เปิดเคสช่วยชีวิตผู้รับสารพิษไซยาไนด์ใน รพ.แม่สอด

สังคม
27 เม.ย. 66
10:49
1,002
Logo Thai PBS
เปิดเคสช่วยชีวิตผู้รับสารพิษไซยาไนด์ใน รพ.แม่สอด
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
เพจเรื่องเล่าจากหมอชายแดน แชร์ประสบการณ์ผู้ป่วยได้รับสารไซยาไนด์ ที่รับการรักษาที่โรงพยาบาลแม่สอด จ.ตาก พบหัวใจเต้นเร็ว ช็อก ตรวจเลือดพบไซยาไนด์ 3.2 ไมโครกรัม/มิลลิลิตร รักษาหายคาดปนเปื้อนในอาหารหรือสารเคมีในบ้าน

 วันนี้ (26 เม.ย.2566) เพจ “เรื่องเล่าหมอชายแดน” แชร์ประสบการณ์พบผู้ป่วยได้รับสารไซยาไนด์ ที่รับการรักษาที่โรงพยาบาลแม่สอด จ.ตาก โดยข้อมูลบอกเล่าความอันตรายของ “ไซยาไนด์” โดยได้ระบุข้อความว่า วันนี้อยากเล่าเรื่องพิษจากไซยาไนด์ (cyanide poisoning) เพราะมีเหตุการณ์สะเทือนขวัญ น่าจะเป็นคดีระดับโลกได้หากเป็นจริงตามที่สงสัยกันมีการใช้สารพิษไซยาไนด์ในการฆ่าคนกว่า 12 ศพ

เพจเรื่องเล่าหมอชายแดน ระบุว่า ที่โรงพยาบาลแม่สอด ได้เคยวินิจฉัยโรคนี้ได้เมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมา ด้วยความสงสัยของแพทย์ประจำห้องฉุกเฉินของเรา คือ พญ.กมลวรรณ หรือหมอพลอย พบคนไข้หญิงอายุราว 60 ปี ญาติบอกว่าหลังกินข้าวเที่ยงแล้วไปนอนพักที่โซฟานาน 15 นาทีมีอาเจียนรุนแรงและสลบหมดสติไปทันที

อ่านข่าวเพิ่ม ค้นร้านขายยาพี่สาวแอมหาหลักฐานโยง "วางยาไซยาไนด์"

หัวใจเต้นเร็ว-ช็อก-เลือดเป็นกรด

หญิงคนนี้ มาถึงโรงพยาบาลตอน 14.00 น.โดยญาติบึ่งรถยนต์มาจากบ้านใช้เวลา 15 นาที คงมาแบบเร็วสุดเพราะระยะทางก็ไม่ได้ใกล้ ที่ห้องฉุกเฉินคนไข้โคม่า E1V1M1 แต่ยังหายใจเฮือก ไม่ขยับตัวเลยตัวอ่อนปวกเปียก ช็อกความดันต่ำ 80/50 mm.Hg

แพทย์ห้องฉุกเฉินใส่ท่อช่วยหายใจทันที ตอนแรกนึกถึงภาวะ stroke fast tract (โรคหลอดเลือดสมอง ตีบ/แตก) ผลเลือดแย่มากเลือดเป็นกรดรุนแรง pH 6.9 HCO3 7.8 (ค่าความเป็นด่าง) เม็ดเลือดขาวขึ้นมาก 20,000 ค่าแลคเตตซึ่งแสดงว่าอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียรุนแรงมากกว่า 22 เกินเครื่องจะวัดได้ (ปกติน้อยกว่า 2)

อ่านข่าวเพิ่ม อาการ-วิธีการรักษาเมื่อโดนวางยา ไซยาไนด์?

