ผู้เสียหาย ร้อง ตร.ไซเบอร์ เร่งตามจับ CEO หลอกลงทุนเทรด Forex

อาชญากรรม
1 ก.พ. 66
13:45
2,113
Logo Thai PBS
ผู้เสียหาย ร้อง ตร.ไซเบอร์ เร่งตามจับ CEO หลอกลงทุนเทรด Forex
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
กลุ่มผู้เสียหายจากการถูกหลอกลงทุนเทรด Forex กับบริษัท GCT ยื่นเรื่องต่อ ผู้บัญชาการตำรวจไซเบอร์ ขอให้เร่งติดตามจับกุม CEO ที่หลบหนีไปต่างประเทศ ตั้งแต่ พ.ค.65 ทิ้งความเสียหาย 100 ล้านบาท

วันนี้ (1 ก.พ.2566) ตัวแทนผู้เสียหายยื่นหนังสือร้องเรียนพร้อมข้อสงสัยในคดีหลอกลงทุนเทรด Forex กับบริษัท Gold Carry Trade (GCT) ยื่นต่อ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) เพื่อขอให้เร่งรัดติดตามคดีดังกล่าว

หลังพบว่ามีแอคเคาท์นักลงทุนกว่า 20,000 คน คาดความเสียหายประมาณ 5,000 ล้านบาท มีเครื่อข่ายชักชวนบอกต่อ นำเงินไปให้บริษัทเทรด Forex อ้างได้ผลกำไรสูง เริ่มชักชวนตั้งแต่ปี 2564 สามารถถอนผลกำไรได้ในช่วงแรก ต่อมาประมาณ มี.ค.2565 เริ่มไม่จ่ายผลตอบแทน และเลิกประกอบการบริษัทในเดือน เม.ย.2565

ทำให้มีผู้เสียหายไปแจ้งความ 55 คน มูลค่าความเสียหาย 156 ล้านบาท ต่อมาเมื่อ มี.ค. และ เม.ย.2565 ตำรวจ สอท.1 ได้ออกหมายจับนายวชิรวิทย์ ผู้บริหารบริษัท Gold Carry Trade (GCT) ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน ผิด พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน, ผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ทางเจ้าหน้าที่ เคยนำตัวมาสอบปากคำ 1 ครั้ง ก่อนจะได้รับการประกันตัวไป จากนั้นได้หลบหนีออกนอกประเทศ

แต่ปัจจุบัน CEO คนนี้ ยังใช้ช่องทางออนไลน์ สื่อสารมายังกลุ่มนักลงทุนที่ยังเชื่อว่าจะได้รับเงินคืนโดยนัดว่าจะคืนเงินในเดือน มิ.ย.นี้ และข่มขู่ว่าใครไปแจ้งความจะไม่จ่ายเงินคืน นอกจากนี้ ยังแอบอ้างว่ารู้จักกับตำรวจไซเบอร์ หรือ สอท.บางคน ทำให้ผู้เสียหายเกิดข้อสงสัยกับตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ขณะที่ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 ให้ข้อมูลว่า คดีของผู้เสียหายกลุ่มแรก ได้ส่งสำนวนต่ออัยการแล้ว และทาง ปปง.ยึดทรัพย์เจ้าของบริษัทไว้บางส่วนแล้ว รวมมูลค่าประมาณ 24 ล้านบาท

ส่วนเรื่องที่ผู้ต้องหาแอบอ้างว่ารู้จักกับตำรวจ สอท.เป็นการส่วนตัว ขอชี้แจงว่าไม่เป็นความจริง ยืนยันว่าทำคดีอย่างตรงไปตรงมา โดยที่ผ่านมาได้ส่งสำนวนฟ้องผู้ต้องหาที่เป็นพนักงานในบริษัท 2 คน ต่ออัยการและออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด 4 คน รวมถึง CEO ที่หลบหนีออกนอกประเทศ ขณะนี้ได้ประสานตำรวจสากล ขอหมายแดงเพื่อส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง