รมว.ท่องเที่ยวเตรียมเสนอเปิดสถานบันเทิงถึงตี 4 นำร่องถนนข้าวสาร

การเมือง
17 ส.ค. 65
19:51
411
Logo Thai PBS
รมว.ท่องเที่ยวเตรียมเสนอเปิดสถานบันเทิงถึงตี 4 นำร่องถนนข้าวสาร
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
รมว.ท่องเที่ยวฯ เตรียมเสนอเปิดสถานบันเทิงถึงตี 4 หวังกระตุ้นเศรษฐกิจรอบชุมชน และสร้างรายได้ให้ประเทศหลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย ไม่หวั่นแม้นักวิชาการท้วงติง เพราะต้องการให้ไทยฟื้นตัวเศรษฐกิจให้เร็วที่สุดในอาเซียน

วันนี้ (17 ส.ค.65) นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วยตำรวจท่องเที่ยว และสำนักงานเขตพระนคร ร่วมตรวจสอบสถานประกอบการภายในถนนข้าวสาร เพื่อหารือถึงแนวคิดการเปิดสถานประกอบการในพื้นที่ถึงเวลา 04.00 น.ในการต้อนรับนักท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจของไทยหลังจากสถานการณ์โควิด-19

นายพิพัฒน์ เปิดเผยว่า การเปิดสถานประกอบการถึงเวลา 04.00 น.นั้น เป็นแนวคิดที่จะให้เปิดในบางพื้นที่เท่านั้นและแต่ละที่จะต้องไปหารือกับชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียงสถานประกอบการก่อนว่าเห็นด้วยหรือไม่ หากไม่เห็นด้วยก็ไม่สามารถอนุญาตให้เปิดได้ แต่หากเห็นด้วยก็จะมีผลดีในการค้าขายรอบพื้นที่เพราะก็จะเปิดโอกาสให้ชาวบ้านมาค้าขายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่

สาเหตุหลักของแนวคิดนี้เพื่อต้องการให้ธุรกิจสถานประกอบการฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ได้รับผลกระทบอย่างมากจากนักท่องเที่ยวลดลง และการปิดกิจการไปเป็นเวลานาน

รวมทั้งให้ประเทศไทยได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวที่กำลังจะเข้ามาเที่ยวในไทยหลังจากเปิดประเทศ โดยเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา พบว่า มีนักท่องเที่ยวกว่า 1.7 ล้านคนเข้ามา

ส่วนในเดือนนี้พบว่ามีนักท่องเที่ยวเข้ามาแล้วกว่า 1.2 ล้านคน หลังจากนี้ก็ต้องเตรียมรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวในช่วงไฮซีซั่นช่วงกลางเดือน ต.ค.นี้ ซึ่งการเปิดสถานประกอบการต่างๆ ก็จะช่วยให้ดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาได้มากขึ้น นอกจากจะเที่ยวในต่างจังหวัดแล้วยังเข้ามาพักในกรุงเทพฯก่อนกลับประเทศและได้ท่องเที่ยวในพื้นที่สถานบันเทิงด้วย

นายพิพัฒน์ ยังบอกว่า ถนนข้าวสารน่าจะเป็นพื้นที่นำร่องในกรุงเทพฯ เพราะส่วนใหญ่ร้อยละ 60 เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาใช้บริการ และการขยายเวลาเปิดเพียง 2 - 3 ชม.คาดว่าจะสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 โดยวันที่ 19 ส.ค.นี้ ก็จะมีการประชุมร่วมกับ ศบค.เบื้องต้นก่อน และจะจัดเตรียมทำแผนเพื่อเสนอให้ ศบค.พิจารณาอีกครั้ง คาดว่าไม่เกินเดือน ต.ค.นี้ซึ่งก็จะต้องหารือร่วมกับกระทรวงมหาดไทยในฐานะผู้ควบคุมสถานประกอบการด้วย

ส่วนกรณีที่นักวิชาการ หรือแพทย์ออกมาท้วงติงเรื่องความเหมาะสม และการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นั้น นายพิพัฒน์ มองว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯ มีหน้าที่ในการหาวิธีนำเงินเข้าประเทศ อาจจะมองสวนทางกับหลายกระทรวงที่จะต้องป้องกันโรคติดต่อ แต่ที่เสนอแนวคิดนี้ไปเพื่อต้องการผลักดันให้เศรษฐกิจของไทยดีขึ้นหลังจากฟื้นตัวจากโรคโควิด-19 เพราะธุรกิจเหล่านี้จะได้รับการถูกปลดล๊อกหลังสุด ถ้ายังกลัวก็จะทำให้ประเทศไทยรั้งท้ายในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในอาเซียนหลังจากโควิด-19 เริ่มควบคุมได้

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง