หากเทียบกับ “สจ.จอย” น.ส.นภาภัช อัญชสาณิชมน ที่นายก อบจ.ปราจีนบุรี ภรรยาหม้ายของอดีต สจ.โต้ง นายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ อดีตบุตรบุญธรรมบ้านใหญ่ จ.ปราจีนบุรี ที่ไปปรากฎตัวในงานนี้ด้วย แต่แจงว่า มาเพื่อขอบคุณ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรค เรื่องการช่วยเหลือการเลือกตั้ง อบจ.จนชนะ
นอกจากนี้ ยังมีนางศรัณยา สุวรรณพรหม ว่าที่นายก อบจ.หนองบัวลำภู แห่งบ้านใหญ่หนองบัวลำภู ที่ไปปรากฏตัวในงานเช่นกัน แม้จะไม่ใช่การเปิดตัวเป็นคนของพรรคกล้าธรรม แต่การมีคนระดับว่าที่นายก อบจ.ไปร่วมงานหลายคน ในทางการเมืองปฏิเสธไม่ได้ว่า เป็นการโชว์ศักยภาพ และสะท้อนการเติบใหญ่ของพรรคที่ไม่ธรรมดา
อาจด้วยหลายปัจจัยทั้งคุณสมบัติใจถึงพึ่งได้ของ ร.อ.ธรรมนัส และการเป็นมือประสานสิบทิศ ทั้งยังเป็นคนที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ไว้วางใจ แม้แต่ให้ ร.อ.ธรรมนัส ซึ่งไม่ใช่เป็นคนของพรรคเพื่อไทย ไปดูแลการเลือกตั้งนายก อบจ.ปราจีนฯ
จนทำให้เครือข่าย ทั้ง ส.อจ. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และหัวคะแนนของ “โกทร” นายสุนทร วิลาวัลย์ บ้านใหญ่ปราจีนฯ หากไม่หันมาช่วย สจ.จอย หาเสียง ก็ต้องเก็บตัวเงียบไม่เคลื่อนไหว จน สจ.จอย เอาชนะคู่แข่งจากค่ายสีส้มแบบขาดลอยมากกว่าเท่าตัว
ร.อ.ธรรมนัส ก็พูดเคลมชัดว่า เป็นผลงานการช่วยเหลือของตนเองและทีมงาน ที่ลงไปช่วยหาเสียงให้ สจ.จอย รวมทั้งนายชาดา ไทยเศรษฐ์ อดีต รมช.มหาดไทย จากพรรคภูมิใจไทย และนายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ จากพรรครวมไทยสร้างชาติ
แม้ สจ.จอยจะลงสมัครในนามพรรคเพื่อไทย แต่เป็นผลจากที่ตนเป็นคนติดต่อและประสานงานให้ ยืนยันให้การช่วยเหลือแบบเป็นส่วนตัวมากกว่า ส่วนในอนาคต จะย้ายไปอยู่พรรคกล้าธรรมหรือไม่นั้น เป็นอนาคต ทั้งยังพูดย้ำ จะส่งผู้สมัคร สส. ครั้งหน้าใน จ.ปราจีนบุรี
สำหรับ ร.อ.ธรรมนัส ตั้งแต่นายทักษิณพักโทษออกจาก รพ.ตำรวจชั้น 14 ช่วงแรก ๆ การเดินสายของนายทักษิณ มักจะมี ร.อ.ธรรมนัส ไปปรากฎตัวเสมอๆ ตั้งแต่ “บิ๊กบ้าน” ที่เชียงใหม่ครั้งแรกในรอบ 17 ปี
และจากนั้นเรื่อยมา สะท้อนความสัมพันธ์ที่ “แน่นปึ้ก” ระหว่างทั้งคู่ เพราะ ร.อ.ธรรมนัส นั้น รู้จักและช่วยงานนายทักษิณ มาตั้งแต่ตั้งพรรคไทยรักไทยใหม่ๆ ก่อนจะลงสมัคร สส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยครั้งแรก ในปี 2557 แต่ครั้งนั้น กกต.ประกาศให้เป็นโฆษะ
ล่าสุดที่นายทักษิณเดินทางไปพบกับนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ที่เกาะหลีเป๊ะ เมื่อต้นเดือนธันวาคม 2567 หลังได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวนายอันวาร์ในฐานะประธานอาเซียนคนใหม่
ปรากฎมีทั้งข่าวและภาพข่าว ร.อ.ธรรมนัส ร่วมเดินทางโดยเรือยอร์ช จากภูเก็ตไปพร้อมกับนายทักษิณด้วย แต่ไม่ยอมให้มีภาพปรากฎร่วมเฟรมเดียวกับนายทักษิณเลย แต่ได้ตีปี๊บผ่านสื่อไทยว่า ได้พบกันบนเรือยอร์ชกลางทะเล ก่อนที่นายอันวาร์ จะโพสต์ภาพผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่าได้พบปะและรับประทานอาหารกับนายทักษิณบนบก ซึ่งเป็นที่โรงแรมหรูแห่งหนึ่ง บนเกาะหลีเป๊ะ ประเทศไทย
ร.อ.ธรรมนัส ยังเป็นคนดึง สส.พรรคขนาดเล็ก มาร่วมสังกัดพรรคกล้าธรรมด้วย เหมือนกับช่วงสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่มักทำหน้าที่ดูแลและเป็นคนนัดหารือกับกลุ่มพรรคเล็กเพื่อให้สนับสนุนรัฐบาล สร้างทั้งสีสันและความเอือมระอาในคราวเดียวกัน เพราะถูกมองว่า เป็นเรื่องเจรจาต่อรองและผลประโยชน์ของกลุ่มพรรคเล็ก
และเพราะเรื่องกลุ่มพรรคเล็ก และกระแสข่าวจะล้มรัฐบาล “บิ๊กตู่” กลางสภา ในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เดือนกันยายน ปี 2564 ทำให้หลังการโหวตเสียงญัตติดังกล่าวเสร็จ ร.อ.ธรรมนัส ตอนนั้นเป็น รมช.เกษตรฯ ถูกปรับพ้น ครม.พร้อมกับนางนฤมล รมช.แรงงาน และก่อนหน้านั้น ร.อ.ธรรมนัส ก็เคยตกเป็นเป้า ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ เรื่องขาดคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรีก่อนหน้านั้น จากคำตัดสินของศาลออสเตรเลีย มาแล้วครั้งหนึ่ง
ทั้งยังเคยตกเป็นเป้าถูกวิพากษ์อีกหลายเรื่อง เช่น เรื่องวุฒิการศึกษา เฉพาะปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัย California University ที่เดียวกับ “หมอเกศ” พญ.เกศกมล เปลี่ยนสมัย สว.สตรีคนดัง ที่จบดีกรีด็อกเตอร์จากมหาวิทยาลัยนี้
อีกทั้งกรณีความขัดแย้งรุนแรงภายในพรรคพลังประชารัฐ กับ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค กรณีไม่ส่งชื่อ ร.อ.ธรรมนัส ในรายชื่อรัฐมนตรีโควตาของพรรค ช่วงจัดตั้งรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ซึ่งเป็นช่วงที่พรรคเพื่อไทย แกนนำรัฐบาล ให้ความสำคัญกับเรื่องคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรี
กระทั่งต้องส่งชื่อน้องชายนายอัครา พรหมเผ่า เป็นรัฐมนตรีแทน รวมทั้งส่งชื่อนายอิทธิ ศิริลัทธยากร เป็นรัฐมนตรีแทนลูกชาย นายอรรถกร ศิริลัทธยากร จนเป็นที่มาของเสียงวิจารณ์ว่า เป็นรัฐมนตรีโควตาตระกูล หรือโควตาครอบครัว
หากเป็นคนอื่นโดน “หลายดอก” แบบนี้ โอกาสที่จะได้ไปต่อบนถนนการเมือง คงเป็นเรื่องที่ยาก แต่ไม่ใช่กับ ร.อ.ธรรมนัส ทั้งในบทบาทส่วนตัว และในการผลักดันพรรคกล้าธรรมให้กลายเป็นพรรคที่เติบโตรวดเร็ว และเป็นพรรคทางเลือกสำหรับนักการเมือง ที่ชื่นชอบผู้นำพรรคประเภทใจถึงพึ่งได้
อันเป็นคุณสมบัติแต่ไหนแต่ไรมาของหัวหน้าพรรค หรือโดยเฉพาะอย่างยิ่งเลขาธิการพรรคใหญ่ ตามแบบฉบับพรรคการเมืองไทย ไม่ว่าในอดีต จนถึงปัจจุบัน
ทำให้กลายเป็นเรื่องโดดเด่น กลบเรื่องอ่อนด้อยในอดีตที่ผ่านมาของ ร.อ.ธรรมนัส จนแทบมิด
วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส
อ่านข่าว : ป่วยที่ญี่ปุ่นต้องรู้! วิธีเรียกรถพยาบาล รพ.ฉุกเฉิน และร้านขายยา
นักวิชาการไม่ฟันธง ทักษิณสิ้นมนต์ขลังแต่พรรคต้องถอดบทเรียน และ ทำการบ้านต่อ
บอร์ดสิ่งแวดล้อมเคาะแผนแก้ฝุ่น ฉ.2 เตือน กทม.PM2.5 สีส้ม 6-9 ก.พ.