอื่น ๆ เข้ามาเสริม เช่น เงินรายได้การเข้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และเขตห้ามล่าสัตว์ป่า รวมทั้งประสานงานภาคประชาสังคม และภาคเอกชน ในการรับบริจาคอาหารบางส่วนมาช่วยเหลือสัตว์ป่า บนฐานความคิดว่า "สัตว์ต้องกินอิ่ม นอนหลับ ไม่มีปัญหาแน่นอน"

 

สัตว์ป่าของกลางเพิ่ม สวนทางลดงบฯ

นายสมปอง กล่าวว่า ทุก ๆ ปี มีสัตว์ของกลางในคดี และสัตว์ที่ต้องแก้ไขปัญหาเพิ่มขึ้น เพราะสัตว์หลายชนิดไม่สามารถปล่อยคืนสู่ธรรมชาติได้ โดยงบประมาณที่ตั้งไว้สำหรับดูแลสัตว์ในภาพรวม ปี 2564 อยู่ที่ประมาณ 55 ล้านบาท ซึ่งรายจ่ายที่ใช้ในปีถัด ๆ ไป มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น สอดคล้องกับจำนวนประชากรสัตว์ โดยเฉพาะสัตว์ป่าของกลาง แต่ไม่สามารถระบุตัวเลขแน่ชัดได้ ขึ้นอยู่กับการเข้าจับกุมดำเนินคดีและชนิดของสัตว์

งบฯ ดูแลสัตว์ต้องไม่น้อยกว่าปีละ 55 ล้านบาท เพราะของกลาง การตรวจยึดจับกุมเพิ่มขึ้นทุกปี 

ยกตัวอย่างเคสยึดนกอาจกินอาหารไม่มาก แตกต่างจากเสือที่มีค่าอาหารสูง เช่น เคสเสือโคร่งวัดป่าหลวงตาบัว เป็นสายพันธุ์เบงกอล ไซบีเรีย และพันธุ์ผสมสองสายพันธุ์ ขณะนี้เหลือ 46 ตัว ต้องเลี้ยงจนกว่าหมดอายุขัย ปล่อยคืนสู่ธรรมชาติไม่ได้ เนื่องจากไม่ตรงกับเสือโคร่งในป่าไทยที่เป็นสายพันธุ์อินโดจีน อีกทั้งเสือดังกล่าวไม่มีสัญชาตญาณป่า ล่าสัตว์เองไม่เป็น ส่วนสัตว์ป่าที่ปล่อยคืนสู่ธรรมชาติได้ก็จะปล่อยคืนทั้งหมด ยกตัวอย่างช้างป่า เมื่อดูแลสุขภาพแล้วจะปล่อยในพื้นที่ที่มีแหล่งอาหาร หรือถิ่นที่อยู่อาศัยเดิม

สัตว์แก้ไขปัญหาเยอะ สัตว์ของกลางเยอะ สายพันธุ์ไม่ตรงกับสัตว์ป่าของไทย ปล่อยไม่ได้ หลายชนิดที่เป็นปัญหา เราต้องเลี้ยงเขาตลอดชีวิต

 

สำหรับสัตว์กินเนื้อมีทั้งหมด 500 กว่าตัว เช่น เสือ ต้องดูแลตลอดชีวิตและมีค่าใช้จ่ายสูง เพราะต้องซื้ออาหารให้อย่างเดียว ส่วนสัตว์กินพืช สัตว์กีบ ค่าใช้จ่ายไม่สูงมาก สามารถหาอาหารทางธรรมชาติช่วยเสริมได้ นอกจากนี้ ยังมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ทั้งหัวอาหาร ยารักษาโรค วัคซีน เป็นรายจ่ายประจำที่ต้องดูแลตลอด

ใช้เงินรายได้อุดยังไม่พอ-ประสานภาคประชาสังคมช่วย

ผอ.สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กล่าวถึงแนวทางแก้ปัญหาเบื้องต้นว่า ได้จัดสรรงบประมาณส่วนอื่นที่พอเหลือ และใช้เงินรายได้ของสัตว์ป่าตามมาตรา 60 พร้อมประสานงานภาคประชาสังคม ร่วมกันช่วยเหลือดูแลสัตว์

ทั้งนี้ กรมอุทยานฯ เก็บเงินรายได้ 2 ส่วน คือ ค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานแห่งชาติ ซึ่งใช้ในเรื่องอุทยานฯ และเก็บรายได้ค่าเข้า ค่าศึกษาธรรมชาติจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และเขตห้ามล่าสัตว์ป่า ซึ่งรายได้ต่อปีประมาณ 10 กว่าล้านบาท โดยปี 2564 อยู่ที่ 16 ล้านบาท ก็นำมาช่วยเหลือดูแลสัตว์เกือบทั้งหมด

 

ขณะที่โครงการพ่อแม่อุปถัมภ์ยังคงดำเนินการอยู่ และส่งเงินไปยังสถานีเพาะเลี้ยงแต่ละแห่ง ผู้ใจบุญแต่ละคนอาจบริจาคเจาะจงตัวสัตว์ สถานีเพาะเลี้ยง หรือบริจาคในภาพรวม แต่การเรี่ยไรต่าง ๆ ต้องผ่านคณะกรรมการควบคุมการเรี่ยไรภาครัฐ ซึ่งต้องขออนุมัติเป็นรายปี ขณะนี้อยู่ระหว่างรอการอนุมัติและต้องปิดบัญชีก่อน

2 เดือน ยึดสัตว์ของกลาง 10 คดี นก-ลิงมากสุด

ไทยพีบีเอส ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นพบคดีลักลอบค้าสัตว์ป่า เพียง 2 เดือน ของปี 2565 อย่างน้อย 10 คดี สัตว์ของกลางส่วนใหญ่เป็นนก ลิงแสม

  • 6 ม.ค.25565 ยึดนกกะรางคอดำ 5 ตัว
  • 11 ม.ค.2565 ยึดนกอีลุ้ม 12 ตัว นกอีล้ำ 5 ตัว นกกวัก 2 ตัว และนกเขาไฟ 1 ตัว
  • 14 ม.ค.2565 ยึดนกปรอดหัวโขน 32 ตัว นกปรอดคอลาย 7 ตัว นกปรอดตาแดง 7 ตัว นกปรอดศรีไพรตาแดง 2 ตัว นกกางเขนดง 3 ตัว นกเขียวก้านตองใหญ่ 1 ตัว นกเขียวก้านตองเล็ก 1 ตัว นกหกเล็ก 1 ตัว นกปรอดทอง 1 ตัว
  • 19 ม.ค.2565 ยึดนกปรอดหัวโขน หรือนกกรงหัวจุก 11 ตัว
  • 5 ก.พ.2565 ยึดลิงแสม 21 ตัว และเหี้ย 39 ตัว ถูกขังในโรงเรือนพื้นที่ จ.พิจิตร
  • 10 ก.พ.2565 ยึดนกกระรางหัวขวาน 9 ตัว เหยี่ยวขาว 1 ตัว นกแสก 2 ตัว นกเค้าจุด 4 ตัว ในพื้นที่กรุงเทพฯ
  • 14 ก.พ.2565 ยึดนกกางเขนดง 2 ตัว ในพื้นที่มีนบุรี กรุงเทพฯ
  • 15 ก.พ.2565 ยึดลูกแมวดาว 3 ตัว ในพื้นที่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
  • 17 ก.พ.2565 ยึดลิงแสม 30 ตัว ถูกขังในบ้านร้าง อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี
  • 18 ก.พ.2565 ยึดลูกลิงกัง 1 ตัว ในพื้นที่กรุงเทพฯ

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง 

วิกฤต! งบอาหารสัตว์ป่าในสถานีเพาะเลี้ยงฯ ถูกลด 60% 

ปรับเมนูใหม่ให้ "เสือ-ลิง-หมี" สถานีเพาะเลี้ยง ถูกหั่นงบฯ 60%