"ไอซ์ ปรีชญา" ร่ำไห้ ยอมรับผิดสั่งซื้อไซยาไนด์ เสียใจถูกโยงผู้จัดการ

อาชญากรรม
5 พ.ค. 66
14:23
4,884
Logo Thai PBS
"ไอซ์ ปรีชญา" ร่ำไห้ ยอมรับผิดสั่งซื้อไซยาไนด์ เสียใจถูกโยงผู้จัดการ
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
“ไอซ์ ปรีชญา” ร่ำไห้กลางรายการโหนกระแส ยอมรับสั่งไซยาไนด์จากออนไลน์ เพื่อกำจัดสัตว์มีพิษ-ตัวเงินตัวทองในบ้าน ชี้รู้เท่าไม่ถึงการณ์พร้อมขอโทษ-ขอให้เป็นคดีตัวอย่าง เตรียมเข้าพบตำรวจข้อหาครอบครองสารอันตราย เสียใจถูกโยงผู้จัดการ

กรณีนางเอกดังระดับร้อยล้าน "ไอซ์" ปรีชญา พงษ์ธนานิกร มีรายชื่อว่าสั่งซื้อสารไซยาไนด์ ซึ่งนางบังอร แม่ของไอซ์ ยอมรับลูกสั่งซื้อสารไซยาไนด์ในราคากว่า 3,000 บาท ระบุจะนำไปกำจัดสัตว์เลื้อยคลานมีพิษ และส่งหลักฐานให้ตำรวจ

วันนี้ (5 พ.ค.2566) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า “ไอซ์” ปรีชญา พร้อมแม่ ได้ออกรายการโหนกระแสของหนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย โดยไอซ์ ยอมรับว่าสั่งสารไซยาไนด์มาจากออนไลน์จริง โดยจากก่อนหน้านี้นั่งดูข่าวกับแฟนที่เป็นชาวชาวสวิตเซอร์แลนด์ และยังคุยกันว่าสารไซยาไนด์ เป็นสารอันตราย ซึ่งแฟนยังบอกว่าเป็นของผิดกฎหมายในต่างประเทศห้ามเด็ดขาด


ไอซ์ บอกว่า ตัวเองได้แย้งไปว่านี่ประเทศไทย และสามาถสั่งได้ แต่แฟนไม่เชื่อและยังคิดว่าคงไม่มีขายในออนไลน์ แต่เมื่อลองเสริจพบว่ายังมีวางขาย จึงลองสั่งดูก็พบว่ามีสารตัวนี้ขายอยู่จริง โดยมีใบสั่งซื้อโพแทสเซียมไซยาไนด์ ไปเมื่อ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา ราคา 3,132 บาท หลังจากนั้นคิดว่าจะโดนหลอก เพราะพอโอนเงินไปแล้ว แต่ 2 วันถัดมาก็มีพัสดุมาส่งที่บ้าน

อีก 2 วัน พอกลับมาเห็นแล้วตกใจ เพราะเป็นขวดเดียวกับที่เห็นในภาพข่าว ตอนนั้นก็ไม่กล้าแกะ และยังบอกกับแม่ว่าสั่งได้ ยอมรับรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และอยากให้เป็นกรณีตัวอย่างว่าเป็นสารอันตรายและผิดกฎหมาย ยอมรับว่าไม่รู้ว่าเป็นสารอันตราย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การออกรายการครั้งนี้ ไอซ์ถึงกับร้องไห้ และยกมือขอโทษกลางรายการ หลังจากมีข่าวเรื่องนี้ เนื่องจากมีการโยงไปถึงอดีตผู้จัดการที่เสียชีวิต ซึ่งเธอยอมรับว่าพูดไม่ออกที่มีข่าวลักษณะการโยงแบบนี้ออกมา และทางเพจเขียนชื่อย่อ โยงว่าผู้จัดการเสียชีวิตในช่วงเวลาเดียวกับผู้เสียชีวิตในคดีของแอม ซึ่งรู้สึกแย่มาก

ไอซ์ ยืนยันว่า ตัวเองไม่มีเจตนาใช้สารไซยาไนด์ใด ๆ เพื่อทำร้ายตัวเอง เพราะเคยมีข่าวเรื่องซึมเศร้า และไม่ได้ป่วยจนถึงขั้นที่จะทำร้ายตัวเอง แต่สั่งซื้อเพื่อนำมากำจัดสัตว์เลื้อยคลานที่มาทำร้ายสัตว์เลี้ยงในบ้าน

รู้สึกไม่ดีและขอโทษสังคม ขอให้เป็นกรณีตัวอย่าง อย่าสั่งสารพวกนี้เพราะจะมีความผิด จากนี้จะต้องไปรับทราบข้อกล่าวหาเพราะสั่งซื้อและถือว่ามีสารพิษไว้ในครอบครอง

ขณะที่นางบังอร แม่ของไอซ์ เล่าถึงความจำเป็นในการสั่งซื้อไซยาไนด์ ว่า บ้านหลังนี้อยู่มานานแล้ว เป็นหลังริมสุดติดกำแพงและมีคลองข้างบ้าน จากนั้นมีโครงการจัดสรรมาสร้างใหม่และช่วงที่ตอกเสาเข็ม ทำให้บ้านของตนเองทรุดจนเกิดโพรง ส่วนอีกฝั่งหนึ่งเกิดรอยร้าว ตนเองจึงตัดสินใจทุบกำแพงด้านข้างบางส่วน ทำให้เกิดรูและช่องต่าง ๆ จนมีตัวเงินตัวทอง และงูเข้ามาในบ้าน

แม่ไม่ทราบมาก่อนว่าตัวเงินตัวทองเป็นสัตว์สงวน ทำอะไรเขาไม่ได้ ทุกวันนี้อยู่ด้วยความกลัว

ระหว่างการให้สัมภาษณ์ได้มีการเปิดคลิปขณะตัวเงินตัวทองเข้ามาในสนามหญ้าของบ้าน และมีสุนัขที่เลี้ยงไว้เห่า

นางบังอร เล่าว่า ตัวเงินตัวทองมีทั้งตัวแม่อยู่ใต้ฝาบนหลังคา และตัวลูกเข้ามาในสนามหญ้า เคยกินแมวที่เลี้ยงไว้ นอกจากนี้ สุนัขที่บ้านยังเคยถูกงูเห่ากัดตาย รวมทั้งยังมีงูเหลือมเข้าบ้าน ส่วนไอซ์ก็เคยถูกตะขาบกัดต้องไปโรงพยาบาล

ตนเอง พร้อมกับไอซ์ ได้ไปลงบันทึกประจำวันที่ สน.บางเขน เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ หลังสั่งซื้อไซยาไนด์ แต่ยังไม่ได้เปิดขวดใช้ โดยไม่ทราบว่าสารดังกล่าวผิดกฎหมาย และไม่ทราบว่าฆ่าตัวเงินตัวทองไม่ได้ เพราะเป็นสัตว์สงวน ซึ่งพนักงานสอบสวนยังระบุไว้ท้ายบันทึกประจำวันว่ามารับคืนเมื่อใดก็ได้

ก่อนหน้านี้ เคยใช้วิธีป้องกันสัตว์เลื้อยคลานและสัตว์มีพิษดังกล่าว ด้วยการใช้ชอล์กขีดบริเวณโดยรอบ แต่ไม่ได้ผล

นางบังอร กล่าวว่า ข่าวดังกล่าวกระทบกับงาน และไอซ์ถูกยกเลิกงาน แต่มีเพจหนึ่งนำรูปผู้จัดการของไอซ์ที่เสียชีวิตไปนานแล้วมาเชื่อมโยงข่าวนี้ ยืนยันว่า ซื้อไซยาไนด์เป็นครั้งแรกและยังไม่ได้เปิดใช้ ขณะนี้สารดังกล่าวอยู่กับตำรวจ

แม่ไม่รู้จริง ๆ ว่ามีไว้ในครอบครองจะผิดกฎหมาย แต่แม่ก็สัตว์มีพิษพวกนี้ เจตนาอยากให้ทุกคนมองน้องและครอบครัวของเราเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ยินดีจะให้ปากคำกับตำรวจ และฝากเรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์

ทั้งนี้ คาดว่าจะเข้าชี้แจงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันศุกร์ที่ 12 พ.ค.นี้

ขณะที่ทนายความ ระบุว่า แม่และไอซ์ทำถูกทางแล้ว ที่นำไซยาไนด์ไปมอบให้พนักงานสอบสวน แต่กฎหมายจะอ้างว่าไม่รู้ไม่ได้ ซึ่งพนักงานสอบสวนบางคนก็ยังไม่ทราบด้วยซ้ำว่าไซยาไนด์มีไว้ในครอบครองไม่ได้ ถึงระบุตอนท้ายบันทึกประจำวันว่า "ขอส่งมอบสินค้าดังกล่าวไว้ให้พนักงานสอบสวนเก็บรักษาไว้ก่อน"

สำหรับบทลงโทษการครอบครองไซยาไนด์ วัตถุอันตรายชนิดที่ 3 ตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ศ.2535 ผู้ใดผลิต นำเข้า ส่งออกหรือมีไว้ครอบครอง โดยมิได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง