วันนี้ (29 เม.ย.2565) นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมการดำเนินงานของหน่วยงานต่าง ๆ ภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อรองรับการผ่อนคลายข้อกำหนดเข้าราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.2565 เป็นต้นไป
จากการตรวจพบว่าภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย คาดว่าจะมีผู้โดยสารขาเข้าประมาณ 10,000 คน ผ่านระบบ Thailand Pass และผู้โดยสาร 1 คนจะใช้เวลาตรวจสอบเอกสารประมาณคนละ 15 นาทีไม่รวมการเดินทาง
นอจากนี้ ยังสั่งการให้ท่าอากาศยานอีก 5 แห่ง เตรียมความพร้อม ประกอบด้วย ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ท่าอากาศยานหาดใหญ่ ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานกระบี่ของกรมท่าอากาศยาน
ส่วนการแก้ปัญหาหาความแออัดของสุวรรณภูมิ ก่อนโควิด-19 รองรับผู้การบินวันละ 7,000 - 8,000 คน ขณะนี้มีผู้โดยสารเดินทางไม่เกินวันละ 10,000 คน น่าจะทำให้บริเวณโถงรอรับผู้โดยสารที่จะไปโรงแรมไม่หนาแน่น
นอกจากนี้ สั่งการให้ประสานกับสายการบินเพื่อประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวทราบว่าจะต้องทำอะไรบ้างเมื่อเดินทางถึงสนามบิน ส่วนการประกันสุขภาพจะมีเฉพาะผู้โดยสารต่างชาติเท่านั้น
นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า สำหรับอาคารเทียบเครื่องบินรอง หลังที่ 1 (SAT-1) ซึ่งเป็นอาคารผู้โดยสารใหม่ มีกำหนดเปิดให้บริการในปีหน้า ได้สั่งการให้ ทอท.พิจารณาว่า หากอัตราการเดินทางเป็นไปอย่างก้าวกระโดดก็ให้พิจารณาเปิดการใช้งานให้เร็วขึ้น เนื่องจากปัจจุบันอาคารผู้โดยสารหลัก รองรับผู้โดยสารได้ปีละ 45 ล้านคน ส่วนอาคาร SAT-1 รองรับผู้โดยสารได้ปีละ 10-15 ล้านคน
ขณะที่ล่าสุดมีสายการบินขอเพิ่มเที่ยวบินกับสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ประมาณร้อยละ 55 ของตารางการบินที่เคยทำการบินในปี 2562 จึงอาจจะไม่จำเป็น แต่คาดว่าในช่วงไฮซีซั่นอาจจะมีนักท่องเที่ยวเพิ่ม แม้ไออาต้าจะเคยประเมินว่า ผู้โดยสารจะกลับมาเป็นปกติในปี 2567
เช็กเงื่อนไข ผู้โดยสารขาเข้าประเทศ
สำหรับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ร่วมกับทุกหน่วยงานซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอนการคัดกรองผู้โดยสารตามข้อกำหนดใหม่ เพื่อให้การบริการเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ โดยเกณฑ์ใหม่ปรับเป็น 2 กลุ่ม คือ ผู้โดยสารที่ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์และผู้โดยสารที่ไม่ได้รับวัคซีนแต่มีผลตรวจ RT-PCR ไม่เกิน 72 ชั่วโมง สามารถเข้าประเทศได้ตามกระบวนการผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศตามขั้นตอนปกติ
ส่วนผู้โดยสารที่ไม่ได้รับวัคซีน / รับวัคซีนไม่ครบ และไม่มีผลตรวจ RT-PCR เมื่อลงจากอากาศยานเรียบร้อยแล้ว ต้องเข้าสู่ขั้นตอนการเข้าประเทศตามระบบ Seal Route เพียงช่องทางเดียว เพื่อให้พบกับตัวแทนโรงแรม และขึ้นรถโดยสารที่โรงแรมจัดเตรียมไว้ เข้าสู่กระบวนการกักตัว
อย่างไรก็ตาม คาดว่าภายหลังการผ่อนคลายมาตรการ เดือน พ.ค.จะมีผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศเฉลี่ยวันละ 15,954 คน เพิ่มจากเดือน เม.ย. ที่มีจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยวันละ 11,594 คน หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้นร้อยละ 37.61
ส่วนของเที่ยวบินขาเข้าระหว่างประเทศมีจำนวนเฉลี่ยวันละ 180 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นจากเดือน เม.ย. ที่มีจำนวนเที่ยวบินขาเข้าระหว่างประเทศเฉลี่ยวันละ 140 เที่ยวบิน หรือเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 28.57 จากวันที่ 28 เม.ย.2565