ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

แก้ภัยแล้ง-แย่งน้ำ "บึงบอระเพ็ด" ลดขัดแย้ง "ชาวนา-ชาวประมง"

ภัยพิบัติ
16:11
1,130
แก้ภัยแล้ง-แย่งน้ำ "บึงบอระเพ็ด" ลดขัดแย้ง "ชาวนา-ชาวประมง"
อ่านให้ฟัง
10:36อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
กางแผนแก้ความขัดแย้งที่ดิน - น้ำ "บึงบอระเพ็ด" แบ่ง 3 โซน "ให้-หวง-ห้าม" แก้ปัญหาชาวบ้านในพื้นที่ 6 ตำบลบึงบอระเพ็ด ตั้งองค์กรผู้ใช้น้ำร่วมเข้าใจ-แก้ปัญหาจัดสรรน้ำอย่างเข้าใจ

"บึงบอระเพ็ด" เป็นบึงน้ำขนาดใหญ่ราว 130,000 ไร่ เป็นทั้งแหล่งน้ำและพื้นที่ทำกิน บนพื้นที่ 3 อำเภอใน จ.นครสวรรค์ คือ อ.เมืองนครสวรรค์ อ.ชุมแสง และ อ.ท่าตะโก มีประชาชนใช้ประโยชน์ในพื้นที่ 5 ตำบล ได้แก่ ต.ทับกฤช ต.เกรียงไกร ต.พระนอน ต.พนมเศษ และ ต.วังมหากร

ที่ผ่านมา "บึงบอระเพ็ด" มีปัญหาสะสมหลายด้าน ทั้งขอบเขตบึงไม่ชัดเจน การบุกรุกพื้นที่ การใช้ประโยชน์พื้นที่ทับซ้อน สิ่งแวดล้อมที่เสื่อมโทรม การบริหารจัดการที่ไม่เป็นเอกภาพ และความไม่เข้าใจกันของทุกภาคส่วน กระทั่งปี 2562 คณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบแผนหลักการพัฒนาและฟื้นฟูบึงบอระเพ็ด จ.นครสวรรค์

อ่านข่าว : อบจ.นครสวรรค์ พร้อมรับมือ "ภัยแล้ง" เฝ้าระวังแล้งหนัก 6 อำเภอ

แก้ปัญหาบุกรุกเปิดให้เช่าอยู่อาศัย-ทำการเกษตร

นายณพล อนุตตรังกูร หัวหน้าศูนย์วิจัยและบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตนครสวรรค์ กล่าวว่า  แนวทางในการแก้ไขปัญหาของพื้นที่บึงบอระเพ็ด เริ่มดำเนินการใน 3 ช่วง คือ ปี 2557-2562 จะเป็นการแก้ไขปัญหาที่ดิน ต่อมาในช่วงปี 2564-2566 จะเป็นการแก้ปัญหาจัดการน้ำ และในช่วงปี 2567-2569 จะเป็นการพัฒนาอาชีพ

การจัดสรรที่ดินเหมือนเป็นกระดุมเม็ดแรก ในการแก้ปัญหาที่ดิน ในพื้นที่บึงบอระเพ็ด เพราะชาวบ้านได้ใช้ประโยชน์ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย

ตั้งแต่ มติ ครม.ปี 2562 และได้รับงบประมาณในการบริหารจัดการปัญหาเรื่องที่ดินบริเวณบึงบอระเพ็ด จ.นครสวรรค์ ทำให้ชาวบ้านที่อยู่ในฐานะผู้บุกรุก ในอดีต ได้สถานะเป็นผู้เช่าที่ดิน และมีการโซนนิ่งบึงบอระเพ็ดเป็น 3 เขต คือ 1.เขตห้าม 2.เขตหวง 3.เขตให้โดยมีมาตรการที่แตกต่างกัน ดังนี้

1.เขตห้าม เป็นพื้นที่ห้ามชาวบ้านใช้ประโยชน์อย่างเด็ดขาด ถือเป็นพื้นที่ไข่แดงของบึงบอระเพ็ด 2.เขตหวง ประชาชนสามารถเช่าได้ในรูปแบบปีต่อปีโดยสามารถทำการเกษตรได้อย่างเดียว และ 3.เขตให้ “สีเขียว” สามารถเช่าได้ระยะเวลา 3 ปี ทั้งการอยู่อาศัยและเกษตรกรรรม

ปัญหาที่ดินทำกิน ปัจจุบันแก้ไขปัญหาหมดเรียบร้อยแล้ว เพราะที่ผ่านมา เมื่อน้ำลดจะมีที่ดินโผล่ เช่น เมื่อน้ำในบึงบอระเพ็ดลดลง 1 เมตร จะมีที่ดินโผล่ขึ้นเป็นพันไร่ เพราะกายภาพของบึงบอระเพ็ดมีลักษณะคล้ายกับจานข้าว เมื่อน้ำลดดินจะโผล่มาเยอะ ทำให้ในอดีตจะมีการบุกรุกเป็นจำนวนมาก เมื่อน้ำท่วมก็เขยิบออกมา เมื่อน้ำลงก็บุกรุกเข้ามา

ดังนั้นจึงทำให้ ณ วันนี้ ไม่มีการบุกรุกพื้นที่บึงบอระเพ็ดแล้ว และจากการพูดคุยทำให้จากผู้บุกรุกกลายเป็นผู้ร่วมพัฒนา ชาวบ้านก็รู้สึกยินดีสามารถเป็นผู้เช่าได้จึงช่วยทำให้ปัญหาการบุกรุกเป็นศูนย์ อย่างไรก็ตาม เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงบอระเพ็ด จ.นครสวรรค์ ก็ยังคงดูแลการบุกรุกและการใช้ที่ดินด้วย

ตั้ง “องค์กรผู้ใช้น้ำ” แก้ปัญหาแย่งน้ำทำนา 6 ตำบล

หัวหน้าศูนย์วิจัยและบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตนครสวรรค์ ยังกล่าวว่า เมื่อแก้ปัญหาที่ดินแล้ว ก็จะแก้ไขปัญหาการจัดการน้ำ ที่ผ่านมา มีข้อขัดแย้งในการใช้น้ำระหว่างชาวนาและชาวประมง เนื่องจากในช่วงที่ราคาข้าวดีชาวนาก็สูบน้ำไปทำนา ทำให้น้ำในบึงบอระเพ็ดลดลงและส่งผลกระทบ

เนื่องจากปัญหาน้ำมีจำกัด แต่มีการใช้จากเกษตรกรหลายกลุ่ม โดยชาวบ้านในพื้นที่ ต.เกรียงไกร จะเลี้ยงปลา ต.ทับกฤช ต.พนมเศษ ต.วังมหากร และ ต.พระนอน จะทำนาทั้งหมด ทำให้เกิดการแย่งน้ำในลำคลองสาขาในพื้นที่ของแต่ละตำบล และตำบลเดียวกัน

ที่ผ่านมาไม่มีการคุยกัน จึงเกิดความขัดแย้งกัน และกดดันกับภาครัฐ ซึ่งสร้างความหนักใจให้กับภาครัฐ

ต่อมาจึงมีการจัดตั้ง "องค์กรผู้ใช้น้ำ" เป็นตัวแทนของผู้ใช้น้ำรอบบึงบอระเพ็ดทั้ง 6 ตำบล จากนั้นขึ้นทะเบียนการบริหารจัดการน้ำ ร่วมกับเครือข่ายบึงบอระเพ็ด โดยองค์กรผู้ใช้น้ำจะรับทราบปัญหาของแต่ละพื้นที่ และสถานการณ์น้ำ จนนำไปสู่การพูดคุย เพื่อหาทางออกในการจัดการน้ำในแต่ละพื้นที่ร่วมกันทั้งหมด 6 ตำบล

นายณพล ยังกล่าวว่า พื้นที่รอบบึงบอระเพ็ดส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำนา และเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำซึ่งไม่เยอะมาก แต่เรื่องของน้ำอุปโภคและบริโภคจะถูกจัดลำดับความสำคัญให้อยู่ในลำดับแรก

เมื่อก่อนมีม็อบ วันนี้อยากให้เปิดประตูระบายน้ำ อีกวันอยากให้ปิดประตูระบายน้ำ แต่วันนี้ปลดล็อกไปแล้ว เพราะเกิดการคุยกัน การรับรู้ข้อมูล และมีองค์กรผู้ใช้น้ำเป็นด่านแรกในการพูดคุยในตำบลก่อนเพื่อแก้ไขปัญหาและนำมาสู่การพูดคุยในวงที่ใหญ่ขึ้น

ในวงของ 6 ตำบล ที่มีองค์กรผู้ใช้น้ำ และมีภาครัฐ และหน่วยงานต่าง ๆ ที่เป็นกรรมการร่วมกัน คุยกันเพื่อหาแนวทางแก้ไขต่อไป เราเป็นหนึ่งเดียว แก้ไขปัญหาไปได้มาก และเป็นโอกาสอันดีในการรับงบประมาณ

อ่านข่าว : จระเข้น้อย NEW GEN คืนถิ่น"บึงบอระเพ็ด" ในรอบ 7 ปี

นอกจากนี้ จะนำไปสู่การขับเคลื่อนทางกฎหมาย โดย พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า จะมีเรื่องของการใช้น้ำที่เมื่อทำให้น้ำเหือดแห้ง และส่งผลกระทบต่อสัตว์ป่า จะมีโทษทั้งจำและปรับ ซึ่งจะนำมาผลักพูดคุยหารือกันเพื่อนำไปสู่การจัดทำกฎหมายลูกของเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงบอระเพ็ดด้วย

ปัจจุบันรอบบึงบอระเพ็ดน้ำเต็ม เพราะมีการขุดลอกคลองและสำรองน้ำ ซึ่งน้ำกินน้ำใช้ต้องใส่ให้เต็ม และน้ำเพื่อการเกษตร และการป้องกันสาธารณภัย โดยทดลองนำเฮลิคอปเตอร์ไปดับไฟป่า หรือ การบรรเทาสาธารณภัย และน้ำรักษาระบบนิเวศ

เสนอทำ ปตร.“วังหมาเน่า” ช่วยพื้นที่ตอนบน “บึงบอระเพ็ด”

หัวหน้าศูนย์วิจัยและบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตนครสวรรค์ กล่าวว่า ทางคณะทำงานของมหิดล ยังมีข้อเสนอเชิงพื้นที่ เพื่อพัฒนาพื้นที่ตอนบนของบึงบอระเพ็ด เพื่อลดการใช้น้ำบึงบอระเพ็ด โดยผลักดันโครงการประตูระบายน้ำวังหมาเน่า กั้นแม่น้ำน่านเพื่อยกระดับน้ำเข้าคลองสาขา (คลองปลากด) โดยจะช่วยให้ชาวบ้านด้านบนของบึงบอระเพ็ด จะสามารถสูบน้ำได้ใกล้กว่าเดิมและมีน้ำหล่อเลี้ยง ขณะที่คนข้างล่างก็พอใจเพราะไม่ต้องใช้น้ำบึงจากบึงบอระเพ็ด 

รวมถึงพัฒนาโครงการข่ายน้ำให้ไหลเชื่อมโยงทุกพื้นที่ตอนบน (ต.ทับกฤช ต.วังใหญ่ ต.ไผ่สิงห์ ต.พนมเศษ ต.พนมรอก และ ต.วังมหากร)

นอกจากนี้จะเสนอเปิดพื้นที่ชลประทาน บริเวณตอนบนของบึงบอระเพ็ด เพื่อใช้น้ำจากแม่น้ำน่าน เป็นต้นทุน และลดการใช้น้ำจากบึงบอระเพ็ด และพัฒนาการขุดคลองสาขา เพื่อระบายน้ำลงสู่บึงบอระเพ็ด

อ่านข่าว : เช็กสัญญาณแล้ง 4 เขื่อนใหญ่ "ป่าสักชลสิทธิ์" น้ำเหลือแค่ 15% 

และพัฒนาคลองส่งน้ำตรงจาก ต.ทับกฤช สู่ ต.พนมเศษ ต.วังมหากร และ ต.พระนอน จัดทำแก้มลิงในลำคลองสาขาที่ลงสู่บึงบอระเพ็ด เพื่อเป็นแหล่งน้ำอุปโภค บริโภค

รวมถึงสร้างสถานีสูบน้ำบริเวณตำบลแควใหญ่เข้าบึงบอระเพ็ดเพื่อรักษาระบบนิเวศ โดยสูบน้ำจากแม่น้ำน่านเข้าท่อลอดทางรถไฟและถนนสาย 225 สู่บึงบอระเพ็ดบริเวณฝายบางปอง

นำร่องทำนาเปียกสลับแห้ง 100 ไร่ ลดใช้น้ำ

นอกจากนี้ นายณพล ยังเตรียมเสนอแนวทางการทำนารูปแบบ "นาเปียกสลับแห้ง" เพื่อช่วยลดการใช้น้ำทำนา โดยเริ่มจากการทำนาปรัง และจะเริ่มในช่วงเดือน เม.ย. - พ.ค.นี้ นำร่องในพื้นที่ ต.วังมหากร เริ่มทำจำนวน 100 ไร่ ในพื้นที่ตอนล่างของบึงบอระเพ็ด ในการทำนาเปียกสลับแห้งจะทำในช่วงที่ไม่จำเป็นต้องให้น้ำขังแปลงนา โดยใช้น้ำที่อยู่ใต้ดินเลี้ยงต้นข้าว ซึ่งจะมีกระบอกที่สามารถวัดระดับน้ำใต้ดินได้

อ่านข่าว : สู้ภัยแล้ง! เทคนิคประหยัดน้ำในบ้าน ช่วยเซฟเงินในกระเป๋า

โครงการดังกล่าว นอกเหนือจากการลดการใช้น้ำยังเป็นการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอีกด้วย โดยทางทีมวิจัยจะเก็บข้อมูลทางวิชาการระหว่างการทำนาไปด้วยว่าได้ผลเป็นอย่างไรหากได้ผลดีจะขยายไปยังพื้นที่อื่นรอบบึงบอระเพ็ด

นอกจากนี้ในพื้นที่ ต.พระนอน จะทดลองนำพืชน้ำในบึงบอระเพ็ดมาทำปุ๋ย ซึ่งจะเป็นทั้งการขุดลอกบึงและบึงบอระเพ็ด เนื่องจากพืชในบึงเมื่อตายก็จะกลายเป็นตะกอนดินทำให้ต้องขุดออก มิฉะนั้นจะทำให้บึงบอระเพ็ดหมดสภาพจากความเป็นบึง

รวมถึงการนำพืชเหล่านี้มาทำปุ๋ยก็จะช่วยสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านและ และลดก๊าซเรือนกระจก โดยตั้งเป้าให้บึงบอระเพ็ด เป็น Net Zero ในปี 2573 โดยการขุดจะมีคณะกรรมการดูแลทั้ง 6 องค์กร เพื่ดูแลการขุดลอกให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด

อ่านข่าว : จระเข้น้อย NEW GEN คืนถิ่น"บึงบอระเพ็ด" ในรอบ 7 ปี