ไม้ยางนาอายุหลายร้อยปี และไม้พะยูงที่รอดพ้นจากขบวนการลักลอบตัดไม้เถื่อน ที่มีมากกว่า 1,400 ต้น ในผืนป่าชุมชนดงทำเลดอนใหญ่ อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด คือความภาคภูมิใจของกลุ่มจิตอาสาพิทักษ์ป่า ที่ทำงานอย่างหนักมานานเกือบ 20 ปี
นายดวงจันทร์ พาลำโกน ประธานเครือข่ายป่าชุมชน จ.ร้อยเอ็ด บอกว่า พวกเขาจับปืน ออกลาดตระเวนทุกวัน ในช่วงปี 2554-2555 เสี่ยงชีวิตปะทะกับขบวนการลักลอบตัดไม้ แต่เพราะความมุ่งมั่นทำงานอย่างหนัก ทำให้สถานการณ์ดีขึ้น แต่ปีนี้ปัญหาเริ่มกลับมารุนแรงอีกครั้ง มีการลักลอบเข้ามาตัดไม้พะยูงเมื่อปลายปี 2565 และชาวบ้านควบคุมตัวผู้ที่กำลังขนไม้ไว้ได้ ก่อนแจ้งตำรวจมานำตัวไปดำเนินคดี

บทบาทการปกป้องผืนป่าของชาวบ้าน ทำให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ โดยเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. จังหวัดร้อยเอ็ด เล็งเห็นถึงความสำคัญ จึงได้ร่วมหารือกับกลุ่มจิตอาสาพิทักษ์ป่า เพื่อร่วมกันจัดตั้งเป็น เครือข่าย STRONG พิทักษ์ป่าและทรัพยากรธรรมชาติ แห่งแรกของจังหวัดร้อยเอ็ด และเป็นแห่งแรกของประเทศ เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าการปกป้องทรัพยากรธรรมชาติ ต้องทำควบคู่กับการเฝ้าระวังและป้องกันการกระทำความผิดของเจ้าหน้าที่รัฐ

ป.ป.ช. ต้องทำคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ที่เจ้าหน้าที่รัฐ หรือ ข้าราชการเข้าไปมีส่วนในการกระทำผิด ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ รุกป่า หรือลักลอบตัดไม้ อย่างต่อเนื่อง อย่างคดีลักลอบตัดไม้พะยูงในสำนักสงฆ์บ้านพยอม ต.ดินดำ อ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด ก็อยู่ระหว่างสอบสวนว่าเจ้าหน้าที่รัฐมีส่วนรู้เห็นหรือไม่
ชาวบ้านที่ปกป้องดูแลป่ายอมรับว่า แม้จะทำหน้าที่ด้วยความเสี่ยง แต่ความปลอดภัยไม่ใช่สิ่งที่พวกเขากังวล พวกเขาอยากเห็นกระบวนการยุติธรรม ที่นำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษได้โดยเร็ว และสาวไปถึงผู้ที่อยู่เบื้องหลังขบวนการค้าไม้พะยูง
ป.ป.ช. จังหวัดร้อยเอ็ด จะขยายการทำงานการดูแลป่าควบคู่กับการเฝ้าระวัง ป้องกันการกระทำความผิดของเจ้าหน้าที่รัฐ ไปยังเครือข่ายป่าชุมชนอีกกว่า 200 เครือข่ายทั่วจังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อให้การทำงานเห็นผลและแก้ปัญหาได้จริง

ต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมาได้ลงพื้นที่พูดคุยกับประธานป่าชุมชนบ้านน้ำคำ อ.ปทุมรัตต์ และสมาชิกเครือข่ายป่าชุมชน เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์การการทำงานอนุรักษ์พื้นที่ป่าไม้ กว่า 1,014 ไร่ มีไม้พยุงในพื้นที่ป่าชุมชนกว่า 1,000 ต้น เป็นพื้นที่ดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์หลายหมื่นตันต่อปี พร้อมได้ตกลงจัดตั้ง STRONG พิทักษ์ป่าและทรัพยากรธรรมชาติ แห่งที่ 2 ขึ้นที่ป่าชุมชนบ้านน้ำคำ เพื่อเป็นต้นแบบการดำเนินการที่มีความสามัคคี มีจิตอาสารักและหวงแหนทรัพยากรธรรมชาติ เป็นต้นแบบการดำเนินการที่เหมาะสม จากนั้นจะขยายเครือข่ายป่าชุมชนที่มีมากกว่า 177แห่งทั่วจังหวัด เพื่อสร้างความเข็มแข็งของเครือข่าย ในอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติให้ยั่งยืนและอยู่ชั่วลูกชั่วหลาน

