"สรรพากร" แจงปรับปรุงแอร์ 200 ล้านพัง-จนท.เปิดพัดลมคลายร้อน

สังคม
29 มี.ค. 66
11:06
4,013
Logo Thai PBS
"สรรพากร" แจงปรับปรุงแอร์ 200 ล้านพัง-จนท.เปิดพัดลมคลายร้อน
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
โฆษกกรมสรรพากร ระบุโครงการจัดซื้อจัดจ้างระบบปรับอากาศ 200 ล้านบาทใช้แค่ 2 สัปดาห์พังแล้ว จนต้องเปิดพัดลมรอบสำนักงาน พร้อมสั่งผู้ชนะประมูลแก้ไขตามสัญญาที่ยังอยู่ในระยะประกัน
แอร์สรรพากร 200 ล้าน ซื้อซอกงัน 25 ราย เข้าบิดกัน 2 รายเบอร์ใหญ่แข่งกับร้านแอร์ ซับง่อยๆ เข้าทำงาน

ข้อความที่ เพจปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน โพสต์ข้อความไปเพียงแค่ 2 ชั่วโมงกว่ามีผู้เข้ามาแสดงความเห็นมากกว่า 420 ครั้งและแชร์ต่ออีก 126 ครั้ง ส่วนใหญ่ต้องการให้ตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว 

ไทยพีบีเอส พบว่าในห้องทำงานเจ้าหน้าที่กรมสรรพากร หลายตัว ถูกนำมาใช้ เพื่อบรรเทาความร้อน หลังระบบเครื่องปรับอากาศชำรุด

กรมสรรพากร ดำเนินโครงการจัดซื้อจัดจ้าง ปรับปรุงเปลี่ยนระบบเครื่องปรับอากาศใหม่ทั้งอาคารสำนักงานใหญ่ วงเงิน 200 ล้านบาท โดยได้ผู้ชนะประมูลรายเล็ก

พร้อมติดตั้งเครื่องปรับอากาศ แบบจ่ายลมเย็นอินเวอร์เตอร์ผ่านท่อลม ขนาด 250,000-600,000 BTU จำนวน 5 ตัวและติดตั้งเครื่องระบายความร้อน ความเย็น เครื่องเติมอากาศ และปรับทิศทางลมอีกกว่า 1,600 ตัว

โดยตรวจรับแล้วเสร็จตั้งแต่ปี 2561 แต่ใช้งานได้เพียง 2 สัปดาห์ ระบบทำความเย็นก็เริ่มขัดข้อง แต่จนถึงตอนนี้ ยังไม่ได้รับการแก้ไข ส่งผลให้เจ้าหน้ากรมฯ กว่าร้อยละ 80 ต้องทำงานในสภาพอากาศร้อน บางส่วนจึงต้องนำพัดลมมาใช้เอง หรือลงขันกันซื้อแอร์ใหม่ติดตั้งในห้องทำงาน

นายวินิจ วิเศษสุวรรณภูมิ รองอธิบดีกรมสรรพากร ในฐานะโฆษกกรมสรรพากร ยอมรับว่า ระบบทำความเย็นในสำนักงานบกพร่อง มีปัญหาจริง และได้มีการสั่งการให้แก้ไขปรับปรุงมาโดยตลอด โดยบริษัทผู้ชนะประมูล ยังคงต้องรับผิดชอบบำรุงรักษา ตามสัญญาจัดซื้อจ้าง ซึ่งยังอยู่ในช่วงระยะเวลาประกัน

พร้อมชี้แจงว่า กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างโครงการดังกล่าว ดำเนินการภายใต้ระบบประมูลอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งกำหนดคุณสมบัติผู้เข้าร่วมประมูลอย่างเปิดกว้าง หากเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด

อีกทั้งในการประมูล ผู้เข้าร่วมประมูล ได้แข่งขันกันเสนอราคา จนกระทั่งบริษัทนี้ สามารถประมูล ได้ต่ำกว่าราคากลาง ซึ่งกำหนด ไว้ประมาณ 300 ล้านบาท แต่บริษัทเสนอราคามาที่ประมาณ 200 ล้านบาท และยังคงอยู่ในระยะประกันที่บริษัทต้องรับผิดชอบให้เป็นไปตามสัญญา

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง