"จุรินทร์" ยืนยันเงินเฟ้อไทยอยู่ในเกณฑ์ดี ราคาสินค้าเกษตรราคาไม่ตกต่ำ

วันนี้ (วันที่ 15 ก.พ.2566) จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ อภิปรายชี้แจง ในประเด็นเงินเฟ้อ โดยระบุว่าประเทศไทยต้องถือว่าสถานการณ์เงินเฟ้อดีขี้นเป็นลำดับ ซึ่งเงินเฟ้อลดลงซึ่งจากเดือน ม.ค.2566 ที่ผ่านมา เงินเฟ้ออยู่ที่ 6-7% ก็ลดลงมาเหลือ 5% และเมื่อเปรียบเทียบในหลายประเทศ โดยเฉพาะเมื่อต้องเปรียบเทียบกับอัตราเฉลี่ยเงินเฟ้อของโลก

ซึ่งเกิดจากการคาดการณ์ของสถาบันทางการเงินและเศรษฐกิจที่เป็นที่เชื่อถือได้ คือ IMF คาดการณ์ว่าในปี 2566 อัตราเงินเฟ้อของโลกเฉลี่ยอยูที่ 6.5% แต่การคาดการณ์ของประเทศไทยจะเฟ้อแค่ 2.8%

ซึ่งก็เป็นตัวเลขที่ชี้ให้เห็นชัดเจนสถานการณ์เงินเฟ้อของไทยปีนี้ก็จะอยู่ในสถานะที่ดีขึ้น แม้ว่าราคาน้ำมัน ราคาแก๊ส และต้นทุนการผลิตอื่นๆ ปรับลดลงอย่างไม่มีนัยสำคัญ

และถ้าดูตัวเลขเปรียบเทียบกับหลายประเทศในโลกของปีนี้ที่ IMF คาดการณ์ เช่น สปป.ลาว IMF คาดการณ์ว่าจะเฟ้อถึง 9% สหราชอาณาจักร 9% เยอรมัน 7.2% เม็กซิโก 6.3% เป็นต้น

แต่ประเทศไทยอยู่ที่ 2.8% ที่เป็นเช่นนี้ เนื่องจากรัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์ และได้รับความร่วมมือจากเอกชน ซึ่งสามารถที่จะเข้าไปกำกับราคาต้นทุนการผลิตบางอย่าง และสามารถกำกับสถานการณ์ราคาสินค้าที่ที่อยู่ในเกณฑ์ที่ถือว่าดีตามสมควร แม้ว่าราคาแก๊ส ราคาน้ำมัน ราคาค่าไฟ จะปรับลดลงอย่างมีนัยสำคัญไม่ได้ เพราะต้นทุนอันเกิดจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน รวมถึงสถานการณ์อื่นอันเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้ว ยังไม่เป็นที่ยุติ

ซึ่งราคาสินค้าที่ฝ่ายค้านบอกว่าแพงทั้งแผ่นดินนั้น ถ้าไปดูตัวเลขจะพบว่าราคาสินค้าที่ปรับลดลงมีอยู่เยอะมาก อย่างน้อย 58 รายการ

รวมถึงราคาปุ๋ยเคมีที่ทางกระทรวงพาณิชย์เข้าไปดูแก้ปัญหาได้ 2 ข้อ คือ 1. ปุ๋ยไม่ขาดตลาดโดยการนำเข้าจากซาอุดิอาระเบียได้จำนวนหลายแสนตัน 2. ราคาปุ๋ยปรับลดลง แม้ว่าจะไม่ได้ลดลงตามที่เกษตรกรต้องการ

ในกรณีพืชเกษตรตกต่ำ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่จริง เนื่องจากราคาพืชเกษตรเฉลี่ย ดีเกือบทุกตัว โดยเฉพาะพืชเกษตรที่ประกันรายได้ เช่น ข้าวหอมมะลิ ราคาประกันรายได้ อยู่ที่ 15,000 บาท/ตัน และราคา ณ วันที่ 14 ก.พ. ราคาอยู่ที่ 14,400- 14,800 บาท/ตัน ขณะที่ มันสำปะหลังราคาประกันรายได้ 2.50 บาท/กก. และราคา ณ วันที่ 14 ก.พ. ราคาอยู่ที่ 3.10 - 3.45 บาท/กก. รวมถึงปาล์มมัน และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่มีแนวโน้มจะดีขึ้น ด้านราคาผลไม้ ทุเรียน มังคุด ลำไย ราคาดีต่อเนื่อง

ยกเว้นยางพาราที่ราคาหย่อนลงมาอยู่ที่ประมาณ 45-49 บาท/กก. เนื่องจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว รถยนต์ขายยากขึ้น ส่งผลให้ยางพาราราคาตก สถานการณ์โควิดดีขึ้นความต้องการใช้ถุงมือยางลดน้อยลง เพราะฉะนั้นทำให้ราคายางหย่อนลง แต่ด้วยรัฐบาลชุดนี้มีการประกันรายได้ชดเชยเงินส่วนต่างให้กับเกษตรกรชาวสวนยาง

นายจุรินทร์ ยังยืนยันว่าการส่งออกไม่ได้ถดถอย ในทางตรงกันข้ามการส่งออกของไทยในปี 2565 ตัวเลขการส่งออกเป็นบวก 5.5% ทำเงินให้กับประเทศ 9.94 ล้านล้านบาท และในปี 2566 กระทรวงพาณิชย์มีแผนผลักดันการส่งออก