วันนี้ (5 ก.พ.2568) นายปิยรัฐ จงเทพ โฆษก กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐฯ เปิดเผยถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีสั่งตัดไฟฟ้า อินเทอร์เน็ต และน้ำมัน ชายแดนไทย-เมียนมา รวม 5 จุด เพื่อแก้ปัญหาแก๊งคอลเซนเตอร์ ในเช้าวันนี้ เวลา 09.00 น.ว่า แม้จะมาช้าแต่ก็มา และเป็นสัญญาณที่ดีของคนไทย และหลายประเทศที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งมาตรการนี้เป็นเพียงต้นทางที่ตัดเครื่องอำนวยความสะดวก ไม่ใช่เป็นการยุติหรือยับยั้งพฤติกรรมขบวนการกลุ่มนี้ได้
ซึ่งปัญหาดังกล่าวทางการจีนเองได้ปราบปรามมาตลอดไล่มาจากตอนเหนือของเมียนมาที่ติดกับประเทศจีน และร่นลงมาเรื่อยๆ จนมาถึงเมียวดีและพญาตองซูที่ติดกับสังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ถ้าประเทศไทยไล่ตัดไฟฟ้า และสิ่งอำนวยความสะดวกขบวนการเหล่านี้ก็จะย้ายฐานไปเรื่อยๆ
อ่านข่าว : ด่วน! กฟภ.ตัดไฟ 5 จุดเมียนมา 20.3 เมกะวัตต์สกัดคอลเซนเตอร์
ไทยเป็นฮับการเดินทาง แต่มีจุดอ่อนผ่านชายแดน
นายปิยรัฐ ระบุว่ารัฐบาลต้องกลับมาดูว่า ทำไมต้องเป็นประเทศแถบชายแดนไทย นอกจากไฟฟ้าสะดวกแล้ว ยังมีเรื่องการเดินทาง ที่ไทยเป็นฮับการเดินทางของผู้คนทั่วโลก 35 ล้านคนต่อปีที่เข้ามาในนามนักท่องเที่ยว ถือเป็นจุดอ่อนที่สำคัญ การเดินทางข้ามชายแดนที่สะดวก แค่ข้ามแม่น้ำไปไม่ถึง 50 เมตร จึงทำให้หลายคนมองว่าประเทศไทยกลายเป็นประตูสู่ขบวนการเหล่านี้ นอกจากท่าข้ามที่มีมากเกินไป และยังมีท่าข้ามอีกมากที่ไม่ได้อยู่ในระบบ
มาตรการต่อไปในการแก้ปัญหา คณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นเมียนมา -ไทย (TBC) ต้องเข้มแข็งและต้องชี้แจงข้อเท็จจริงว่ามีจุดใดยังหละหลวม หรือต้องการเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการตรวจสอบ รวมถึงขั้นตอนการตรวจสอบคนเข้าเมือง ซึ่งเรื่องนี้ไม่สามารถดำเนินการได้ภายใต้จังหวัดเพียงอย่างเดียวต้องอาศัยคณะรัฐมนตรีหรือบริหารส่วนกลางของประเทศไทยในการช่วยกัน นอกจากนี้ต้องอนุมัติงบประมาณ หรือนโยบายต่างๆ ไปดูแลพื้นที่ชายแดน

ปิยรัฐ จงเทพ โฆษก กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐฯ
ปิยรัฐ จงเทพ โฆษก กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐฯ
ไทยปลอดภัยจากแก๊งคอลเซนเตอร์?
ทั้งไฟฟ้า อินเทอร์เน็ต และน้ำมัน คือสิ่งอำนวยความสะดวก ไม่มีก็อยู่ได้ แต่แค่ลำบากขึ้น ไฟฟ้าแค่สร้างโรงงานผลิตไฟฟ้า เครื่องปั่นไฟขนาดใหญ่ เปลี่ยนจากน้ำมันเป็นแก๊สมาปั่นไฟ ส่วนอินเทอร์เน็ตก็อาจใช้ของสตาร์ลิงค์ แต่สิ่งหนึ่งที่ตัดแล้วและยากมากจะทำได้ คือการเข้าออกชายแดนได้โดยผ่านประเทศไทย
ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
รัฐบาลเมียนเป็นผู้ทำหนังสือรับรองให้บริษัทเอกชนซื้อไฟไปจากไทยเพียงเพราะว่าเรื่องของมนุษยธรรม เพื่อใช้ในโรงเรียน โรงพยาบาล ซึ่งเรื่องอาชญากรรมข้ามชาติรัฐบาลเมียนมาไม่ได้รับรู้ ซึ่งมาตรการที่ไทยกำลังดำเนินการอยู่คิดว่ารัฐบาลเมียนมาเข้าใจในความจำเป็นนี้
แต่ความสัมพันธ์ระหว่างชนกลุ่มน้อยจะมีความสัมพันธ์อย่างไรกับประเทศไทย คิดว่าไทยไม่มีความเป็นต้องกังวลมาก เพราะกลุ่มนั้นก็พึ่งพาไทย ไม่ว่าจะการรักษาพยาบาล การเข้าออกทำธุรกรรมต่างในประเทศไทย
ตัดไฟ ตัดวงจรคอลเซนเตอร์
พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ตั้งข้อสังเกตหน่วยงานที่จะดำเนินการตัดไฟชายแดนไทย-เมียนมา ว่าเมื่อมีผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงและสาธารณะ สาธารณรัฐประชาชนจีนเดินทางมาไทย เป็นการส่งสัญญาณกับการต้องการจัดการกลุ่มจีนเทาในแต่ละประเทศ ซึ่งเป็นการขอความร่วมมือซึ่งกันและกัน
ทั้งนี้เหมือนแต่ละฝ่ายกำลังรอคำตอบซึ่งกันและกัน สุดท้ายมีการตัดทันทีและตัด 5 จุด เป็นสิ่งบอกเหตุที่ต้องประเมินว่า เป็นการตัดสินใจโดยเด็ดขาดของไทย หรือมีสัญญาณมาจากฝ่ายอื่นด้วยแล้วมาบรรจบกัน
ขบวนการแก๊งคอลเซนเตอร์ และกลุ่มจีนเทามีพัฒนาการที่หนีไปหนึ่งก้าวตลอดและจะมีการเตรียมการ ในวันนี้มีการดำเนินมาตรการตัดไฟ เชื่อว่ามีการกระทบไม่มาก เพราะก่อนหน้านี้ชเวก๊กโก ก็เคยโดนตัดไฟ แต่ไปเชื่อมไฟฟ้าที่มาจากฝั่งลาว และคาดว่ามีเครื่องปั่นไฟ มีการสำรองน้ำมัน
แต่ขณะเดียวกันธุรกิจเหล่านี้มีการเคลื่อนตัวไปเรื่อยๆ และเมื่อมีการตัดไฟ มีสิ่งบอกเหตุว่าจะกลับไปยังฝั่งปอยเปตอีกหรือไม่ แต่กาสิโนจะถอยตามแนวตะเข็บตามเขาตะนาวศรี และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเชื่อมโยงไฟฟ้าจากลาวได้
ขบวนการดังกล่าวเป็นภัยคุกคามต่อนานาชาติ ซึ่งถ้าไทยไม่ดำเนินการตัดไฟ จะทำให้เสียภาพลักษณ์ เพราะหลายประเทศอาจมองว่าไทยเป็นทางผ่านให้กลุ่มอาชญากรรมข้ามชาติ
การจัดการกับธุรกิจสีเทา ยืนยันว่าจะมีการหนีไปเรื่อยๆ เหมือนกันการต้องไล่จับตลอดเวลา
อ่านข่าว :
จับตา 9 โมง ตัดไฟฟ้า-อินเตอร์เน็ต-น้ำมัน 5 จุดในเมียนมา
ด่วน! มติสมช.ตัดไฟ 5 จุดเมียนมา 9 โมงพรุ่งนี้ปิดทางคอลเซนเตอร์