ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"คมนาคม" สั่งเรียกตรวจรถโดยสาร 13,426 คัน ไม่ผ่านไม่​ให้ใช้งาน

เศรษฐกิจ
15:25
2,418
"คมนาคม" สั่งเรียกตรวจรถโดยสาร 13,426 คัน ไม่ผ่านไม่​ให้ใช้งาน
อ่านให้ฟัง
07:25อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
รมช.คมนาคม สั่งกรมการขนส่งทางบกตรวจสอบรถโดยสาร โดยเฉพาะรถ 30 ทุกคัน หากตรวจไม่ผ่านจะไม่อนุญาต​ให้ใช้งาน นอกจากนี้สั่งการให้ประกาศกฏหมายเพิ่มเด็กท้ายรถ และก่อนออกรถทุกครั้งต้องสาธิตการเผชิญเหตุ

วันนี้ (2 ต.ค.2567) นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมเรียกกรมการขนส่งทางบก มารายงานข้อเท็จจริง กรณีไฟไหม้รถโดยสารทัศนศึกษา เมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา

เบื้องต้นยังไม่สามารถสรุปสาเหตุได้ เนื่องจากต้องรอการตรวจสอบหลักฐานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อน เบื้องต้นสั่งการให้ยกเลิกรถคันที่เกิดอุบัติเหตุดังกล่าว ไม่ให้ประกอบการ ซึ่งเป็นรถโดยสารไม่ประจำทาง หรือรถ 30 ติดตั้งแก๊ส NGV เป็นเชื้อเพลิง

จากการประชุมเพื่อไม่ให้เกิดเหตุขึ้นอีก ได้สั่งการกรมการขนส่งทางบกเรียกรถทั้งหมดที่ใช้ NGV จำนวน 13,426 คัน แบ่งเป็น รถโดยสารประจำทาง 10,491 คัน และรถโดยสารไม่ประจำทางประเภท 30 จำนวน 2,935 คัน ให้กลับเข้ามารับการตรวจสภาพรถภายใน 60 วัน หากพบว่ารถดังกล่าวไม่ผ่านการตรวจสภาพจะถูกยึดใบอนุญาตรถทันที

ขณะที่รถประเภท 30 จะเป็นรถไม่ประจำทาง ไม่เหมือนรถ บขส. จึงจะต้องมีมาตรการที่เข้มข้น เนื่องจากรถประเภท 30 กระจายตัวอยู่ตามจังหวัด โดยจะให้เข้ามาตรวจสอบ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 2 เดือน

อีกทั้งจะมีการพิจารณาระเบียบ โดยให้อธิบดีกรมการขนส่งทางบกพิจารณาเพิ่มกฎหมายให้รถ 30 จะต้องมีพนักงานท้ายรถ แต่ปัจจุบันไม่ได้มีกฎหมายกำหนด โดยสั่งการให้ออกระเบียบและทำทันทีว่าต้องมี

อ่านข่าว : "รถบัสไฟไหม้" จดทะเบียนปี 2513 ดัดแปลงติดตั้งแก๊ส NGV

นอกจากนี้ระหว่างการตรวจสอบสภาพรถ 30 อุบัติเหตุ​ที่เกิดขึ้น ผู้โดยสารเป็นเด็กเล็กไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้และไม่มีความรู้ จึงจะออกมาตรการขอความร่วมมือสถานศึกษา​ ให้ผู้ใช้บริการรถ 30 โดยเฉพาะหากเป็นนักเรียน​ ก่อนออกเดินทางต้องมีการตรวจร่วมกับขนส่งจังหวัด เรื่องมาตรฐาน​ความปลอดภัย​ เพื่อเพิ่มการป้องกันระยะเร่งด่วนและหลังจากนี้จะให้ดูกฎหมายเรื่องอายุการใช้งานรถและอุปกรณ์​ เพื่อให้ทันเหตุการณ์​

รถที่ให้บริการ​สาธารณะ​ ขอความร่วมมือให้มีมาตรฐาน​ที่สูงขึ้น ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำอีก ถ้าต้องปรับก็ต้องปรับและการปรับก็ต้องลงทุน

นายสุรพงษ์กล่าวว่า หลังจากวันนี้ รถโดยสารสาธารณะทุกคันต้องมาตรวจ โดยเฉพาะรถ 30 ต้องเพิ่มพนักงานท้ายรถ มีใบรับรองเผชิญเหตุ และก่อนรถออกเดินทางต้องมีการสาธิตการเผชิญเหตุ ทั้งคนและรูปแบบวิดีโอเหมือนแอร์ไลน์ ซึ่งขณะนี้ไม่มีข้อบังคับ โดยขณะนี้รถโดยสารที่ให้บริการมีทั้งหมด 13,426 คัน แบ่งเป็นรถประจำทาง 10,491 คัน และรถไม่ประจำทาง หรือรถ 30 จำนวน 2,935 คัน

ส่วนกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า นำรถที่มีอายุ 50 ปี มาให้บริการและผ่านการตรวจสอบของกรมการขนส่งได้อย่างไรนั้น นายสุรพงษ์ระบุว่า มีข้อกำหนดของกรมการขนส่งทางบกอยู่ แต่ยังไม่สามารถพูดอะไรได้ เนื่องจากกังวลว่าจะกระทบกับรูปคดี ส่วนการยกเลิก CNG นายสุรพงษ์ระบุว่า มีแนวโน้มที่จะให้ยกเลิก เนื่องจากขณะนี้มีสถานบริการเติม CNG ลดลง

อ่านข่าว : เจ้าของบริษัททัวร์ยันถังก๊าซ NGV รสบัสไฟไหม้ผ่านมาตรฐาน

ขณะที่ นายชีพ น้อมเศียร ผู้อำนวยการวิศวกรรมยานยนต์กรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า สำหรับการตรวจถัง CNG จะมีการตรวจว่าตัวถังมีอายุกี่ปี รวมถึงรอบการตรวจสอบที่จะมีการตรวจสอบปีละ 2 ครั้ง เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบรอยรั่วของก๊าซข้อต่อว่ารั่วหรือไม่ รวมถึงอายุการใช้งานของถังจะต้องไม่เกิน 15 ปี นอกจากนี้จำนวนถังจะได้รับรองจากกรมฯ โดยมีวิศวกรเป็นคนตรวจก่อนได้รับใบอนุญาต

ส่วนจำนวนถังที่ติด ในระเบียบจะดูน้ำหนักรถ โดยจะเป็นการคำนวณว่าบรรทุกได้เท่าไหร่ เช่น รถบรรทุกน้ำหนักได้ 15 ตัน 40 ที่นั่ง จะได้คำนวณน้ำหนักติด CNG โดยทั่วไปติดตั้งได้ 5-6 ถัง

ส่วนสภาพรถ อายุการใช้งาน ยอมรับว่าไม่มีการกำหนด อยู่ที่การตรวจสภาพ เช่น ตรวจล้อ มลพิษ ไฟหน้า พร้อมยืนยันว่า รถจะต้องผ่านการตรวจสอบจากกรมการขนส่งทางบกทุกคัน

กรณีการดัดแปลงรถ วิศวกรจากกรมการขนส่งทางบกชี้แจงว่า ในกรณีนี้รถจดทะเบียนเป็นเครื่องยนต์อีซูซุ แต่ติดเครื่องหมายเบนซ์ ซึ่งกรณีนี้ไม่มีระเบียบกำหนด แต่หลังจากนี้จะมีการตรวจเข้มข้น และการตรวจสภาพจะมีการตรวจทุกมิติ

ด้านนายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า การตรวจสอบสภาพรถ และการตรวจสอบถังแก๊ส CNG นั้น ตามปกติกรมฯ จะมีการตรวจสภาพรถ 2 ครั้งต่อปี โดยกำหนดให้ในรอบปีภาษี ผู้ประกอบการต้องผ่านการตรวจสภาพจากวิศวกรผู้ดูแล 1 ครั้ง

และเมื่อครบสิ้นปีการชำระภาษี รถต้องผ่านการตรวจสภาพรถจากกรมฯ อีก 1 ครั้ง เช่น รอยรั่วของก๊าซ, อายุการใช้งาน ตลอดจนการตรวจเช็กการเสียดสีของถังแก๊ส

"ในทางปฎิบัติตามมติคณะกรรมการขนส่งทางบกกลาง 3/2568 ระบุว่า รถโดยสารไม่ประจำทาง 30 ไม่มีการกำหนดอายุการใช้งานเลขโครง ตัวถังรถ (แชสซี) แต่รถโดยสารประจำทางที่มี ระยะทางไม่เกิน 300 กม. กำหนดให้มีอายุการใช้งานของแชสซีรถไม่เกิน 40 ปี, รถโดยสารประจำทางที่มีระยะทางไม่เกิน 300-500 กม. จะกำหนดอายุแชสซี ไม่เกิน 35 ปี, รถโดยสารประจำทางที่มีระยะทางเกิน 500 กม. จะกำหนดอายุแชสซี ไม่เกิน 30 ปี ส่วนรถหมวด 1 ที่วิ่งในเมืองอายุแชสซีไม่เกิน 50 ปี"

อย่างไรก็ตาม กรมการขนส่งทางบกจะประชุมในรายละเอียด เพื่อกำหนดกรอบและมาตรฐานรถโดยสารไม่จำทาง 30 ในเรื่องของข้อกำหนด อายุการใช้งานรถ รวมถึงคนรถเพิ่มเติม หากต้องมีการแก้กฎหมายก็จะเร่งดำเนินการ

ด้านนายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 1 ชุด ประกอบด้วยสภาวิศกรและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางและมาตรการในการทบทวนมาตรฐานรถโดยสารสาธารณะทั้งระบบ ทั้งรถตู้ รถทัวร์ รถบัสต่าง ๆ ซึ่งจะดูทั้งข้อกฎหมาย มาตรฐานรถ อายุการใช้งานรถโดยสารสาธารณะใหม่

อ่านข่าว : ไทม์ไลน์ รถบัสทัศนศึกษาเกิดอุบัติเหตุไฟไหม้

กมธ.คมนาคม เชิญ "อธิบดีกรมการขนส่งฯ" แจงเหตุไฟไหม้รถทัศนศึกษา

"ประตูหลัง" ทางออกของรถรับส่งนักเรียนที่ "ไทย" ไม่เคยมี