"รัสเซีย" เดินหน้าโจมตีเมืองหลวงกดดัน "ยูเครน"

อาคารที่พักอาศัยสูง 9 ชั้น ในกรุงเคียฟ ถูกไฟโหมลุกไหม้อย่างหนัก หลังจากถูกรัสเซียโจมตีทางอากาศเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น โดยเจ้าหน้าที่ต้องเร่งดับไหม้และลำเลียงผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล

ทางการยูเครน ระบุว่า เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิตจากเหตุโจมตีครั้งนี้ไปแล้วอย่างน้อย 2 คน บาดเจ็บอีกประมาณ 12 คน และเจ้าหน้าที่สามารถช่วยผู้พักอาศัยออกจากอาคารดังกล่าวได้ 4 คน

ด้านที่ปรึกษาประธานาธิบดียูเครน ระบุอ้างข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเมืองมารีอูโพลว่า นับตั้งแต่รัสเซียบุกโจมตียูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา มีชาวเมืองมารีอูโพลเสียชีวิตไปแล้วมากกว่า 2,500 คน พร้อมทั้งกล่าวหาว่า กองทัพรัสเซียขัดขวางการลำเลียงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปในพื้นที่

รัสเซียยังคงเดินหน้าโจมตีหลายเมืองของยูเครน รวมทั้งในพื้นที่ทางตะวันตกของประเทศ พร้อม ๆ กับการเดินหน้าเจรจาสันติภาพกับยูเครนหลายรอบ ซึ่งครั้งล่าสุด ได้จัดขึ้นในวันนี้ผ่านระบบการประชุมทางไกล ซึ่งยูเครนตั้งเป้าเรียกร้องให้มีการหยุดยิงทันที แม้ว่าการหารือหลายครั้งก่อนหน้านี้ไม่คืบหน้าเท่าใดนัก

หวั่นสงครามในยูเครนซ้ำเติมสถานการณ์โควิด

ด้านองค์การอนามัยโลกออกมาแสดงความกังวลว่าสงครามในยูเครนอาจส่งผลให้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในยูเครนและภูมิภาคยุโรปเลวร้ายลง เนื่องจากมีผู้อพยพหนีสงครามไปแล้วมากกว่า 2 ล้าน 6 แสนคน และต้องระงับโครงการฉีดวัคซีนไปโดยปริยาย

ส่วนความคืบหน้าในเหตุโจมตีเครื่องบินสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ เที่ยวบิน MH 17 เมื่อปี 2014 ล่าสุด ออสเตรเลียจับมือเนเธอร์แลนด์เริ่มดำเนินการทางกฎหมายเพื่อเอาผิดกับรัสเซีย ภายใต้อนุสัญญาว่าด้วยการบินพลเรือนระหว่างประเทศ เนื่องจากมองว่ารัสเซียมีส่วนรับผิดชอบต่อเหตุโจมตีดังกล่าว

เที่ยวบินMH 17 ถูกยิงตกขณะบินผ่านน่านฟ้าเหนือพื้นที่ทางตะวันออกของยูเครน เมื่อวันที่ 17 ก.ค.เมื่อ 8 ปีที่แล้ว ส่งผลให้ผู้โดยสารและลูกเรือทั้ง 298 คนเสียชีวิต ขณะที่ผลการสืบสวนของคณะเจ้าหน้าที่นานาชาติ พบว่า เครื่องบินลำนี้ถูกยิงด้วยขีปนาวุธที่รัสเซียผลิตขึ้น

ที่มา : AP,Reuters