ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

เริ่มแล้ว ! อภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ฝ่ายค้าน-รัฐบาล เต็มห้องประชุม

การเมือง
09:51
2,412
เริ่มแล้ว ! อภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ฝ่ายค้าน-รัฐบาล เต็มห้องประชุม
อ่านให้ฟัง
03:29อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
เริ่มแล้วอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ม. 152 "ชัยธวัช" ชี่้รัฐบาลทำงานไร้ประสิทธิภาพ สวนทางคำสัญญา และทำลายหลีกนิติธรรมและทำลายความเชื่อมั่นประชาชน ด้าน "นายกฯ" ระบุ พร้อมชี้แจงทุกประเด็น มั่นใจทำงานหนัก เดินหน้าพัฒนาทุกด้าน

วันนี้ (3 เม.ย.2567) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 32 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) ญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี โดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 152 (นายชัยธวัช ตุลาธน กับคณะ จำนวน 98 คน เป็นผู้เสนอ) 

อ่านข่าว : สภาฯ หารือ 3 ฝ่าย ยืนยันฝ่ายค้าน 22 ชั่วโมง รัฐบาล 6 ชั่วโมง ไม่ขยายเป็น 3 วัน

ก่อนการประชุมวิป 3 ฝ่าย ได้หารือและได้ข้อสรุปจะทำการประชุมเป็นระยะเวลา 2 วัน คือ วันที่ 3-4 เม.ย.2567 ล่าสุดพรรคร่วมฝ่ายค้านได้เวลาอภิปราย 22 ชั่วโมง ตามเดิม ขณะที่ฝ่ายรัฐบาลจากเดิมกำหนดไว้ 8 ชั่วโมง ปรับเป็นไม่ได้กำหนดกรอบเวลาแต่ขึ้นอยู่กับการชี้แจงการอภิปรายจนสิ้นข้อสงสัย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจประธานสภา และรัฐมนตรี ทั้งนี้ในวันที่ 3 เม.ย.จะอภิปรายถึงเวลา 01.00 น. และในวันที่ 23.00 น.จะอภิปรายถึงเวลา 23.00 น. 

นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน กล่าวเปิดการอภิปรายว่า รัฐบาลทำงานมาแล้ว 6 เดือน แต่ไม่ได้ปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน ขาดประสิทธิภาพ

ยังไม่มีการขับเคลื่อนหรือแก้ไขปัญหาประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม นโยบายเร่งด่วนสวนทางกับความเป็นจริง รวมถึงการแก้ไขหลักนิติธรรม ที่จากยุทธศาสตร์และแก้ไขได้ตรงเป้าหมาย

นายกฯ และคณะรัฐมนตรี ยังมีพฤติกรรมทำลายความเชื่อมั่นและปล่อยปละละเลย ให้มีผู้เอารัดเอาเปรียบประชาชน และเกิดการคอร์รัปชั่นเชิงนโยบาย แทนที่จะฟื้นฟูหลักนิติธรรม นิติรัฐ และเลือกปฏิบัติ ทำลายหลักความเสมอภาค ทางกฎหมายและการเมือง

การดำเนินนโยบายต่างประเทศ ยังไม่สามารถฟื้นฟูบทบาทของไทยในเวทีนานาชาติได้ ดังนั้นด้วยเหตุผลข้างต้น จึงมีความจำเป็นที่จะต้องอภิปรายสอบถามข้อเท็จจริงต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อประโยชน์ของประชาชน 

หลังการเลือกตั้งเราต่างหวังว่า จะได้ผู้นำประเทศที่ต่างจากผู้นำหลังรัฐประหาร แต่เรากลับได้นายกฯ ที่ไร้วุฒิภาวะไปอีกแบบ ขาดภาวะผู้นำในการสร้างความเชื่อมัน ในความชัดเจนของรัฐบาล ซ้ำร้ายมีวิธีคิดจัดตั้งรัฐมนตรีแบบเดิม จัดตั้งตามโควตา แทนการจัดสรรบุคลาการที่มีความรู้ความสามารถในแต่ละกระทรวง

หลังการบริหารประเทศมากว่าครึ่งปี หวังว่าจะเห็นเศรษฐกิจดีขึ้น แต่เห็นการดำเนินนโยบายที่สับสน คิดไปทำไป นโยบายเรือธงขาดยุทธศาสตร์และแนวทางที่ชัดเจนเป็นรูปธรรม

แทนที่ประชาชนจะได้เห็นการบริหารแผ่นดิน ที่เปิดโอกาสให้ประชาชนลืมตาอ้าปาก อย่างเสมอภาค เท่าเทียม เป็นธรรม กลับเห็นการส่งเสริมระบบเศรษฐกิจที่ผูกขาด เอื้อประโยชน์ทุนใหญ่ 

ประชาชนไม่เข้าใจว่า จะเอาอย่างไรกับการเมืองกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และหากสามารถจัดทำรัฐธรรมนูญแบบใหม่เสร็จ แต่อาจได้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่แต่ไม่ไว้วางใจประชาชนเหมือนเดิม

นายชัยธวัชกล่าวต่อว่า ประชาชนคาดหวังการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ตามที่รัฐบาลแถลง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับพบวิกฤตศรัทธา ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อย่างที่ไม่เคยเกิดมาก่อน รวมถึงในระบบราชการที่เต็มไปด้วยระบบตั๋ว ระบบส่วย จนประชาชนไม่สามารถไว้วางใจในกลไกการบริหารราชการแผ่นดิน 

ท่านไม่ต้องพูดว่า ถ้าไม่ชอบกันก็ต่างคนต่างอยู่ เพราะประชาชนต้องการอยู่ในระบบเดียวกัน ประเทศเดียวกัน ที่ได้รับการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ และได้รับการปฏิบัติเท่าเทียมกัน ในกฎหมายฉบับเดียวกัน

นายชัยธวัชกล่าวอีกว่า ประชาชนอยากเห็นระบบการเมือง ที่นำพาชาติไปข้างหน้า แต่สิ่งที่เจอคือ ประชาธิปไตยแบบไหลย้อนหลัง ที่ผู้มีอิทธิพลทางการเมือง ผู้นำทางการเมืองลุแก่อำนาจ ได้คืบเอาศอก พยายามผูกขาดอำนาจการเมืองและเศรษฐกิจ ผูกขาดอำนาจทางการเมืองแก่ผู้มีอิทธิพลไม่กี่กลุ่ม ทำให้เกิดสภาวะการเมืองที่ไม่ตอบสนองความต้องการแบบใหม่ของประชาชนได้ 

นายกฯ ย้ำ พร้อมชี้แจงทุกข้อสงสัย ทำงานหนัก 7 เดือน

จากนั้น นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ลุกขึ้นชี้แจงว่า มีความยินดี หากมีประเด็นไหนที่ไม่ชัดเจน ก็พร้อมจะให้ความกระจ่าง หากมีข้อเสนอแนะ และบางอันก็เชื่อว่า จะนำไปปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมและในเวลา 2 วัน จะพูดคุยกันอย่างสร้างสรรทำให้ประชาชนได้รับข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง

เริ่มต้นก็พูดแรงพอสมควรทั้ง สิ้นหวัง ล้มเหลว ปฏิรูป ถอยหลัง ทำลาย แต่ก็มีอีกด้านคือ มีหวัง พัฒนา ก้าวหน้า เราก็เดินหน้าไปบอกว่า ปิดบัง เราก็โปร่งใส หลายอย่างที่รัฐบาลพยายามทำเป็นเรื่องบวก เป็นเรื่องของแสงสว่าง หากยังมีเรื่องกังขา ก็ขอให้บอกมา รัฐมนตรี พร้อมชี้แจงหลังทำงานมา 6 เดือน และสภาฯเพิ่งอนุมัติงบฯไป เชื่อมั่นว่า ทำงานอย่างซื่อสัตย์ โปร่งใส และพร้อมชี้แจง

นายเศรษฐายังชี้แจงกรณีหนี้สิน โดยตั้งคณะทำงานดูแลหนี้นอกระบบ เรื่องพลังงานก็ดูแลราคาน้ำมันเบนซิน ค่าไฟ ค่าน้ำมันดีเซล ซึ่งก็จะมีขั้นตอนในการทำงานต่อไป ไม่ได้เพิกเฉย ตระหนักดีถึงเรื่องนี้ และยาเสพติดมีคณะทำงานที่ทำโดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข โดยที่ผ่านมาไตรมาส 4 จับยาบ้ามากว่าปีก่อนทั้งปี ซึ่งเห็นว่ากวดขันเป็นอย่างดี 

อ่านข่าว : "จุลพันธ์" ยืนยันประเทศไทยมี "เศรษฐา" เป็นนายกฯ คนเดียว

ขณะที่การท่องเที่ยวสร้างรายได้มีวีซ่าฟรี ทั้งไทยและจีนที่เดินหน้าทำให้การค้าการลงทุน และการท่องเที่ยวดีขึ้น ทั้งโรงแรม ร้านอาหาร รองนายกฯก็เดินทางไปหลายประเทศ เพื่อให้พาสปอร์ตไทยมีพลังมากขึ้น

รายได้เกษตรกร ตระหนักดี เพราะมี สส.314 เสียง ทุกคนเอาประชาชนเป็นที่ตั้ง และเราพร้อมรับฟัง กรณีราคายางจาก 30 บาท ไปเกือบ 100 บาท ราคาข้าวก็สูง พืชผลอื่นก็ดี ไม่มีการประท้วง กระทรวงพาณิชย์ก็พยายามไปเปิดตลาดใหม่ กำหนดเกณฑ์การประเมิน ทูตพาณิชย์มาทำงานอย่างบูรณาการเพื่อให้ราคาพืชผลดีขึ้น 

กรณีฝุ่น PM 2.5 รัฐบาลเสนอเข้าสภาฯ พ.ร.บ.อากาศสะอาด แม้ จ.เชียงใหม่ จะยังอากาศไม่ดี แต่เมื่อเปรียบเทียบจำนวนจุดความร้อนก็ลดลง ซึ่งให้ความสำคัญของประชาชนทุกคน

การมีตัวตนในเวทีโลก ผมเดินทางไปบ่อยรวมเกือบ 10 กว่าครั้ง โดยการเดินทางกว่าครึ่ง คือ ควรต้องไป ทั้งเวทีอาเซียน และเราเป็นน้องใหม่เพิ่งรับตำแหน่ง ต้องไปพบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนนโยบาย เพื่อให้ไทยมีตัวตนในเวทีโลก ซึ่งการไปแต่ละครั้งมีคุณภาพ รวมถึงการเจรจา FTA เพื่อยกระดับชีวิตประชาชนให้ดีขึ้น แต่ทุกอย่างต้องใช้เวลาเพราะเพิ่งเขามาแค่ 7 เดือน 

ข้อกล่าวหาก็ขอหลักฐานและเหตุผล หลังการเลือกตั้งการสู่ประชาธิปไตยดีขึ้น รัฐมนตรีทุกคนพร้อมให้ความกระจ่าง กรณีการกล่าวโทษ ก็ขอหลักฐานมาด้วยเพื่อการทำงาน

อ่านข่าว : ป.ป.ช.ยัน รร.ในขอนแก่น “เก็บแป๊ะเจี๊ยะ” จริง ชี้พิรุธตั้งแต่รับสมัคร-รายงานตัว

สภาฯ หารือ 3 ฝ่าย ยืนยันฝ่ายค้าน 22 ชั่วโมง รัฐบาล 6 ชั่วโมง ไม่ขยายเป็น 3 วัน

เตือนสึนามิ! ไต้หวันแผ่นดินไหว 7.4 รุนแรงสุดรอบ 25 ปี