ชายไทยเสียชีวิตบนเครื่องบิน พบติดโควิด - เร่งชันสูตรหาสาเหตุแน่ชัด

สังคม
12 ธ.ค. 65
08:43
2,692
Logo Thai PBS
ชายไทยเสียชีวิตบนเครื่องบิน พบติดโควิด - เร่งชันสูตรหาสาเหตุแน่ชัด
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
กรมควบคุมโรค เผยผลสอบสวนโรคชายไทย อายุ 71 ปี เสียชีวิตบนเครื่องบินขณะกลับไทย หลังไปแสวงบุญที่ซาอุดีอาระเบีย พบมีโรคประจำตัวหอบหืด ตรวจพบ COVID-19 แต่ไม่พบสารพันธุกรรมของไวรัส MERS ส่งชันสูตรหาสาเหตุเสียชีวิต

วันที่ 11 ธ.ค.2565 นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากกรณีพบผู้เสียชีวิตบนเครื่องบิน ระหว่างเดินทางมาจากซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันที่ 10 ธ.ค.2565 เวลา 09.00 น. ตามเวลาประเทศไทย

เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ร่วมกับฝ่ายแพทย์การท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สอบสวนโรคพบว่า ผู้เสียชีวิตเป็นชายไทย อายุ 71 ปี ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 จำนวน 2 เข็ม และไม่ได้รับการฉีดกระตุ้นเข็มที่ 3 นอกจากนี้ยังได้รับวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ และวัคซีนป้องกันโรคไข้กาฬหลังแอ่น โดยญาติผู้เสียชีวิตปฏิเสธการแพ้ยา และผู้ป่วยมีโรคประจำตัวเป็นโรคหอบหืด

นพ.ธเรศ กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตเดินทางไปแสวงบุญ ณ ประเทศซาอุดีอาระเบีย พร้อมสมาชิกครอบครัวรวม 5 คน ตั้งแต่วันที่ 27 พ.ย.2565 ขณะอยู่ที่ซาอุดีอาระเบีย 3 วัน ก่อนเดินทางกลับไทย ผู้เสียชีวิตมีอาการหอบหืด เหนื่อย ไอ จึงรักษาตามอาการ เมื่อถึงกำหนดเดินทางกลับไทยในวันที่ 10 ธ.ค.2565 ก่อนขึ้นเครื่องบินผู้เสียชีวิตมีอาการอ่อนแรง ต้องนั่งรถเข็นมาส่งหน้าประตูเครื่องบิน หลังจากนั้นขณะอยู่บนเครื่อง เวลาประมาณ 8.00 น. (เวลาประเทศไทย) ผู้โดยสารที่นั่งใกล้ ๆ สังเกตเห็นอาการผิดปกติมีลักษณะนั่งคอพับ จึงได้แจ้งลูกเรือให้การช่วยเหลือ ซึ่งไม่พบสัญญาณชีพของผู้เสียชีวิต จึงได้ทำการช่วยฟื้นคืนชีพ (CPR) โดยลูกเรือกับพยาบาลต่างชาติที่เป็นผู้โดยสารบนเครื่อง และมีการใช้เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (AED) แต่ไม่มีสัญญาณชีพใด ๆ

ทั้งนี้ เนื่องจากผู้ป่วยเข้าเกณฑ์โรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง (MERS) ซึ่งถือเป็นโรคติดต่ออันตราย ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ที่ต้องเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด จึงเก็บตัวอย่างจากโพรงจมูกส่วนหลัง ส่งตรวจโรค MERS และโรค COVID-19 โดยวิธี RT-PCR ณ สถาบันบำราศนราดูร และห้องปฏิบัติการด่านควบคุมโรคฯ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ผลพบสารพันธุกรรมของไวรัส SARS-CoV-2 (COVID-19) แต่ไม่พบสารพันธุกรรมของไวรัส MERS เจ้าหน้าที่ได้ส่งศพผู้เสียชีวิตไปชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตต่อไป

ขณะที่ นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต และขอให้ประชาชนเชื่อมั่นประเทศไทยได้วางระบบเฝ้าระวังคัดกรองไว้อย่างรัดกุม โดยประสานความร่วมมือกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจคัดกรองนักท่องเที่ยวที่มาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง หากผู้เดินทางมีอาการป่วยสงสัย หลังจากเดินทางกลับจากต่างประเทศที่มีรายงานโรคอุบัติใหม่ ขอให้ไปตรวจรักษาและแจ้งประวัติการเดินทางกับแพทย์

นอกจากนี้ เน้นย้ำมาตรการที่สําคัญสําหรับประชาชนทั่วไป และกลุ่มเสี่ยง 608 เข้ารับการฉีดวัคซีนให้ได้อย่างน้อย 4 เข็ม และผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มสุดท้ายนานเกิน 4-6 เดือน ให้รีบไปฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกัน ป้องกันการป่วยหนัก และลดโอกาสการเสียชีวิตจาก COVID-19

ข่าวที่เกี่ยวข้อง