วันนี้ (8 พ.ย.2565) นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ตอบคำถามสื่อมวลชน กรณี ครม.เตรียมเสนอขอถอนร่างกฎกระทรวงให้ต่างชาติถือครองที่ดินที่ หลัง ครม.มีมติอนุมัติหลักการไปเมื่อวันที่ 25 ต.ค.65 ที่ผ่านมา ให้ครม.พิจารณาเพื่อนำกลับไปศึกษาใหม่
เป็นเรื่องที่ต้องไปทบทวน เอากลับไปพิจารณาใหม่ และรับฟังความคิดเห็นอย่างน้อย 15 วัน ผมทราบเรื่องนี้เพราะว่าผมประชุมและหารือ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา แล้วผู้แทนกระทรวงมหาดไทยได้ชี้แจงว่า รมว.มหาดไทย ได้ทำหนังสือมาขอถอนกลับออกไปพิจารณาใหม่
ทั้งนี้ กรณีมีการถอนร่างกฎกระทรวงดังกล่าวก็จะเหลือเพียงประกาศกฎกระทรวงปี 2545 ของพรรคเพื่อไทย เท่านั้นซึ่งนายวิษณุ ตอบว่า ฉบับนั้นรุนแรงกว่าฉบับนี้
ผู้สื่อข่าวถามเพิ่มเติมว่า อันนี้จะเรียกขายชาติหรือไม่ โดยนายวิษณุตอบว่า ไม่รู้ ตนเองไม่เคยพูด พวกคุณพูดกันเอง ขายชาติ ผมก็ไม่เห็นว่า การขายที่ดิน จะเป็นการขายชาติ แต่ถ้าคุณจะเรียกว่าการขายชาติก็เรียกไป
นายวิษณุกล่าวว่า การที่ชาวต่างชาติ จะได้ที่ดินมีหลายวิธีด้วยกัน เช่น 1.อาจจะได้มาด้วยการเช่า Long lease คือ การเช่ายาวระยะนาน 2.เช่าตามพระราชบัญญติว่าด้วยการให้เช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม และอุตสาหกรรม ที่สามารถเช่าได้ 30 ปี 3.การซื้อคอนโดมิเนียม 49 % ของตึกทั้งหลัง นั่นก็เป็นการซื้อได้อยู่แล้ว 4.การได้มาตามสนธิสัญญา ซึ่งก็มีคนต่างด้าวได้มาแล้วจำนวนมาก
ขณะที่ประกาศกฎกระทรวงฉบับปี 2545 ที่ใช้บังคับมา เป็นการออกมาตามความใน พระราชบัญญัติ ตามประมวลกฎหมายที่ดินแก้ไขเมื่อปี 2542 ในยุคของไอเอ็มเอฟ และมาออกกฎกระทรวงให้ขายได้ในปี 2545
จากวันนั้นถึงวันนี้ 20 ปี มีผู้ที่เป็นคนต่างด้าว มีผู้ที่ได้ซื้อที่ดินทั้งหมด 10 ราย โดย 2 จาก 10 ราย อยู่ต่อมาจนได้สัญชาติไทย และอีก 8 ราย ไม่มีคนใดที่ซื้อเป็นไร่ซักเพียงรายเดียว โดยอยู่ที่ 100 ตร.ว.หรือ 200 ตร.ว.เพื่อที่จะปลูกบ้านเพื่ออยู่อาศัย
นายวิษณุ กล่าวเพิ่มเติมว่า เพราะคนต่างด้าวเห็นว่ากฎกระทรวงนี้เป็นภาระยุ่งยาก สู้การซื้อผ่านนอมินีไม่ได้ ตรงนั้นซื้อ 100 ไร่ก็ได้ สุดท้ายก็ไปเลี่ยงโดยการซื้อผ่านนอมินี หรือ ตั้งบริษัทโดยถือหุ้น 49 % และให้คนไทยซื้อหุ้นอีก 49 % และอีก 2 % ใช้จากที่ไหนไม่รู้มาอุดช่อง ก็กลายเป็นว่า บริษัทนั้นไม่ใช่บริษัทของชาวต่างด้าว วิธีการนี้สามารถที่จะซื้อที่ดินเป็น 10,000 ไร่ก็ได้ นี่เป็นเหตุที่กระทรวงมหาดไทยได้ดู แล้วคิดว่าควรปรับให้คล่องตัว
นายวิษณุกล่าวว่า การแก้ไขครั้งนี้ (กฎกระทรวงปี 2565) ซึ่งกำลังจะถอนแล้วนั้น ไม่ได้เป็นการเปิดให้แก่คนต่างด้าวทุกคน เสื่อผืนหมอนใบ มาจากไหนอะไรก็ได้ เหมือนอย่างกฎกระทรวงปี 2545 แต่ให้เฉพาะคน 4 ประเภทเท่านั้น คือ 1.คนต่างด้าวที่มีฐานะดี 2.คนต่างด้าวที่เกษียณมาจากประเทศของเขา แล้วจะมาอยู่เมืองไทยแบบระยะยาว 3.เป็นคนต่างชาติที่มีทักษะสูง 4.เป็นคนต่างด้าวที่จะเข้ามาลงทุนในไทย
ทั้งนี้ เป็นการกำหนดอย่างเดียวกันว่า เป็นผู้ที่นำเงินมาลงทุนซึ่งไม่ใช่การฝากกับธนาคาร โดยต้องซื้อหุ้นต่าง ๆ จำนวน 40 ล้านบาท ซึ่งมีความเหมือนกัน แต่จะมีความแตกต่างตรง คือ กฎกระทรวงฉบับปี 2545 ซึ่งบุคคลที่เป็นคนต่างด้าวสามารถซื้อได้หมด แต่ฉบับที่ถอนจาก ครม. (ฉบับปี 2565 ) วันนี้ ให้เฉพาะคนต่างด้าว 4 ประเภทเท่านั้น และเงินที่จะซื้อหุ้นจำนวน 40 ล้านบาทนั้น เหมือนกับกฎกระทรวงปี 2545
รวมถึง กฎกระทรวงฉบับปี 2545 ต้องนำเงินมาลงทุนและถือครองไว้ 5 ปี ไม่สามารถถอนก่อนกำหนดได้ แต่ฉบับปี 2565 ลดลงมาเหลือ 3 ปี
นายวิษณุ ยังอธิบายเพิ่มเติมว่า เนื่องจาก 20 ปีที่ผ่านมา มีการวิจัยพบว่า การที่คนไม่สนใจ โดยมีเพียง 8 รายที่สนใจ เนื่องจากการถือครองที่ยาวนานเกินไป แต่ก็อาจมีการปรับแก้ภายหลังนำกลับไปรับฟังความคิดเห็นอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวยังถามว่า การถอนกฎกระทรวงครั้งนี้ เนื่องจากความอ่อนไหวทางการเมืองหรือไม่ โดยนายวิษณุ กล่าวว่า ทุกสาเหตุประกอบกัน เนื่องจากทุกฝ่ายรุมต่อว่า ว่าเป็นการขายชาติ ซึ่งก็ต้องนำกลับไปทำความเข้าใจ
ผมเองก็ตำหนิรัฐบาล และตนเองด้วยว่า ในการชี้แจง ไม่ชี้แจงให้ชัดเจน และอาจเป็นความเคราะห์ร้ายว่าเป็นการแถลงวันเดียวกับเรื่องสุรา เมื่อเป็นเช่นนั้นจึงตีกัน 2 เรื่อง อารมณ์ของคนจึงพุ่งทะยานไปอีกแบบหนึ่ง
นาย วิษณุ ยังระบุว่า ควรนำกลับไปรับฟังความเห็น ปรับปรุง ให้เข้มงวดกวดขัน และรับฟัง ที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันอยู่ซึ่งหลายข้อก็ถูก ก็นำไปทำให้ดี หากคิดว่าจะนำกลับมาก็นำกลับมา แต่หากไม่นำกลับมาก็ใช้กฎกระทรวงฉบับปี 2545 ต่อไป
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า การให้เช่าที่ดินดีที่สุดหรือไม่ ซึ่งนายวิษณุ กล่าวว่า ก็ดี การให้เช่าดีที่สุด แต่ว่าไม่ดึงดูดความสนใจได้เท่าที่ควร
ผู้สื่อข่าวยังถามต่อว่า รู้สึกเสียดายหรือไม่ที่กฎกระทรวงฉบับนี้ถูกถอนออกไป โดยนายวิษณุตอบว่า ไม่เสียดาย รู้สึกเฉย ๆ