ความคืบหน้า เหตุเครื่องบิน Jeju Air ที่ออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย มุ่งหน้าสู่ สนามบินมูอัน ประเทศเกาหลีใต้ เกิดเหตุไถลรันเวย์ เสียชีวิต 179 คน จากทั้งหมด 181 คน รอดชีวิต 2 คน
ล่าสุด ชเว ซัง-มก ประธานาธิบดีรักษาการเกาหลีใต้ จัดการประชุมฉุกเฉินในกรุงโซล หลังจากลงพื้นที่เกิดเหตุเครื่องบิน Jeju Air ไถลรันเวย์ โดยได้แสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทั้งประกาศให้เมืองมูอัน ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุเป็นเขตภัยพิบัติพิเศษ
นอกจากนี้ยังประกาศไว้อาลัยทั่วประเทศเป็นเวลา 7 วัน ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 29 ธ.ค.จนถึงวันที่ 4 ม.ค.พร้อมทั้งมีการตั้งจุดไว้อาลัยทั่วประเทศ ขณะที่ตามสถานที่ทำการของราชการจะมีการลดธงครึ่งเสาและข้าราชการจะติดริบบิ้นสีดำเพื่อร่วมไว้อาลัยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ขณะที่ยุน ซอก ยอล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ซึ่งอยู่ระหว่างระงับการปฏิบัติหน้าที่หลังถูกลงมติถอดถอนออกจากตำแหน่ง ออกมาแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิต พร้อมระบุว่าเชื่อว่ารัฐบาลจะจัดการเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบอย่างสุดความสามารถ
ด้านโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์เหตุเครื่องบิน Jeju Air ไถลรันเวย์ พร้อมทั้งระบุว่าสหรัฐฯ เตรียมความพร้อมในการสนับสนุนความช่วยเหลือที่จำเป็นให้เกาหลีใต้แล้ว
เกาหลีใต้เร่งสอบเหตุเครื่องบินไถลหลุดรันเวย์
อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ยังคงไม่ทราบสาเหตุที่เหตุเครื่องบิน Jeju Air ไถลรันเวย์ แต่เจ้าหน้าที่สามารถกู้กล่องดำทั้ง 2 กล่องได้แล้ว แต่มี 1 กล่องซึ่งเป็นเครื่องบันทึกข้อมูลได้รับความเสียหายบางส่วน แต่เครื่องบันทึกเสียงดูเหมือนจะยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ด้านการสืบสวน ระบุว่า อาจต้องใช้เวลานานถึง 1 เดือนในการถอดรหัส เนื่องจากความเสียหายที่เกิดขึ้น
กระทรวงที่ดินเกาหลีใต้เปิดเผยว่า หอควบคุมได้ส่งคำเตือนชนนกไปยังเครื่องบินลำดังกล่าว เวลา 08.54 น. และไม่กี่นาทีต่อมา เวลา 0 8.59 นักบินส่งสัญญาณฉุกเฉิน และลงจอดเวลา 09.03 น. โดยไม่กางล้อจนนำไปสู่เหตุร้ายที่เกิดขึ้น
ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญและเจ้าหน้าที่ต่างชี้ถึงสาเหตุที่เป็นไปได้ของการเกิดอุบัติเหตุ เหตุเครื่องบิน Jeju Air ไถลรันเวย์ ในครั้งนี้ ซึ่งจากการสันนิษฐานเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่เกาหลีใต้ชี้ว่า น่าจะเกิดจากการบินชนนก ประกอบกับสภาพอากาศเลวร้าย
GEOFFREY THOMAS ผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมการบิน มองว่า บริเวณใกล้รันเวย์ไม่ควรมีรั้วอยู่ พร้อมระบุว่า รั้วที่มีอยู่ที่ท่าอากาศยานนานาชาติมูอันซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ ขัดต่อมาตรฐานสากล
GREGORY ALEGI ผู้เชี่ยวชาญด้านการบิน ตั้งคำถามว่า เห็นได้ชัดว่านักบินควบคุมเครื่องบินอยู่ แต่ทำไมถึงไม่กางล้อ หรือไม่กางปีกสร้างแรงยก (แฟลบ) พร้อมระบุว่า โดยทั่วไปแล้ว หากนักบินนำเครื่องลงจอดได้อย่างราบรื่นตามในภาพ เหตุการณ์อาจไม่รุนแรงขนาดนี้ และโดยปกติแล้วหน่วยฉุกเฉินจะเตรียมพร้อมอยู่เสมอ แต่ครั้งนี้ไม่มี อาจหมายความว่าการลงจอดครั้งนี้อาจเร่งรีบมาก ไม่มีเวลาให้เตรียมการ
ขณะที่ Marco Chan อดีตนักบิน ระบุว่า แม้การลงแตะพื้นของเครื่องบินจะไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ก็ไม่ได้เพียงพอที่จะทำให้เครื่องบินเคลื่อนที่ช้าลง และสุดท้ายก็ไปชนกับรั้วอยู่ดี
ส่วน Philip Butterworth-Hayes ผู้เชี่ยวชาญด้านการบินจากอังกฤษ ระบุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเกาหลีใต้ถือเป็นเหตุการณ์ที่แปลกประหลาดมาก พร้อมระบุว่า เครื่องบินแข็งแรงมาก ระบบป้องกันการชนบนเครื่องบินมีความแข็งแรงมาก ที่นั่งมีความแข็งแรง และเครื่องยนต์ก็ถูกสร้างมาให้มีความทนทานมาก รวมถึงทนทานต่อการบินชนนกด้วย
ขณะที่พยานที่เห็นเหตุการณ์ คนแรกเช่าบ้านไม่ไกลจากสนามบินเล่าว่า เห็นประกายไฟที่ปีกขวาของเครื่องบินก่อนเครื่องบินประสบเหตุ และได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้น
ขณะที่พยานอีกคนซึ่งกำลังเดินเล่นห่างจากสนามบิน 4.5 กม. ระบุว่า เห็นเครื่องบินลดระดับและคิดว่าจะลงจอด ก่อนจะเห็นแสงวาบและเสียงดังปังตามมาด้วยควันในอากาศ ก่อนจะได้ยินเสียงระเบิดตามมาหลายครั้ง และพยานอีกคนหนึ่งระบุว่าเครื่องบินลงจอดครั้งแรกไม่สำเร็จ จึงบินวนและลงจอดอีกครั้งก่อนเกิดเหตุดังกล่าว
อ่านข่าว : เร่งกู้ข้อมูล "กล่องดำ" เครื่องบิน Jeju Air ไถลรันเวย์ ยอดเสียชีวิต 179 คน
เปิดภาพความเสียหาย Jeju Air ไถลรันเวย์ไฟลุก รอดแค่ 2
ไขปม Jeju Air ลงจอด Belly Landing โอกาสน้อยนักบินลืมกางล้อ











