วันนี้ (30 เม.ย.2568) นายมณเฑียร เจริญผล ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส อดีตผู้ว่าการ สตง.มาร่วมด้วยในฐานะที่ปรึกษา กมธ.
ก่อนจะเดินเข้าห้องรับรอง ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามนายมณเฑียร ว่าได้เตรียมข้อมูลใดมาเป็นพิเศษ แต่นายมณเฑียรมีสีหน้าเรียบเฉยและไม่ตอบคำถามใด ๆ เพียงแต่พยักหน้าเบา ๆ เป็นการตอบรับ
นายพิศิษฐ์ เปิดเผยว่า ก่อนตนเองจะพ้นจากตำแหน่งผู้ว่าการ สตง. ได้มีส่วนในการเลือกสถานที่ก่อสร้างอาคารที่เหมาะสม และนำพื้นที่กว้าง ๆ มาลงแปลนออกแบบ แต่จะนำแบบแปลนที่เคยออกแบบไว้มาใช้ หรือออกแบบใหม่ ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้บริหารชุดต่อมา
ส่วนการบริหารสัญญา คือช่วงที่ได้ผู้รับจ้างเป็นกิจการร่วมค้า อยู่ในระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้าง และการบริหารพัสดุภาครัฐ สามารถมีกิจการร่วมค้าได้ แต่บริษัทต้องมีผลงานไม่เกินกว่าร้อยละ 50 ของวงเงินงบประมาณ แต่ผู้ร่วมค้าต้องเป็นบริษัทคนไทย จดทะเบียนในประเทศไทย สามารถทำสัญญาร่วมค้ากันได้และนำมาเสนอราคาต่อได้
ส่วนข้อสังเกตว่าจะมีนอมินีแอบแฝงหรือไม่ อดีตผู้ว่าการ สตง. กล่าวว่า การตรวจสอบในอดีตยังไม่มีระเบียบข้อกำหนดที่จะให้ตรวจสอบเชิงลึก หลังเกิดเหตุตึกถล่ม แม้พนักงานสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ได้ทำหน้าที่แล้ว แต่ยังไม่สามารถส่งฟ้องได้ สะท้อนว่าหากจะตรวจสอบเรื่องนอมินีไม่ใช่ตรวจสอบได้ด้วยตาเปล่า แต่ต้องพิสูจน์เรื่องเส้นทางการเงิน เพราะตามระเบียบกำหนดว่า ผู้แข่งขันประมูลโครงการ มีการฮั้วงานในลักษณะสมยอม เอื้อกันถือหุ้นไขว้ไปมา เป็นบริษัทในเครือเดียวกันแล้วมาแข่ง เชื่อว่าจะต้องตรวจสอบเรื่องนี้
นายพิศิษฐ์ ยืนยันว่า เรื่องการออกแบบไม่เกี่ยวข้อง เพราะตนเองพ้นจากตำแหน่งตั้งแต่เลือกพื้นที่ก่อสร้างตึกเสร็จสิ้น แต่การออกแบบเกิดในปี 2561-2562 ทำสัญญาในปี 2563-2564 เป็นช่วงที่พ้นจากตำแหน่งไป 3-4 ปี
ขณะที่นายฉลาด ขามช่วง ประธาน กมธ.ป.ป.ช. ระบุว่า ก่อนหน้านี้ได้เชิญผู้ว่าการ สตง.เข้าชี้แจงแล้ว แต่อีกฝ่ายติดภารกิจ วันนี้ (30 เม.ย.) ทราบว่าจะเดินทางมาด้วยตัวเอง โดยคณะกรรมาธิการมีประเด็นข้อสงสัยเกี่ยวกับการบริหารสัญญาและการควบคุมงานก่อสร้างของผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง
อ่านข่าว
ผู้รับเหมาสร้าง สตง. ร้อง ยธ.ช่วยเหลือ หลังยังไม่ได้ค่าตอบแทนรวมกว่า 10 ล้าน
จับ บ.หัวจง ลอบนำเข้า "ฝุ่นแดง" พบเส้นทางเงินโผล่ "ซิน เคอ หยวน"