เมื่อวันที่ 10 ก.พ.2566 สมาคมมวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ออกมาแสดงจุดยืนอีกรอบ อย่างชัดเจนว่าไม่ส่งแข่ง กุน ขแมร์ แน่นอน พร้อมกับยืนยันว่า สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย ก็จะไม่ส่งแข่งเช่นกัน ส่วน บรูไน กับ ติมอร์เลสเต ไม่มีสมาคมมวยไทยในประเทศ จึงไม่สามารถส่งแข่งเช่นกัน ขณะที่เวียดนาม ยังไม่ตัดสินใจ
ดังนั้นล่าสุด ก็ยังมีเพียง เจ้าภาพกัมพูชา ลาว และเมียนมา เท่านั้น เมื่อศึกษากฎระเบียบของซีเกมส์ (Charter) ระบุชัดว่า ถึงแม้เจ้าภาพ จะมีสิทธิ์บรรจุกีฬาพื้นบ้านเข้าไปได้ แต่ก็มีข้อจำกัด ซึ่ง กุน ขแมร์ ไม่ได้ทำตามระเบียบ แต่เจ้าภาพ เพิ่งจะแจ้งให้ทราบในเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา และถ้าสุดท้ายมีไม่ถึง 4 ประเทศส่งแข่ง กุน ขแมร์ ก็ไม่น่าจัดได้
สเตฟาน ฟ็อกซ์ ซึ่งเป็นเลขาธิการ IFMA สหพันธ์มวยไทยนานาชาติ อธิบายชัดเจนว่า กุน ขแมร์ เป็นกีฬาต่อสู้ ไม่ต่างจาก ยูโด เทควันโด แต่ถ้ากัมพูชาจะผลักดัน กุน ขแมร์ ให้มีความยั่งยืน ต้องทำให้เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ ต้องทำให้กีฬาชนิดนี้ ได้รับการรับรองอย่างถูกต้อง
1. ต้องทำให้ กุน ขแมร์ ได้รับการยอมรับ จาก WADA องค์กรต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก
2. ต้องมีสมาชิกอย่างน้อย 40 ประเทศ
3. ต้องมีการจัดแข่งขันระดับ แชมป์เปียนชิป อย่างน้อย 3 ครั้ง นอกประเทศ
ซึ่งการแข่งขันต้องมีความเป็นธรรม เช่น กรรมการต้องเป็นธรรม มีความปลอดภัยสำหรับนักกีฬา และที่สำคัญ คือ มีการควบคุมการใช้สารต้องห้าม
เส้นทางในการผลักดันกีฬาประจำชาติไปสู่ระดับนานาชาติ โดยเฉพาะโอลิมปิกไม่ใช่ง่าย โดยเฉพาะมวยไทย ที่ใช้เวลาผลักดันสู่โอลิมปิก นานถึง 20 ปี ขั้นแรกของกีฬาทุกชนิด ที่จะไปสู่โอลิมปิก จะต้องเข้าไปเป็นสมาชิกของ สมัชชาสหพันธ์กีฬานานาชาติ ซึ่งใช้เวลาถึง 10 ปี และไทยใช้เวลาอีก 10 ปี กว่าจะเป็นที่ยอมรับ ของคณะกรรมการโอลิมปิกสากล
กว่าที่มวยไทย จะได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง ไทยมีหลายหน่วยงานที่ช่วยกันขับเคลื่อน ทั้ง IFMA เอกชนที่ช่วยกันจัดการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง รวมถึงรัฐบาล ที่เห็นความสำคัญของการทำให้มวยไทยเป็น Soft Power
และ 1 ในนักมวยที่ทรงอิทธิพลด้านมวยไทย อย่าง บัวขาว เป็นที่คลั่งไคล้ของแฟนมวยทั่วโลก จนล่าสุด ได้รับรางวัล นักกีฬาตัวอย่างแห่งทศวรรษ จากการประกาศรางวัล ของสมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย บอกว่า ที่ผ่านมาทำหน้าที่ในการเผยแพร่ศิลปะมวยไทยมาโดยตลอด และภูมิใจอย่างมาก ที่มีส่วนทำให้มวยไทยไปสู่ระดับโลก
อ่านข่าวเพิ่ม :