วาเลนไทน์...ใครแคร์ ? ฟื้นฟูอาการอกหัก-ฝึกรักตัวเองให้เป็น

ไม่ใช่เรื่องเกินจริงถ้าจะบอกว่า "การอกหัก" เป็นความเจ็บปวดทางใจอย่างหนึ่ง และก็ไม่ใช่เรื่องแปลกถ้าหลายคนจะลืมใครสักคนไม่ได้ ยังไงเสียเราทุกคนก็ต้องเผชิญกับการอยู่คนเดียวในช่วงหนึ่งๆ ของชีวิต ลองเรียนรู้วิธีการเอาชนะและฟื้นตัวจากอาการอกหักไปพร้อมๆ กันดูนะ

อ่าน : เคล็ดวิธีรับมือ เมื่อมนุษย์เงินเดือน "ถูกเลิกจ้าง-ตกงาน" กะทันหัน

สะบัดความคิดแย่ๆ ออกไปซะ

"ไม่มีใครในโลกนี้ที่จะสามารถเติมเต็มช่องว่างในหัวใจได้เท่ากับอดีตคนรัก"
"ฉันคงไม่มีวันเจอใครที่ดีแบบนี้อีกแล้ว"
"ไม่มีใครรักฉันอีกต่อไป"

เป็นเรื่องปกติกับคนที่เพิ่งอกหักจะมีความคิดแบบนี้!

อ่าน : เที่ยว "กัลยาณิวัฒนา" อำเภอลำดับที่ 25 ของเชียงใหม่ 878 ของไทย

ในช่วงเวลาแห่งความสิ้นหวัง เราทุกคนจะรู้สึกว่าต่อจากนี้ชีวิตคงไม่มีอะไรดีๆ เกิดขึ้นอีก คงจะไม่มีใครมารักฉันอีกแล้ว และฉันก็จะต้องเหงาตลอดไป แต่ข้อเท็จจริงคือ ทุกคนรู้สึกแบบนั้นได้ แต่ไม่ได้หมายความว่า มันเป็นเรื่องจริง! ยิ่งคิดลบมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเพิ่มภาระให้กับสมองมากขึ้น

ยอมรับ มันจบแล้วจริงๆ

การเอาชนะความเจ็บปวดจากการอกหัก ต้องเริ่มมองว่า "สถานะโสด" เป็นโอกาสใหม่ที่น่าสนุกสนาน มากกว่าการโทษว่าเป็นความผิดของใครสักคน

ก้าวแรกสู่อนาคตที่สดใสครั้งใหม่คือ การยอมรับว่าในที่สุดสถานะคนรักกลายเป็นอดีตไปแล้วและจะไม่มีทางกลับมาอีก

การเผชิญหน้ากับความเศร้าโศกและปล่อยให้ตัวเองร้องไห้จากการสูญเสียทั้งทางด้านอารมณ์ ความหวัง และอนาคต เป็นกระบวนการที่เจ็บปวดมากก็จริง แต่ยิ่งฟื้นตัวไวมากเท่าไหร่ เราจะแทบไม่เชื่อเลยว่าความรู้สึกช่วงเวลาเศร้ามันเป็นยังไง

ยิ่งพูด ยิ่งเบื่อ ยิ่งลืมไว

สเต็ปต่อไปคืออาจจะต้องขอความช่วยเหลือจากการเพื่อนสักหน่อย การระบายความรู้สึกโศกเศร้า หรือความหม่นหมองในใจ จะยิ่งทำให้ลืมความเจ็บปวดได้เร็วยิ่งขึ้น การพูดเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ความรู้สึกดีขึ้น เพราะจะทำให้เรารู้สึกเบื่อที่จะต้องพูดแต่เรื่องซ้ำซาก เดิมๆ จนกระทั่งเจ็บปวดค่อยๆ หมดอำนาจเหนือเรา แล้วเราก็จะฟื้นตัวไวขึ้น

แต่ใครที่รักการอยู่คนเดียว ในช่วงเวลาวิกฤติที่ต้องเผชิญหน้าเพียงลำพังเช่นนี้ การดูแลตัวเองเป็นสิ่งสำคัญ ลองแช่น้ำอุ่นสร้างบรรยากาศกลิ่นหอมอบอวล ทำให้คลายเครียดและความกังวลใจ เปิดดนตรีคลอเบาๆ จากนั้นให้รางวัลกับตัวเองด้วยมื้ออาหารอร่อยๆ ส่วนช่วงกลางวันก็หาเวลาออกกำลังกาย ที่จะช่วยยกระดับอารมณ์ เพิ่มสารเคมีแห่งความสุข (เอ็นโดรฟิน) ในสมอง ทั้งหมดนี้คือการส่งข้อความที่สำคัญมากๆ ไปยัง "สมอง" ว่าเรากำลังดูแลตัวเอง และเราควรค่าแก่การใส่ใจด้วย