นอกจาก stroke แล้วก็ยังนึกถึงภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดด้วย จึงจัดการส่งเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์สมองพบว่าปกติดี ให้ยาปฏิชีวนะ ให้สารน้ำ ให้ยากระตุ้นความดัน ดูแลแบบผู้ป่วยติดเชื้อในกระแสเลือด ทำ Echo ตรวจหัวใจและอัลตราซาวน์ช่องท้องผลปกติ หัวใจบีบตัวดีมาก

ตอนนั้นหมอพลอย บอกว่าประวัติมันแปลกๆ มันรวดเร็วเกินไป ไม่มีไข้ไม่มีอาการติดเชื้อมาก่อนเลย เหมือนได้รับสารพิษอะไรบางอย่าง จึงโทรศัพท์ปรึกษาศูนย์พิษวิทยาโรงพยาบาลรามาธิบดี ให้ความเห็นว่า ถ้าไม่สามารถแยกโรคพิษจากไซยาไนด์ ได้ให้รักษาเสมือนผู้ป่วยได้รับสารพิษไซยาไนด์ไปก่อนเพราะหากช้าผู้ป่วยจะไม่รอดชีวิต

หมอพลอยจึงรีบให้ยาต้านพิษ ซึ่งโชคดีมากที่โรงพยาบาลแม่สอด นั่นคือ 3% sodium nitrite 10 ml iv push และ 25% Sodium thiosulfate 3 amps iv push 2 ครั้ง แก้ไขภาวะความเป็นกรดด้วยสารละลายด่างชนิดฉีด ต่อมาผู้ป่วยมีภาวะชักจึงได้ให้ยากันชักด้วย

โชคดีที่หัวใจ ของผู้ป่วยยังไม่เป็นไรมีเพียงเต้นเร็วกว่าปกติ ด้วยความพยายามของแพทย์ห้องฉุกเฉินและแพทย์เวรอายุรกรรมในวันนั้นภายใน 12 ชั่วโมง ก็สามารถแก้ไขให้ผลเลือดกลับมาเป็นปกติได้หมด และผู้ป่วยสามารถเอาท่อช่วยหายใจออกได้ในวันรุ่งขึ้น เมื่อผลเพาะเชื้อต่างๆ ไม่พบว่ามีการติดเชื้อแบคทีเรียจึงได้หยุดยาฆ่าเชื้อและสามารถให้ผู้ป่วยกลับบ้านได้ภายใน 5 วัน

ผลการตรวจเลือดที่ส่งตรวจกับทางศูนย์พิษวิทยาโรงพยาบาลรามาธิบดีพบว่ามีสารไซยาไนด์จริงปริมาณ 3.2 ไมโครกรัม/มิลลิลิตร (ค่าปกติ <0.5) โดยเคสนี้คิดว่าได้รับสารไซยาไนด์ที่อาจมีการปนเปื้อนในอาหาร หรือสารเคมีในบ้าน 

อ่านข่าวเพิ่ม วิเคราะห์คดีวางยาไซยาไนด์ กับพฤติการณ์ "ฆาตกรต่อเนื่อง"

พบไซยาไนด์ในมันสำปะหลังดิบ

จากข้อมูลที่ว่าไซยาไนด์ในประเทศไทย เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 ต้องมีใบอนุญาตครอบครองใช้เป็นสารเคมีในอุตสาหกรรมทอง อุตสาหกรรมอิเล็ก ทรอนิกส์ การล้างภาพและพิมพ์เขียว เป็นสารตั้งต้นในการผลิตยาเสพติดบางชนิด (ยาบ้า) เป็นสินค้านำเข้าของเมียนมา โดยผ่านทางไทย (เคยเป็นข่าวมาก่อนหน้านี้)

นอกจากนี้ยังปนเปื้อนอยู่ในอาหารบางชนิดเช่น มันสำปะหลังดิบ หน่อไม้ดิบ ถั่วบางชนิด ก่อนหน้านี้ก็เคยมีคนไข้ชาวสวนกินมันสำปะหลังดิบแล้ววูบมาโรงพยาบาลแต่อาการไม่ถึงตายเพราะอาจจะได้รับเข้าไปเล็กน้อย

อยากให้ประชาชนทุกคนรับรู้ถึงพิษของมันและระมัดระวังในการรับประทานอาหาร หรือน้ำที่อาจจะมีสารไซยาไนด์ปนเปื้อน หรือสูดดมอากาศที่มีไซยาไนด์ระเหย หากประมาทถึงตายได้

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ส่ง "แอม" เข้าเรือนจำไร้คนประกัน-ค้นบ้านหาหลักฐานคดีวางยา

"บิ๊กโจ๊ก" สรุป 11 ชีวิตโยงคดีวางยาไซยาไนด์ สอบปากคำผู้รอดคนที่ 12

ข่าวที่เกี่ยวข้อง