ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

แนะผู้ป่วย 4 กลุ่มโรค ใน กทม.-ปริมณฑล ตรวจเช็กค่าฝุ่น - เลี่ยงออกจากบ้าน

สังคม
21 มี.ค. 67
20:14
397
Logo Thai PBS
แนะผู้ป่วย 4 กลุ่มโรค ใน กทม.-ปริมณฑล ตรวจเช็กค่าฝุ่น - เลี่ยงออกจากบ้าน
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
กรมควบคุมโรค แนะผู้ป่วย 4 กลุ่มโรค ใน กทม. และปริมณฑล หลีกเลี่ยงออกจากบ้าน พร้อมแนะวิธีป้องกันตนเองเบื้องต้น ตรวจเช็กค่าฝุ่นก่อนออกจากบ้าน สวมหน้ากากชนิดที่ป้องกันฝุ่นได้

วันนี้ (21 มี.ค.2567) กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า หลังประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลได้กลิ่นเหม็นไหม้ และพบว่ามีหมอกควันปกคลุมหลายพื้นที่ ค่าฝุ่นยังคงเกินค่ามาตรฐานในระดับสีแดง จึงห่วงสุขภาพประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบทางสุขภาพจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก โดยเฉพาะผู้ป่วย 4 กลุ่มโรคที่ต้องเฝ้าระวัง คือ

  • กลุ่มโรคหัวใจและหลอดเลือด
  • กลุ่มโรคระบบทางเดินหายใจ
  • กลุ่มโรคผิวหนังอักเสบ
  • กลุ่มโรคตาอักเสบ
กลุ่มดังกล่าวจะมีอาการผิดปกติเจ็บป่วย หรือมีผลกระทบต่อสุขภาพที่รุนแรงได้มากกว่าคนทั่วไป  

อ่าน : ที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม.ชี้ 3 สาเหตุกลิ่นไหม้-หมอกควันคลุม กทม.

นพ.วีรวัฒน์ มโนสุทธิ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ และโฆษกกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ข้อมูลกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA ร่วมกับสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กรมควบคุมมลพิษ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ติดตามสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 แบบรายชั่วโมง เมื่อเวลา 23.00 - 06.00 น. ของวันที่ 20-21 มี.ค.2567 พบ 39 พื้นที่ใน กทม. และปริมณฑล รวมไปถึงภาคกลาง มีค่าฝุ่นอยู่ในระดับสีแดง มีผลกระทบต่อสุขภาพและระบบทางเดินหายใจ

สำหรับพื้นที่ที่พบค่าฝุ่นสูงสุด คือ เขตลาดกระบัง 195.6 มคก./ลบ.ม.

  • รองลงมา คือ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี 138.8 มคก./ลบ.ม.
  • เขตวังทองหลาง 130.0 มคก./ลบ.ม.
  • เขตจตุจักรและเขตลาดพร้าว 117.2 มคก./ลบ.ม.
  • เขตธนบุรี 113.7 มคก./ลบ.ม.
  • เขตหลักสี่ 110.9 มคก./ลบ.ม.
  • เขตดอนเมือง 110.3 มคก./ลบ.ม.
  • อ.เมือง จ.นนทบุรี 101.1 มคก./ลบ.ม.

สถานการณ์เช่นนี้อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ทำให้เกิดอาการระคายเคืองคอ ไอ หายใจลำบาก แน่นหน้าอก ใจสั่น ระคายเคืองตา หรือเป็นผื่นคันตามร่างกาย และผู้ที่สัมผัสฝุ่นอย่างต่อเนื่อง และโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ รวมถึงผู้ป่วย 4 กลุ่มโรคสำคัญที่ต้องเฝ้าระวัง คือ กลุ่มโรคหัวใจและหลอดเลือด กลุ่มโรคระบบทางเดินหายใจ กลุ่มโรคผิวหนังอักเสบ และกลุ่มโรคตาอักเสบ ซึ่งกลุ่มดังกล่าวจะมีอาการผิดปกติเจ็บป่วยหรือมีผลกระทบต่อสุขภาพที่รุนแรงได้มากกว่าคนทั่วไป

อ่าน : ฝุ่น PM 2.5 ปกคลุม กทม.เช้านี้ พุ่งเกินค่ามาตรฐาน - เชียงใหม่อากาศดีขึ้น

นพ.วีรวัฒน์ กล่าวว่า ที่ผ่านมากรมควบคุมโรคได้เฝ้าระวังสถานการณ์การเจ็บป่วยที่อาจเกี่ยวเนื่องจากการได้รับสัมผัสฝุ่นละอองขนาดเล็กใน 4 กลุ่มโรคดังกล่าว พบว่าระหว่างวันที่ 1 ม.ค. - 20 มี.ค.2567 อัตราป่วยทั้งหมด 977 คนต่อประชากรแสนคน โดยอัตราป่วยสูงสุด คือ

  • กลุ่มโรคผิวหนังอักเสบ 493 คน ต่อประชากรแสนคน
  • รองลงมา คือ กลุ่มโรคตาอักเสบ 395 คนต่อประชากรแสนคน
  • กลุ่มโรคทางเดินหายใจ 12 คนต่อประชากรแสนคน
  • โรคหัวใจและหลอดเลือด 4 รายต่อประชากรแสนคน 

กลุ่มอายุของผู้ป่วย

  • ผู้ป่วยส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป อัตราป่วย 4,564 คนต่อประชากรแสนคน
  • รองลงมาเป็นกลุ่มอายุ 50-59 ปี อัตราป่วย 3,230 คนต่อประชากรแสนคน
  • อายุ 50-54 ปี อัตราป่วย 2,528 คนต่อประชากรแสนคน
  • อายุ 45-49 ปี อัตราป่วย 1,952 คนต่อประชากรแสนคน
  • อายุ 40-44 ปี อัตราป่วย 1,497 คนต่อประชากรแสนคน
  • อายุ 5-9 ปี อัตราป่วย 1,415 รายต่อประชากรแสนคน ตามลำดับ

อ่าน : ไขคำตอบ "กลิ่นไหม้" คลุมกทม.อันตรายหรือไม่

แนะวิธีป้องกันตนเองเบื้องต้น - ตรวจเช็กค่าฝุ่นก่อนออกจากบ้าน

ทั้งนี้ ในช่วงที่สถานการณ์ฝุ่นเกินค่ามาตรฐาน ขอให้ประชาชน ปฎิบัติดังนี้

  • ปิดบ้านให้มิดชิด โดยเฉพาะบ้านที่มีผู้ป่วยพักอาศัยอยู่ เพื่อป้องกันฝุ่น
  • เมื่อจำเป็นต้องออกจากบ้านให้ตรวจเช็กค่าฝุ่น PM 2.5 ผ่านแอปพลิเคชัน air4thai หรือ "เช็คฝุ่น" หากค่าฝุ่นเกิน 37.5 mg/m3 ให้สวมหน้ากากสำหรับป้องกันฝุ่นและใช้เวลาอยู่ภายนอกสั้น ๆ ลดการทำกิจกรรมกลางแจ้ง
  • หากค่าฝุ่นมากกว่า 75.0 mg/m3 ผู้ป่วย 4 กลุ่มโรค ไม่ควรออกจากบ้านเพราะมีความเสี่ยงที่จะมีอาการรุนแรงขึ้น
  • หากประชาชนมีอาการผิดปกติ ให้รีบกลับเข้าสู่ที่พักที่ปลอดฝุ่น และรีบปรึกษาแพทย์ทันที 

อ่านข่าวอื่น ๆ

จับกระแสการเมือง 21 มี.ค.67 ปทุมวันการละคร "บิ๊กต่อ-บิ๊กโจ๊ก" แค่พักยก ผบ.ตร.แพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้สู้

ฟินสุด 7 ปีซ้อน! "ฟินแลนด์" อันดับ 1 คนมีความสุขที่สุดในโลก

22 มี.ค.เปิดจำหน่ายตั๋วรถไฟพากลับฉลองสงกรานต์ 21 วัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง