กรมอนามัยชวนทุกคน "ออกกำลังกาย" คลายหนาว

สังคม
19 ธ.ค. 65
14:51
668
Logo Thai PBS
กรมอนามัยชวนทุกคน "ออกกำลังกาย" คลายหนาว
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
กรมอนามัย แนะ 4 กลุ่มวัยออกกำลังกายให้เหมาะสมเพื่อเพิ่มความอบอุ่น และสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายพร้อมรับลมหนาว

วันนี้ (19 ธ.ค.2565) นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า เมื่อประเทศไทยเข้าสู่ฤดูหนาว ประชาชนอาจป่วยด้วยโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ เช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ หลอดลมอักเสบและปอดบวม ซึ่งนอกจากการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ สวมเสื้อผ้าให้อบอุ่นแล้ว การเตรียมความพร้อมของร่างกายด้วยการออกกำลังกายก็เป็นสิ่งสำคัญ

กรมอนามัยจึงแนะนำให้ประชาชนออกกำลังกายตามความเหมาะสม เพื่อเพิ่มความอบอุ่น และสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย

1.เด็กเล็กที่อายุต่ำกว่า 6 ปี ควรเน้นการออกกำลังกายที่สนุกสนาน เพื่อให้เด็กใช้เวลาได้นาน ไม่เบื่อหน่าย เช่น วิ่งเก็บของ วิ่งเปี้ยว การละเล่นไทยต่าง ๆ หรือกายบริหารประกอบเพลง ซึ่งเด็กวัยนี้ควรเน้นความสนุกมากกว่าการเอาชนะ

2.ช่วงอายุ 6-17 ปี เป็นช่วงอายุที่มีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้มีพัฒนาการที่สมวัย สูงสมส่วน และมีร่างกายแข็งแรง ควรออกกำลังกายเป็นประจำอย่างน้อยวันละ 60 นาที (สะสมต่อเนื่อง 10 นาทีขึ้นไป) สามารถออกกำลังกายได้หลากหลายรูปแบบ เน้นการออกกำลังกายแบบแอโรบิกเป็นหลัก เช่น วิ่ง ปั่นจักรยาน กระโดดตบ กระโดดเชือก เต้นแอโรบิก ว่ายน้ำ บาสเกตบอล ฟุตบอล เป็นต้น ร่วมกับ การออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความแข็งแรงและความอดทนของกล้ามเนื้อ เช่น ซิตอัป ดันพื้น แพลงก์ สควอช โหนบาร์ ยกดัมเบล เป็นต้น และการออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความอ่อนตัว เช่น จิงโจ้ยืดตัว กายบริหาร ยืดเหยียดกล้ามเนื้อ โยคะ เป็นต้น

3.วัยทำงานช่วงอายุ 18-59 ปี ควรออกกำลังกายให้หลากหลายเพื่อพัฒนาและเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง เช่น วิ่ง ปั่นจักรยาน แบดมินตัน วัยนี้กล้ามเนื้อ กระดูก ข้อต่อ และเส้นเอ็นต่าง ๆ เริ่มเสื่อมสภาพลง จึงควรออกกำลังกายเพื่อฟื้นฟูร่างกายให้ได้อย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 วัน วันละ 30 นาที โดยการเดินเร็ว วิ่งเหยาะ ๆ เต้นแอโรบิก

4.ช่วงอายุ 60 ปีขึ้นไป ความคิด การตัดสินใจช้าลง กล้ามเนื้อ กระดูกและข้อต่อ การรับรู้ช้าลง มีภาวะสมองเสื่อม จึงควรออกกำลังกายแบบเบา ๆ เช่น การเดิน เต้นรำ บริหารกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ให้แข็งแรง ควบคู่กับการยืดเหยียดกล้ามเนื้อ 2 วันต่อสัปดาห์ มีการออกกำลังกายฝึกการทรงตัว อย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 วัน วันละ 30 นาที เช่น เต้นบาสโลบ ฟ้อนรำ รำวง รำไท่จี้ชี่กง กิจกรรมเหล่านี้ จะช่วยพัฒนาการเคลื่อนไหวร่างกายของผู้สูงอายุให้มีประสิทธิภาพ เป็นการฝึกการทรงตัว เพื่อป้องกันการหกล้ม

สิ่งสำคัญของทุกวัย คือ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ รักษาร่างกายให้อบอุ่น เพื่อให้สุขภาพดี

ทั้งนี้ ทุกกลุ่มวัยควรพักผ่อนให้เพียงพอ และกินอาหารประเภทผักและผลไม้สด ที่มีวิตามินซีสูงเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย และเนื่องจากช่วงอากาศเย็นจะทำให้อาหารจับตัวเป็นไข ก่อนการบริโภค จึงควรนำไปอุ่นให้ร้อน เพื่อเพิ่มรสชาติของอาหาร และเพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกายด้วย

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

"เหนือ-อีสาน" อุณหภูมิลดอีก 2-4 องศาฯ - ใต้ฝนหนัก คลื่นลมแรง

กทม.หนาวแน่! อุณหภูมิต่ำสุด 14 องศาฯ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง