วันนี้ (25 ต.ค.2566) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เปิดเผยถึงกรณีมาตรการช่วยเหลือแรงงานไทยในอิสราเอลเพิ่มเติม ว่า ตนเองเชื่อว่าจะเป็นไปในทางที่ดี และจะเปิดเผยรายละเอียดในวันพรุ่งนี้ (26 ต.ค.) แต่เบื้องต้นการประสานเจรจายังไม่จบ และข้อเสนอที่รัฐบาลได้เตรียมไว้นั้นยังไม่ได้ข้อยุติ เนื่องจากขณะนี้ประเมินสถานการณ์แล้วยังคงเลวร้ายอยู่ ซึ่งการปฏิบัติการภาคพื้นดินคาดว่าจะมาในเร็ววันนี้ ส่วนนายจ้างยังใช้กุศโลบายให้เงินเพิ่ม โดยจ่ายค่าแรงในวันที่ 10 พ.ย. ซึ่งทางไทยก็กำลังรอคำตอบจากทูตอิสราเอลว่าจะดำเนินการในเรื่องนี้อย่างไร
นายเศรษฐา กล่าวว่า รับทราบมาว่าแรงงานไปกู้เงินเพื่อเป็นการจ่ายค่านายหน้า 100,000-150,000 บาท หากแรงงานกลับมาแล้วไม่ได้เงิน ก็จะเกิดปัญหาต้องใช้หนี้ต่อไป ทางกระทรวงการคลัง ได้เสนอว่าธนาคาร ธ.ก.ส.จะเปิดให้กู้จำนวนเงิน 150,000 บาท เพื่อให้แรงงานนำไปใช้หนี้กับบริษัทและนายหน้า หรือเจ้าหนี้ โดยให้ผ่อนระยะยาว 20-30 ปี ดอกเบี้ย 0.1% หากคิดเป็นรายเดือน คือ 600 บาท
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลต้องไปพิจารณาอีกครั้ง เพราะหากเปลี่ยนเป็น 30 ปี ดอกเบี้ยก็จะลดต่ำลงอีก และยอมรับว่าอาจเกิดคำถามกรณีแรงงานไม่ได้ทำงานด้านการเกษตร ธนาคารจะปล่อยกู้ได้หรือไม่ เพราะอาจไม่เข้าเงื่อนไข ซึ่ง รมช.คลัง เสนอว่าจะให้ธนาคารออมสินช่วยดูแลในส่วนที่เหลือ แต่ทั้งหมดนี้ยังไม่ได้ข้อยุติ และอาจมีการเปลี่ยนแปลง แต่จะหาข้อสรุปให้ได้โดยเร็ว
หวังว่าแรงงานหากได้ฟัง ก็ขอให้สบายใจว่ารัฐบาลไทยจะไม่ทอดทิ้ง รวมถึงญาติพี่น้องแรงงานที่อยู่ในต่างจังหวัดอยากให้บอกกับแรงงานไทยให้กลับมา เนื่องจากสถานการณ์จะเลวร้ายลงไปอีกเยอะ
นายเศรษฐา ยังฝากถึงแรงงานไทยในอิสราเอลให้ตัดสินใจเดินทางกลับประเทศ เพราะจากนี้เมื่อมีปฏิบัติการภาคพื้นดิน ถนนถูกตัดขาด สนามบินไม่สามารถใช้ได้ จะกลับมาได้อย่างไร