LEARN

นักบำบัดจิตคิดค้นคำย่อ LEARN ขึ้นมา ซึ่งมันสามารถช่วยผู้คนนับไม่ถ้วนให้ทิ้งอดีตไว้ข้างหลังและก้าวไปสู่ความสุขใหม่ในชีวิต

L - List
เขียน "ข้อเสีย" ของอดีตคนรัก อาจจะเริ่มจากเล็กๆ ไปก่อนก็ได้ แต่เชื่อสิ! ผ่านไปสักเดือนหนึ่ง ลิสต์ต่างๆ นั้นจะเริ่มยาวขึ้นเรื่ยๆ จนต้องขอกระดาษเพิ่ม
E - Experience
หลังจากความสัมพันธ์จบลง คนมักจะคิดว่า จะไม่สามารถถูกรักได้อีกต่อไป แม้ไม่ใช่เรื่องจริง แต่คนทุกคนก็คิดว่ามันคือเรื่องจริง จริงๆ การเปิดโอกาสรับความรักใหม่ๆ ที่ไม่ใช่จากคนรักเก่า เป็นสิ่งที่ย่อมทำได้ และคุณจะพบว่าความรักครั้งใหม่อาจเป็นประสบการณ์ที่ดีพอๆ กัน และอาจจะดีกว่าด้วยซ้ำ
A - Appreciation
การชื่นชมตัวเองคือสิ่งสำคัญมาก ให้เขียน 50 สิ่งที่คุณชอบในตัวเอง วิธีนี้อาจใช้เวลาบ้างแต่เป็นแบบฝึกหัดที่คุ้มค่า ใจดีกับตัวเองให้มากในวันที่ไม่มีคนใจดีอยู่ข้างกายเหมือนเดิมอีกแล้ว
R - Reorganising
จัดระเบียบชีวิตใหม่ คู่รักที่จบความสัมพันธ์กันไป อาจใช้เวลาสักพักกับการเริ่มต้นความสัมพันธ์ครั้งใหม่ การเปิดโอกาสให้ชีวิตได้เจอโลกใบใหม่ จัดระเบียบ ตารางเวลาชีวิตใหม่ด้วยการหากิจกรรมใหม่มาทดแทนเรื่องเก่าๆ ยิ่งสร้างความภาคภูมิใจให้ตัวเอง และทำให้รู้สึกถึงความเคารพตนเองที่สูงขึ้น
N - No Relationship With Ex
เมื่อคู่รักที่เคยแยกทางกันเป็นเวลาหลายเดือน แฟนเก่าของคุณอาจตัดสินใจ "กลับมา" แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม สิ่งจำเป็นที่ต้องจำให้มั่นเลยคือ "ห้ามมีความสัมพันธ์กัน" เหมือนตอนที่ยังรักกันอยู่ นักบำบัดจิตชาวอเมริกันชี้ชัดว่า ความใกล้ชิดที่เกิดจากการกลับมาทักทายกันในช่วงเวลาสั้นๆ คือต้นตอปัญหาที่จะนำความโศกเศร้าและความสับสนมาให้ในภายหลัง
ดังนั้น หากทั้ง 2 ฝ่ายยังคิดถึงกันอยู่และอยากให้โอกาสกันและกัน ให้ตัดสินใจด้วยสมอง
อย่าใช้หัวใจ ความเหงา เป็นตัวตัดสิน

ท้ายที่สุด ความสัมพันธ์ที่สิ้นสุดลงจะสร้างความเจ็บปวดซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่ภายในใจ แต่ถ้าไม่เรียนรู้ที่จะซ่อมความรู้สึกตัวเองและลุกขึ้นเดินต่อไปให้ได้ "ด้วยตัวเอง" บาดแผลที่เกิดขึ้นในใจจะยิ่งขยายกว้างและลึกลงไปเรื่อยๆ เกิดเป็นความเจ็บปวดที่ไม่มีวันหายไป จนทำให้สูญเสียการเคารพและรักตัวเอง