มีการจัดกิจกรรม สร้างแนวกันไฟ เพื่อลดโอกาสในการเกิดไฟป่า และปลูกฝั่งให้เยาวชนหวงแหนในทรัพยากรธรรมชาติของชุมชนตนเอง และทรัพยากรธรรมชาติภายในป่า เพื่อให้รู้จัดใช้ประโยชน์ร่วมกันกับป่า ทั้งสมุนไพร และผลไม้ป่า
เยาวชนได้ร่วมกิจกรรมสร้างความตระหนักถึงปัญหาการบุกรุกตัดไม้ โดยได้สำรวจร่องรอยการบุกรุกตัดไม้ทำลายป่า เพื่อให้เกิดความหวงแหนและเป็น STRONG พิทักษ์ป่าและทรัพยากรธรรมชาติที่เข็มแข็งในอนาคตต่อ
เป็นการสร้างความเสริมสร้างพลังครือข่ายที่เป็นคณะกรรมการจัดการป่าชุมชน ในพื้นที่เพิ่มความรู้เรื่องของกฎหมายป่าไม้และทรัพยากรธรรมชาติ สามารถเฝ้าระวัง แจ้งเบาะแส เกี่ยวกับทุจริตในพื้นที่ป่าชุมชน
ป่าชุมชนในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด มีทั้งหมด177 แห่ง เนื้อที่ประมาณ 43,370 ไร่ จากพื้นที่ป่าสงวนประมาณ 137,289 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 31.5 ของพื้นที่ป่าสงวน ซึ่งปัจจุบันสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดร้อยเอ็ด ได้ขยายเครือข่ายชมรม STRONG พิทักษ์ป่าและทรัพยากรธรรมชาติได้ 2 แห่ง คือ 1.ป่าชุมชนดงทำเลดอนใหญ่ อ.สุวรรณภูมิ ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 1,200 ไร่ 2.ป่าชุมชนบ้านน้ำคำ อ.ปทุมรัตต์ ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 900 ไร่ รวมพื้นที่ที่เครือชมรมชมรม STRONG พิทักษ์ป่าและทรัพยากรธรรมชาติ กว่า 2,100 ไร่ และจะต่อยอดให้ครบทุกป่าชุมชนเพื่อสร้างเกราะป้องกันป่าไม้และทรัพยากรธรรมชาติ ให้ครอบคลุมทั่งจังหวัด

เกร็ดความรู้...สู้ทุจริต
เรื่อง มาตรการป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์ในที่ดินของรัฐโดยมิชอบ : กรณีปัญหาการบุกรุกและการใช้ประโยชน์ในที่ดินป่าไม้
ที่มา
จากข้อมูลสถิติในปี พ.ศ.2561 ประเทศไทยมีพื้นที่ที่ยังมีสภาพป่าไม้อยู่ทั้งสิ้น 102,212,434.37 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 31.68 ของพื้นที่ประเทศ ในขณะที่ยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี นโยบายป่าไม้แห่งชาติ (เมื่อปี พ.ศ.2562) และแผนพัฒนาเศรษฐกิจสังคมและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 กำหนดเป้าหมายให้มีพื้นที่ป่าไม้ในประเทศ ทั้งป่าอนุรักษ์และป่าเพื่อเศรษฐกิจไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของพื้นที่ประเทศ
ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้เกิดปัญหา และความเสี่ยงต่อการทุจริตเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์ในที่ดินของรัฐโดยมิชอบ กรณีปัญหาการบุกรุกและการใช้ประโยชน์ในที่ดินป่าไม้ ได้แก่ ปัญหานโยบายเพื่อการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินในเขตที่ดินป่าไม้ ปัญหาการปรับปรุงแนวเขตที่ดินของรัฐ ปัญหาด้านการป้องกันและปราบปรามการบุกรุกที่ดินป่าไม้ ปัญหาด้านการอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ที่ดินป่าไม้และปัญหาการขาดความโปร่งใสในการตรวจสอบและการมีส่วนร่วมของประชาชน เป็นต้น
ปัญหาดังกล่าวส่งผลให้ที่ดินป่าไม้และที่ดินของรัฐถูกบุกรุกและใช้ประโยชน์โดยมิชอบมากขึ้น เกิดการจัดสรรทรัพยากรที่ไม่เป็นธรรม รวมทั้งเป็นความเสี่ยงต่อการเปิดช่องและเอื้อประโยชน์ให้นายทุนใช้ช่องว่างในการบุกรุกที่ดินของรัฐ โดยอาจมีเจ้าหน้าที่ของรัฐให้การสนับสนุน หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีเจตนาแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบร่วมกันทุจริต
ป.ป.ช. มีข้อเสนอแนะที่สำคัญ คือ
1. คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ควรบูรณาการหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง จัดทำระบบฐานข้อมูลกลางเพื่อการบริหารจัดการที่ดิน ประกอบด้วย ข้อมูลการถือครองที่ดินและทำประโยชน์ในที่ดินของรัฐในภาพรวมทั้งประเทศ ทั้งกรณีที่มีเอกสารสิทธิและไม่มีเอกสารสิทธิ และข้อมูลการยื่นคำร้องขอเข้าทำประโยชน์ในที่ดินของรัฐทุกประเภท รวมทั้งให้มีการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวต่อสาธารณชนด้วย
2. สนับสนุนและเร่งรัดการดำเนินการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1 : 4000 (One Map) เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปด้วยความเรียบร้อยสำฤทธิผล สามารถบูรณาการแก้ไขปัญหาแนวเขตที่ดินของรัฐให้ชัดเจนและไม่ทับซ้อนกัน และให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ ในฐานะฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) กำหนดแผนการดำเนินงาน และกรอบระยะเวลาการดำเนินการที่แล้วเสร็จ
3. เห็นควรให้หน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่ในการดูแลรักษาที่ดินของรัฐทุกประเภท ปรับปรุงและพัฒนากฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อใช้เป็นเครื่องมือสนับสนุนในการบริหารจัดการที่ดินของรัฐทั้งระบบ ให้สอดคล้องกับบริบทของสังคม และสภาพการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป มีการจัดระเบียบและแก้ไขปัญหาความขัดแย้งเกี่ยวกับการครอบครองหรือใช้ประโยชน์ที่ดินของรัฐอย่างมีส่วนร่วม
4. ปรับปรุงหลักเกณฑ์การอนุญาตให้มีความชัดเจน เพื่อลดปัญหาการใช้ดุลยพินิจของหน้าที่รัฐในการพิจารณา เช่น กรณีการกำหนดคำนิยามคำว่า “ไม่เป็นพื้นที่ป่าที่มีสภาพป่าไม่สมบูรณ์” ตามกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตทำประโยชน์ในเขต พ.ศ. 2558 ให้มีความชัดเจน


แท็กที่เกี่ยวข้อง:
-